A profession has been defined as “a

A profession has been defined as “an occupation whose incumbents create and explicitly utilize
systematically accumulated general knowledge in the solution of problems posed by a clientele” [1].
The development of a body of knowledge, gained through research and theory building is one hallmark
of a profession [1–3]. This body of knowledge is influenced by the knowledge from other disciplines,
sometimes termed ‘borrowed knowledge’ [4,5], yet it remains crucial that practice disciplines such as
nursing develop their own unique knowledge base [5,6]. Importantly, the recent exponential growth in
nursing research has contributed to nursing as a unique scientific discipline with its own language and
knowledge. While in recent years, nursing research has maintained an agenda of evidence-based
patient care and the research outcomes have contributed to translation into practice and policy, developing
new nursing theories alongside this empirical knowledge is needed to help the profession to identify
knowledge strengths and gaps and guide the future direction of clinical practice, future research and
nursing education. Importantly, new nursing theory can explain what nurses do and why and in doing
so potentially reduce conflict between the care team through a consistent approach; allow care to be
mutually understood by patients and families as well as other healthcare professionals; improve patient
care; and enhance professional status.
In nursing, the development of theories has taken place on a number of levels [4]. Meta-theory
refers to the theory of theory and is focused at the “big” philosophical and methodological level. Grand
theories provide a conceptual framework that emphasises broad perspectives on practice but these are
abstract and difficult to test [4]. Middle-range theories are the bridge between grand theories and practice
theories. Such theories present concepts and propositions at a lower level of abstraction, they only deal
with specific phenomena and a limited number of variables ensuring they are narrower in scope than
grand theories, but still have a reasonably broad perspective [4,7]. Finally, practice theories have a limited
scope and level of abstraction as they explore one particular situation found in nursing practice [4,7],
the essence of which has been described as “a desired goal and prescriptions for actions to achieve the
goal” [4]. A new level, termed situation-specific theory has emerged, with the intent to more closely
link theory to research [8–10]. Situation-specific theories focus on specific phenomena and practices,
and may be limited to specific populations

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อาชีพที่ได้รับการ "อาชีพ incumbents สร้าง และใช้อย่างชัดเจนระบบสะสมความรู้ทั่วไปในการแก้ปัญหาของปัญหาที่เกิดจากลูกค้าเป็น" [1]การพัฒนาของร่างกายความรู้ ที่ได้ผ่านการวิจัยและสร้างทฤษฎีคือ หนึ่งเด่นของอาชีพ [1-3] องค์ความรู้นี้ได้รับอิทธิพลความรู้จากสาขาวิชาอื่น ๆบางครั้งเรียกว่า 'ยืมความรู้' 4 [5], แต่ยังคงสำคัญที่ปฏิบัติสาขาวิชาเช่นพยาบาลพัฒนาฐานความรู้ของตนเองไม่ซ้ำ [5,6] สำคัญ การล่าเรขาในวิจัยทางการพยาบาลมีส่วนการพยาบาลเป็นวินัยทางวิทยาศาสตร์เฉพาะด้วยภาษาของตนเอง และความรู้ ในขณะที่ในปีล่าสุด วิจัยทางการพยาบาลยังคงมีวาระพิจารณาตามหลักฐานการดูแลผู้ป่วยและผลการวิจัยมีส่วนการแปลเป็นการปฏิบัติและนโยบาย การพัฒนาทฤษฎีควบคู่ไปกับความรู้เชิงประจักษ์ในการพยาบาลใหม่จำเป็นต้องช่วยอาชีพระบุรู้จุดแข็งช่องว่าง และแนะนำทิศทางในอนาคตของคลินิก อนาคตวิจัย และการศึกษาพยาบาล สำคัญ ทฤษฎีการพยาบาลใหม่สามารถอธิบายได้ว่าพยาบาลทำอะไร และทำไม และ ในการทำดังนั้นจะสามารถลดความขัดแย้งระหว่างทีมงานดูแลผ่านวิธีการสอดคล้องกัน ให้การดูแลจะเข้าใจร่วมกัน โดยผู้ป่วย และครอบครัว ตลอดจน บุคลากรทางการแพทย์อื่น ๆ ปรับปรุงผู้ป่วยดูแล และเพิ่มสถานะของมืออาชีพพยาบาล พัฒนาของทฤษฎีแล้วจำนวนของระดับ [4] Meta-ทฤษฎีหมายถึงทฤษฎีของทฤษฎี และมีความสำคัญระดับ "ใหญ่" ปรัชญา และวิธี แกรนด์ทฤษฎีให้กรอบแนวคิดที่เน้นมุมมองที่กว้างในทางปฏิบัติ แต่เหล่านี้เป็นนามธรรม และยากต่อการทดสอบ [4] ทฤษฎีช่วงกลางเป็นสะพานเชื่อมระหว่างแกรนด์ทฤษฎีและปฏิบัติทฤษฎี ทฤษฎีแนวคิดปัจจุบันและข้อเสนอในระดับต่ำของนามธรรมดังกล่าว พวกเขาเพียงจัดการปรากฏการณ์เฉพาะและจำกัดจำนวนตัวแปรที่สร้างพวกเขาจะแคบลงขอบเขตทฤษฎีแกรนด์ แต่ยังมีมุมมองที่กว้างพอสมควร [4, 7] ในที่สุด ทฤษฎีปฏิบัติมีจำกัดขอบเขตและระดับของ abstraction เป็นพวกเขาสำรวจหนึ่งในสถานการณ์เฉพาะที่พบในพยาบาลปฏิบัติ 4 [7],สาระสำคัญที่ได้รับการอธิบายว่า "เป้าหมายที่ต้องการและใบสั่งยาสำหรับการดำเนินการเพื่อให้บรรลุการเป้าหมาย" [4] ระดับใหม่ ทฤษฎีสถานการณ์เฉพาะลูกค้าที่ได้โผล่ออกมา มีเจตนาที่จะเพิ่มเติมอย่างใกล้ชิดเชื่อมโยงทฤษฎีกับงานวิจัย [8-10] เน้นสถานการณ์เฉพาะทฤษฎีปรากฏการณ์เฉพาะและแนวทางปฏิบัติและอาจจะจำกัดเฉพาะประชากร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อาชีพที่ได้รับการกำหนดให้เป็น "อาชีพที่มีผู้ครอบครองตลาดการสร้างและใช้ประโยชน์อย่างชัดเจน
สะสมระบบความรู้ทั่วไปในการแก้ปัญหาที่เกิดจากลูกค้าส่วน" [1]
การพัฒนาองค์ความรู้ที่ได้รับจากการวิจัยและการสร้างทฤษฎีเป็นหนึ่งในจุดเด่น
ของอาชีพ [1-3] องค์ความรู้นี้ได้รับอิทธิพลจากความรู้จากสาขาวิชาอื่น ๆ ที่
บางครั้งเรียกว่า 'ความรู้ยืม' [4,5] แต่มันก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สาขาวิชาการปฏิบัติเช่น
การพยาบาลการพัฒนาฐานความรู้ของตัวเองที่ไม่ซ้ำกันของพวกเขา [5,6] ที่สำคัญการเจริญเติบโตที่ผ่านมาใน
งานวิจัยทางการพยาบาลได้มีส่วนร่วมในการพยาบาลเป็นวินัยทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่ซ้ำกันด้วยภาษาของตัวเองและ
ความรู้ ในขณะที่ในปีที่ผ่านมา
งานวิจัยทางการพยาบาลยังคงมีวาระการตามหลักฐาน การดูแลผู้ป่วยและผลการวิจัยมีส่วนร่วมในการแปลภาษาในการปฏิบัติและนโยบายการพัฒนา
ทฤษฎีการพยาบาลใหม่ควบคู่ไปกับความรู้เชิงประจักษ์นี้เป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้อาชีพที่จะระบุ
จุดแข็งความรู้และช่องว่างและให้คำแนะนำกับทิศทางในอนาคต ของการปฏิบัติทางคลินิกในอนาคตการวิจัยและ
การศึกษาพยาบาล ที่สำคัญทฤษฎีการพยาบาลใหม่สามารถอธิบายสิ่งที่พยาบาลทำและทำไมและในการทำ
เช่นนั้นอาจลดความขัดแย้งระหว่างทีมงานการดูแลผ่านวิธีการที่สอดคล้อง; ช่วยให้การดูแลที่จะ
เข้าใจร่วมกันระหว่างผู้ป่วยและครอบครัวเช่นเดียวกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพอื่น ๆ ปรับปรุงผู้ป่วย
ดูแล และเพิ่มสถานะการเป็นมืออาชีพ
พยาบาล การพัฒนาทฤษฎีที่ได้เกิดขึ้นอยู่กับจำนวนของระดับ [4]
Meta ทฤษฎี หมายถึงทฤษฎีของทฤษฎีและการมุ่งเน้นไปที่ "ใหญ่" ระดับปรัชญาและระเบียบวิธีการ แกรนด์
ทฤษฎีให้กรอบแนวคิดที่เน้นมุมมองที่กว้างในการปฏิบัติ แต่เหล่านี้เป็น
นามธรรมและยากที่จะทดสอบ [4] ทฤษฎีช่วงกลางเป็นสะพานเชื่อมระหว่างทฤษฎีที่ยิ่งใหญ่และการปฏิบัติ
ทฤษฎี ทฤษฎีดังกล่าวแนวคิดในปัจจุบันและข้อเสนอในระดับที่ต่ำกว่าของนามธรรมพวกเขาจัดการเฉพาะ
กับปรากฏการณ์ที่เฉพาะเจาะจงและในจำนวนที่ จำกัด ของตัวแปรมั่นใจว่าพวกเขามีอยู่ในขอบเขตที่แคบกว่า
ทฤษฎีที่ยิ่งใหญ่ แต่ยังคงมีมุมมองที่กว้างพอสมควร [4,7] ในที่สุด,
ทฤษฎีการปฏิบัติมีการ จำกัด ขอบเขตและระดับของนามธรรมที่พวกเขาสำรวจสถานการณ์เฉพาะหนึ่งที่พบในการปฏิบัติการพยาบาล [4,7]
สาระสำคัญซึ่งได้รับการอธิบายว่า "เป้าหมายที่ต้องการและใบสั่งยาสำหรับการดำเนินการเพื่อให้บรรลุ
เป้าหมาย" [4] . ระดับใหม่ที่เรียกว่าสถานการณ์เฉพาะทฤษฎีได้โผล่ออกมาด้วยความตั้งใจให้มากขึ้นอย่างใกล้ชิด
เชื่อมโยงทฤษฎีการวิจัย [8-10] ทฤษฎีสถานการณ์เฉพาะมุ่งเน้นไปที่ปรากฏการณ์ที่เฉพาะเจาะจงและการปฏิบัติ
และอาจจะ จำกัด เฉพาะประชากร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นอาชีพที่ถูกนิยามว่า " เป็นอาชีพที่สร้างและใช้ตำแหน่งอย่างชัดเจนมีระบบสะสมความรู้ทั่วไปในการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากลูกค้า " [ 1 ]การพัฒนาองค์ความรู้ที่ได้รับจากการวิจัยและทฤษฎีการสร้างเป็นจุดเด่นของอาชีพ [ 1 - 1 ] ร่างกายของความรู้ คือ อิทธิพลจากความรู้จากสาขาอื่น ๆบางครั้งเรียกว่า ' ยืมความรู้ ' [ 4 , 5 ] แต่ก็ยังคงฝึกวินัยที่สำคัญเช่นพยาบาลพัฒนาฐานความรู้ที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง [ 5 , 6 ] คือ การเจริญเติบโตที่ชี้แจงในล่าสุดการวิจัยทางการพยาบาลมีส่วนช่วยการพยาบาลเป็นวินัยทางวิทยาศาสตร์ที่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง และภาษาความรู้ ในขณะที่ใน ปี ล่าสุด ทางการยังคงเป็นวาระของหลักฐานเชิงประจักษ์การดูแลผู้ป่วยและผลการวิจัยสนับสนุนการแปลเป็นนโยบายและการปฏิบัติเพื่อการพัฒนาทฤษฎีทางการพยาบาลใหม่ควบคู่ไปกับความรู้เชิงประจักษ์นี้จะต้องช่วยมืออาชีพเพื่อระบุรู้จุดแข็งและช่องว่างและแนวทางทิศทางการปฏิบัติทางคลินิกและการวิจัยต่อไปในอนาคตการศึกษาพยาบาล คือทฤษฎีพยาบาลใหม่ที่สามารถอธิบายสิ่งที่พยาบาลทำ ทำไม และในการทำดังนั้น อาจลดความขัดแย้งระหว่างทีมการดูแลผ่านวิธีการที่สอดคล้องกัน ; ช่วยให้การดูแลเป็นร่วมกันเข้าใจผู้ป่วยและครอบครัว รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพอื่น ๆ ปรับปรุงผู้ป่วยดูแล และเพิ่มสถานะมืออาชีพในการพยาบาล การพัฒนาทฤษฎีมีสถานที่เกี่ยวกับจำนวนของระดับ [ 4 ] ทฤษฎีเมตาหมายถึงทฤษฎีและทฤษฎีจะเน้นที่ " บิ๊ก " ปรัชญาและวิธีการระดับ แกรนด์ทฤษฎีให้แนวคิดที่เน้นมุมมองที่กว้างในการปฏิบัติ แต่เหล่านี้นามธรรมและยากที่จะทดสอบ [ 4 ] ทฤษฎีสนามกลางเป็นสะพานระหว่างทฤษฎี และการปฏิบัติทฤษฎี ทฤษฎีดังกล่าวนำเสนอแนวคิดและข้อเสนอในระดับล่างของพวกเขาเท่านั้นจัดการนามธรรมกับปรากฏการณ์ที่เฉพาะเจาะจงและมีจำนวน จำกัด ของตัวแปรเพื่อให้พวกเขามีขอบเขตแคบกว่าทฤษฎีแกรนด์ แต่ยังคงมีมุมมองกว้างพอสมควร [ 4,7 ] ในที่สุด ทฤษฎี ปฏิบัติ มี จำกัดขอบเขตและระดับนามธรรมเช่นที่พวกเขาสำรวจหนึ่งโดยเฉพาะสถานการณ์ที่พบในการปฏิบัติการพยาบาล [ 4,7 ]สาระสําคัญซึ่งได้รับการอธิบายว่า " เป้าหมายที่ต้องการและพร้อมสำหรับการกระทำที่จะบรรลุเป้าหมาย " [ 4 ] ระดับใหม่ที่เรียกว่าทฤษฎีเฉพาะสถานการณ์ได้เกิดขึ้นด้วยเจตนาอย่างใกล้ชิดมากขึ้นเชื่อมโยงทฤษฎีกับการวิจัย 8 ) [ 10 ] สถานการณ์เฉพาะทฤษฎีมุ่งเน้นปรากฏการณ์ที่เฉพาะเจาะจงและแนวทางปฏิบัติและอาจถูก จำกัด ให้ประชากรที่เฉพาะเจาะจง