lying is often seen as bad behavior

lying is often seen as bad behavior in children. but what can we do to encourage children to tell the true?

Children learn to lie from about the age of two. The first lies children learn to tell are denials of wrongdoing. From the age of three they also learn to tell "white" lies. These are lies that are told to benefit other people or to be polite. For example, a child learns that when you've made a surprise birthday present for Mummy, you don't tell her about it and when your aunt gives you a present you should thank her, even if it's horrible. Telling these lies well is an important social skill.

Young children start to learn to lie as they mature cognitively and socially. In order to lie, children have to understand that other people have their own beliefs and thoughts that are not the same as theirs. A child also has to realize that other people may believe things that are wrong. This is a skill called theory of mind and it develops slowly in the preschool and kindergarten years. As children become more able to think about what other people think and feel, they learn when it's appropriate to lie and how to lie convincingly.

Lying convincingly is difficult for young children. They often fail at this, especially if they are asked further question. Failing to learn when to lie and how to do so convincingly can lead to problems for older children. Research has shown that adolescents with lower social skills are less convincing when lying than their peers with better social skills. Persistent lying is also a sign that children have not developed socially and cognitively as much as their peers. Children who lie often are more likely to be aggressive, involved in crime or show other disruptive behavior.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มักจะเห็นการโกหกเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีในเด็ก แต่เราทำอะไรเพื่อส่งเสริมให้เด็กบอกความจริงหรือไม่เด็กเรียนรู้ที่จะโกหกเกี่ยวกับอายุของทั้งสองจาก ตั้งแรกที่เด็กเรียนรู้ที่จะบอกปฏิเสธของการสืบสวนได้ จากยุคที่สาม พวกเขายังเรียนบอกอยู่ "สีขาว" นี่คือการโกหกที่บอกว่า มีประโยชน์กับคนอื่น ๆ หรือมีความสุภาพ ตัวอย่าง เด็กเรียนรู้ที่เมื่อคุณได้ทำเซอร์ไพร์สวันเกิดปัจจุบันสำหรับมัมมี่ คุณไม่บอกเธอเลย และเมื่อคุณป้าให้คุณขวัญ คุณควรขอบคุณเธอ แม้ว่ามันจะน่ากลัว บอกอยู่นี้ดีมีทักษะทางสังคมสำคัญเด็กเริ่มเรียนรู้ที่จะอยู่กับผู้ใหญ่ cognitively และสังคม การนอน เด็กต้องเข้าใจว่า คนอื่นมีความเชื่อและความคิดที่ไม่เหมือนตนของตนเอง เด็กยังได้ตระหนักว่า คนอื่นอาจเชื่อว่าสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เป็นทักษะที่เรียกว่าทฤษฎีของจิตใจ และจะพัฒนาอย่างช้า ๆ ในปีก่อนวัยเรียนเด็กอนุบาล เป็นเด็กเป็นมากขึ้นสามารถคิดสิ่งอื่น ๆ คนคิดและรู้สึก พวกเขาเรียนเมื่อนั้นมีอยู่และวิธีนอน convincinglyนอน convincingly เป็นเรื่องยากสำหรับเด็ก พวกเขามักจะล้มเหลวที่นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพวกเขาจะถามอีกคำถาม การเรียนรู้วิธีการทำดังนั้น convincingly และเมื่อนอนอาจทำให้ปัญหาสำหรับเด็ก วิจัยได้แสดงให้เห็นว่า วัยรุ่น มีทักษะทางสังคมต่ำจะทำให้น้อยลงเมื่อนอนกับทักษะสังคมที่ดีกว่ากับเพื่อน ๆ ของเขา แบบนอนเป็นเครื่องหมายที่เด็กมีพัฒนาสังคม และ cognitively เท่า กับเพื่อน ๆ ของเขา เด็กที่นอนมักจะมีแนวโน้มที่จะก้าวร้าว เกี่ยวข้องกับอาชญากรรม หรือแสดงพฤติกรรมอื่น ๆ ขวัญ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นอนมักจะเห็นเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีในเด็ก แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้เพื่อส่งเสริมให้เด็กที่จะบอกความจริงหรือไม่เด็กเรียนรู้ที่จะอยู่ประมาณอายุสอง ครั้งแรกที่อยู่ให้เด็กเรียนรู้ที่จะบอกจะปฏิเสธการกระทำผิดกฎหมาย ตั้งแต่อายุสามที่พวกเขายังได้เรียนรู้ที่จะบอก "สีขาว" โกหก เหล่านี้เป็นเรื่องโกหกที่บอกว่าจะได้รับประโยชน์คนอื่นหรือจะเป็นสุภาพ ยกตัวอย่างเช่นเด็กเรียนรู้ว่าเมื่อคุณได้ทำของขวัญวันเกิดเซอร์ไพรส์คุณแม่คุณไม่บอกเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้และเมื่อป้าของคุณให้เป็นของขวัญคุณควรจะขอบคุณเธอถึงแม้ว่ามันจะน่ากลัว โกหกเหล่านี้ได้ดีเป็นทักษะที่สำคัญทางสังคม. เด็กเริ่มเรียนรู้ที่จะอยู่ที่พวกเขาเป็นผู้ใหญ่รับรู้และสังคม เพื่อที่จะนอนเด็กต้องเข้าใจว่าคนอื่นมีความเชื่อของตัวเองและความคิดที่ไม่ได้เช่นเดียวกับพวกเขา เด็กยังมีความรู้ว่าคนอื่น ๆ อาจจะเชื่อในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง นี้เป็นทักษะที่เรียกว่าทฤษฎีของจิตใจและจะพัฒนาช้าลงในปีที่ผ่านมาเด็กก่อนวัยเรียนและโรงเรียนอนุบาล ในขณะที่เด็กมากขึ้นสามารถที่จะคิดเกี่ยวกับสิ่งที่คนอื่นคิดและความรู้สึกที่พวกเขาเรียนรู้เมื่อมันเหมาะสมที่จะอยู่และวิธีการที่จะโกหกเนียน. โกหกเนียนเป็นเรื่องยากสำหรับเด็กเล็ก พวกเขามักจะล้มเหลวในการนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพวกเขาจะถามคำถามเพิ่มเติม ล้มเหลวในการเรียนรู้เมื่อไปนอนและวิธีการที่จะทำเช่นนั้นเชื่อถือได้สามารถนำไปสู่ปัญหาสำหรับเด็กที่มีอายุมากกว่า มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าวัยรุ่นที่มีทักษะต่ำทางสังคมเป็นที่น่าเชื่อถือน้อยลงเมื่อนอนอยู่กว่าเพื่อนของพวกเขาที่มีทักษะทางสังคมที่ดีกว่า โกหกถาวรนอกจากนี้ยังเป็นสัญญาณว่าเด็กยังไม่ได้พัฒนาสังคมและรับรู้มากที่สุดเท่าที่เพื่อนร่วมงานของพวกเขา เด็กที่โกหกมักจะมีแนวโน้มที่จะก้าวร้าว, การมีส่วนร่วมในการกระทำผิดหรือแสดงพฤติกรรมก่อกวนอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โกหก มักจะเห็นเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีในเด็ก แต่สิ่งที่เราสามารถทำเพื่อส่งเสริมให้เด็กที่จะบอกจริง

เด็กเรียนรู้ที่จะโกหกจากเกี่ยวกับอายุ 2 ครั้งแรกเด็กอยู่เรียนรู้ที่จะบอกปฏิเสธการกระทำผิด . ตั้งแต่อายุ สาม พวกเขายังเรียนรู้ที่จะบอก " สีขาว " อยู่ เหล่านี้เป็นคำโกหกที่บอกเพื่อประโยชน์คนอื่น หรืออย่างสุภาพ ตัวอย่างเช่นเด็กได้เรียนรู้ว่าเมื่อคุณได้ทำเซอร์ไพรส์วันเกิดให้คุณแม่ คุณอย่าไปบอกเธอเกี่ยวกับมัน และเมื่อป้าของคุณให้คุณปัจจุบันคุณควรจะขอบคุณเธอ ถ้ามันแย่มาก บอกคำโกหกเหล่านี้ก็เป็นทักษะทางสังคมที่สำคัญ

เด็กเริ่มเรียนรู้ที่จะโกหกเช่นที่พวกเขาเป็นผู้ใหญ่ การประมวลผล และสังคม เพื่อที่จะโกหกลูกต้องเข้าใจว่า คนอื่นมีความเชื่อและความคิดที่ไม่เหมือนพวกเขา เด็กยังต้องตระหนักว่า คนอื่นอาจจะเชื่อในสิ่งที่ผิด นี้เป็นทักษะที่เรียกว่าทฤษฎีของจิตใจและพัฒนาอย่างช้าๆในปีก่อนวัยเรียนและโรงเรียนอนุบาล . ในฐานะที่เป็นเด็กจะสามารถเพื่อคิดเกี่ยวกับสิ่งที่คนอื่นคิดและรู้สึกพวกเขาเรียนรู้เมื่อมันเหมาะสมที่จะโกหกแล้วโกหก convincingly .

นอนทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับเด็ก พวกเขามักจะล้มเหลว โดยเฉพาะถ้าพวกเขาจะถามคำถามต่อไป ความล้มเหลวที่จะเรียนรู้ที่จะโกหกและวิธีการทำ convincingly สามารถทำให้เกิดปัญหาสำหรับเด็กโตการวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าวัยรุ่นที่มีระดับทักษะสังคมเชื่อน้อยลงเมื่อโกหกกว่าเพื่อนของพวกเขามีทักษะทางสังคมที่ดี ถาวรการโกหกก็เป็นสัญญาณว่าเด็กไม่ได้พัฒนาสังคมและการประมวลผลเท่าที่เพื่อนๆ ของเขา เด็กที่โกหกมักจะมีแนวโน้มที่จะก้าวร้าว ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรม หรือแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวอื่นๆ