The scientific method is a body of

The scientific method is a body of techniques for investigating phenomena, acquiring new knowledge, or correcting and integrating previous knowledge.[1] To be termed scientific, a method of inquiry must be based on empirical and measurable evidence subject to specific principles of reasoning.[2] The Oxford English Dictionary defines the scientific method as "a method or procedure that has characterized natural science since the 17th century, consisting in systematic observation, measurement, and experiment, and the formulation, testing, and modification of hypotheses."[3]

The chief characteristic which distinguishes the scientific method from other methods of acquiring knowledge is that scientists seek to let reality speak for itself, supporting a theory when a theory's predictions are confirmed and challenging a theory when its predictions prove false. Although procedures vary from one field of inquiry to another, identifiable features distinguish scientific inquiry from other methods of obtaining knowledge. Scientific researchers propose hypotheses as explanations of phenomena and design experimental studies to test these hypotheses via predictions which can be derived from them. These steps must be repeatable to guard against mistake or confusion in any particular experimenter. Theories that encompass wider domains of inquiry may bind many independently derived hypotheses together in a coherent, supportive structure. Theories, in turn, may help form new hypotheses or place groups of hypotheses into context.

Scientific inquiry is intended to be as objective as possible in order to minimize bias. Another basic expectation is the documentation, archiving and sharing of all data collected or produced and of the methodologies used so they may be available for careful scrutiny and attempts by other scientists to reproduce and verify them. This practice, known as full disclosure, also means that statistical measures of their reliability may be made.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิธีการทางวิทยาศาสตร์เป็นตัวเทคนิคการตรวจสอบปรากฏการณ์ ได้ความรู้ใหม่ หรือแก้ไข และรวมความรู้ก่อนหน้านี้[1] จะเรียกว่าวิทยาศาสตร์ วิธีการสอบถามต้องขึ้นอยู่กับหลักฐานประจักษ์ และวัดขึ้นอยู่กับหลักการของเหตุผล[2] พจนานุกรมภาษาอังกฤษออกซ์ฟอร์ดการกำหนดวิธีการทางวิทยาศาสตร์เป็น "วิธีการหรือกระบวนการที่มีลักษณะธรรมชาติวิทยาศาสตร์ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ประกอบด้วยในการสังเกตอย่างมีระบบ วัด ทดลอง และการกำหนด ทดสอบ และปรับเปลี่ยนสมมุติฐาน"[3]

ลักษณะหัวหน้าซึ่งวิธีการทางวิทยาศาสตร์แตกต่างจากวิธีอื่น ๆ ได้รับรู้ ได้ว่า นักวิทยาศาสตร์การค้นหาให้จริงพูดให้ตัวเอง สนับสนุนทฤษฎีเมื่อคาดคะเนของทฤษฎีได้รับการยืนยัน และท้าทายทฤษฎีเมื่อคาดคะเนการพิสูจน์ผิดพลาด แม้ว่าขั้นตอนแตกต่างจากสอบถามไปอีก คุณลักษณะส่วนบุคคลแยกวิทยาศาสตร์สอบถามจากวิธีการอื่น ๆ ของการรับรู้ นักวิจัยทางวิทยาศาสตร์เสนอสมมุติฐานเป็นคำอธิบายของปรากฏการณ์ และการศึกษาทดลองเพื่อทดสอบสมมุติฐานเหล่านี้ผ่านการคาดคะเนซึ่งสามารถได้มาจากการออกแบบ ขั้นตอนเหล่านี้ต้องการรักษาผิดพลาดหรือสับสนใน experimenter ใด ๆ เฉพาะ ทฤษฎีที่รอบเมนกว้างสอบถามอาจผูกสมมุติฐานหลายอย่างอิสระได้รับร่วมกันในโครงสร้างของ coherent สนับสนุน ทฤษฎี จะ อาจช่วยให้ฟอร์มสมมุติฐานใหม่ หรือทำกลุ่มของสมมุติฐานในบริบทนั้น

สอบถามทางวิทยาศาสตร์มีวัตถุประสงค์เป็นวัตถุประสงค์ที่เป็นไปได้เพื่อลดความโน้มเอียงได้ ความคาดหวังพื้นฐานอื่นเป็นเอกสาร เก็บ และใช้ข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวม หรือผลิต และวิธีการใช้ดังนั้นพวกเขาอาจมี scrutiny ระมัดระวังและความพยายาม โดยนักวิทยาศาสตร์อื่น ๆ เพื่อทำให้ แบบฝึกหัดนี้ เป็นการเปิดเผยข้อมูลเต็ม ยังหมายความ ว่า มาตรการทางสถิติของความน่าเชื่อถือของพวกเขาอาจจะทำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิธีการทางวิทยาศาสตร์เป็นตัวของเทคนิคในการตรวจสอบปรากฏการณ์การแสวงหาความรู้ใหม่หรือแก้ไขและการบูรณาการความรู้ก่อน. [1] ที่จะเรียกทางวิทยาศาสตร์วิธีการในการสอบสวนต้องอยู่บนพื้นฐานการทดลองและการวัดเรื่องหลักฐานที่หลักการของการให้เหตุผล [2] ฟอร์ดพจนานุกรมภาษาอังกฤษกำหนดวิธีการทางวิทยาศาสตร์เป็น "วิธีการหรือขั้นตอนที่มีความโดดเด่นทางด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ซึ่งประกอบด้วยในการสังเกตระบบการวัดและการทดสอบและสูตรการทดสอบและการเปลี่ยนแปลงของสมมติฐาน." [ 3] ลักษณะที่แตกต่างหัวหน้าวิธีการทางวิทยาศาสตร์จากวิธีการอื่น ๆ ของการแสวงหาความรู้ที่นักวิทยาศาสตร์พยายามที่จะให้ความเป็นจริงพูดให้ตัวเองที่สนับสนุนทฤษฎีเมื่อการคาดการณ์ของทฤษฎีได้รับการยืนยันและท้าทายทฤษฎีของการคาดการณ์เมื่อพิสูจน์เท็จ แม้ว่าขั้นตอนแตกต่างจากสาขาสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมไปยังอีกคุณสมบัติที่สามารถระบุความแตกต่างสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมทางวิทยาศาสตร์จากวิธีการอื่น ๆ ของการได้รับความรู้ นักวิจัยทางวิทยาศาสตร์เสนอสมมติฐานเป็นคำอธิบายของปรากฏการณ์และการออกแบบการศึกษาทดลองเพื่อทดสอบสมมติฐานเหล่านี้ผ่านการคาดการณ์ที่จะได้รับจากพวกเขา ขั้นตอนเหล่านี้จะต้องทำซ้ำเพื่อป้องกันความผิดพลาดหรือความสับสนในการทดลองใด ๆ ทฤษฎีที่ห้อมล้อมโดเมนกว้างของสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมอาจผูกหลายสมมติฐานที่ได้มาร่วมกันได้อย่างเป็นอิสระในการเชื่อมโยงโครงสร้างการสนับสนุน ทฤษฎีในทางกลับกันอาจช่วยให้รูปแบบการตั้งสมมติฐานหรือกลุ่มใหม่สถานที่ของสมมติฐานในบริบทสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมทางวิทยาศาสตร์มีจุดมุ่งหมายที่จะเป็นเป้าหมายที่เป็นไปได้เพื่อลดอคติ อีกความคาดหวังพื้นฐานคือเอกสารที่เก็บและแบ่งปันข้อมูลทั้งหมดที่เก็บรวบรวมหรือผลิตและวิธีการที่ใช้เพื่อให้พวกเขาอาจจะพร้อมใช้งานสำหรับการตรวจสอบอย่างระมัดระวังและความพยายามของนักวิทยาศาสตร์อื่น ๆ ในการทำซ้ำและตรวจสอบพวกเขา การปฏิบัตินี้เรียกว่าการเปิดเผยข้อมูลเต็มรูปแบบนอกจากนี้ยังหมายความว่ามาตรการทางสถิติของความน่าเชื่อถือของพวกเขาอาจจะทำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ระเบียบวิธีทางวิทยาศาสตร์คือร่างกายของเทคนิคเพื่อศึกษาปรากฏการณ์การรับความรู้ใหม่ ๆหรือการแก้ไขและการบูรณาการความรู้ก่อนหน้า [ 1 ] เป็น termed ทางวิทยาศาสตร์ , การสอนของต้องอยู่บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ และวัดเฉพาะเรื่องหลักการแห่งเหตุผล[ 2 ] พจนานุกรมภาษาอังกฤษ Oxford กำหนดระเบียบวิธีทางวิทยาศาสตร์เป็นวิธีการหรือกระบวนการที่มีลักษณะวิทยาศาสตร์ธรรมชาติตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ประกอบด้วย ในการสังเกต และระบบการวัด การทดลอง และการ ทดสอบ และการปรับปรุงสมมติฐาน [ 3 ]

"หัวหน้า ชนิดที่แตกต่างจากวิธีการอื่น ๆของวิธีทางวิทยาศาสตร์รับความรู้ที่นักวิทยาศาสตร์พยายามที่จะให้ความเป็นจริงพูดสำหรับตัวเอง สนับสนุนทฤษฎีเมื่อการคาดการณ์ของทฤษฎีที่ได้รับการยืนยันและท้าทายทฤษฎีเมื่อการคาดการณ์พิสูจน์ผิด ถึงแม้ว่าขั้นตอนแตกต่างกันไปจากเขตข้อมูลหนึ่งของสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมอื่นคุณสมบัติที่สามารถระบุตัวแยกทางวิทยาศาสตร์ สอบถามจากวิธีการอื่น ๆของการได้รับความรู้ นักวิจัยทางวิทยาศาสตร์เสนอสมมติฐานเป็นคำอธิบายของปรากฏการณ์และการออกแบบการศึกษาทดลองเพื่อทดสอบสมมติฐานเหล่านี้ผ่านการคาดการณ์ซึ่งได้มาจากพวกเขา ขั้นตอนเหล่านี้จะต้องทำซ้ำเพื่อป้องกันความผิดพลาดหรือความสับสนในการทดลองที่เฉพาะเจาะจงใด ๆทฤษฎีที่ครอบคลุมกว้างของโดเมนจะผูกมัดอิสระได้สอบถามหลายสมมติฐานด้วยกันในความ เกื้อกูล โครงสร้าง ทฤษฎีในการเปิดอาจช่วยสร้างสมมติฐานใหม่ หรือที่กลุ่มของประชาชนในบริบท การแสวงหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์

ตั้งใจที่จะเป็นวัตถุประสงค์ที่เป็นไปได้เพื่อลดอคติ . ความคาดหวังพื้นฐานอื่น คือ เอกสารการจัดเก็บและแบ่งปันข้อมูลทั้งหมดที่เก็บรวบรวมหรือผลิตและของวิธีที่ใช้เพื่อให้พวกเขาอาจจะสามารถใช้ได้สำหรับการตรวจสอบอย่างระมัดระวังและความพยายามโดยนักวิทยาศาสตร์อื่น ๆเพื่อสร้างและตรวจสอบพวกเขา การปฏิบัตินี้เป็นที่เปิดเผย ยังหมายความ ว่า มาตรการทางสถิติของความน่าเชื่อถือของพวกเขาอาจจะทำ