The experiment was conducted in Kas

The experiment was conducted in Kashmir Valley,
J&K, India, which is situated at an altitude of 1390 meters
above mean sea level and between 34º75/North latitude
and 74º50/East longitude. Climate is wet temperate type
with severe winter temperature ranging from -15 to 3ºC and
the precipitation occur in form of snow and rain. Spring
season also experiences heavy to light snow fall along with
rain, during summer season temperature ranges from 15-
35ºC with cooler nights. Soil of the site is sandy loam. For
this experiment old and unproductive almond trees 40-50
years old were selected. Preliminary survey was carried out
to record the health, yield potential and the average
production. The average productivity of dry almond recorded
in the range of 0.5 to 1 kg/tree. Average annual shoot
growth was in the range of 15 to 20 cm with high incidence
of twig dieback, blossom blight, shot hole, gummosis and
insects like stem borer, hull borer etc. The canopy of
individual tree was not in proper shape and full of criss
crossed and unmanaged branches. All the almond trees
selected for rejuvenation were earmarked with red paint.
Three levels of pruning, i e P1 = 1st order pruning of
branches, existing on main trunk, P2 = Pruning of 2nd
order branches on the secondary branches and P3 = 3rd
order branches pruning at the top and periphery of the tree
with two levels of fertilizer dose, F1 = 0 kg FYM+500 g N
+ 250 g P2O5 + 700 g K2O, F2 = 50 Kg FYM + 500 g N +
250 g P2O5 + 700 g K2O), two water harvesting structures
(W1 = cup-plate shape and W2 = Full Moon shape) and top
working with two varieties (V1 = Waris and V2 = Pranyaj).
Pruning treatments were employed as per methodology
described by Krueger et al. (1996) starting from last week
of January to first week of February. Major cut portion
were pasted with Chaubattia paste. Over-crowded, dried
and diseased branches were removed completely. Half dose
of nitrogen, full dose of P2O5 and K2O along with full dose
of FYM were applied in January-February and remaining
half dose of N was applied in the 1st week of June. Tree
basins were covered with black polythene mulch having
250 micron thickness. During subsequent years, light
corrective pruning was done to avoid breakage of branches.
Scion wood of Waris and Pranyaj varieties were collected
from healthy and certified progeny bank of Central Institute
of Temperate Horticulture, Srinagar. Top grafting by cleft
method was done in February-March on one year old water
shoots available on scaffold branches. To prevent leaf curl
and other fungal diseases Copper-oxy-chloride @ 300 g/
100 litre of water was sprayed twice during November and
December. Observations on graft success, scion growth
branches, nut weight, yield per tree and canopy area were
recorded. Per cent canopy growth over control canopy (tree
left un-rejuvenated) was calculated as per formulae:
Canopy area of rejuvenated trees ––––––––––––––––––––––––––– × 100 Canopy of control tree
The present experiment was carried out in Factorial
Randomized Block Design with four factors each treatment
was replicated thrice with two plants per replication. Data
were statistically analyzed with the help of Minitab software
and are presented in the tables for interpretation of the
results.
RESULTS AND DISCUSSION
Main effect of pruning levels, fertilizer doses, water
management techniques and varieties on grafting success
and growth parameters in rejuvenated trees
The main effect of pruning level, fertilizer level, water
conservation techniques and varieties has great influence
on graft success and growth of the scion of rejuvenated
trees. Significant effect of pruning level recorded on linear
growth of scion, highest growth (53.54 cm) noted in P1
followed by P2 (50.45), whereas lowest in P3. However the
P2 had highest number of laterals (11.41) and graft success
37.55 (37.97) per cent. The fertilizer dose had significant
impact on the different growth parameters and graft success.
Significantly highest linear growth (52.27 cm) and diameter
of laterals (5.84 mm) were recorded in F1 and number of
laterals (10.58) and graft success (29.50%) were noted in
F2 level. The linear growth (52.25 cm), number of laterals
(10.47), diameter of laterals (5.37) and graft success (27.73)
were recorded significantly high in W1 water harvesting
structure. The V1 (Waris) variety had significant effect on
linear growth of scion (54.61 cm) and graft success
(36.12%), however varietal difference for number of laterals
and their diameter found non-significant (Table 1).
Main effect of pruning levels, fertilizer doses, water
management techniques and varieties on canopy area and
yield characters in rejuvenated trees
The effects of different variables were recorded on
canopy area and growth, nut weight and yield/tree, 3 years
after rejuvenation. Significantly highest canopy area (2.12
m2
) were recorded in P1 level closely followed by P3 level.
Similarly canopy g

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การทดลองที่ได้ดำเนินการในหุบเขาแคชเมียร์,
J & K, อินเดีย, ซึ่งตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 1,390 เมตร
เหนือระดับน้ำทะเลเฉลี่ยและระหว่าง34º75 / ละติจูดเหนือ
และ74º50ตะวันออก / เส้นแวง สภาพภูมิอากาศเป็นประเภทหนาวเปียก
มีอุณหภูมิในช่วงฤดูหนาวที่รุนแรงตั้งแต่ -15 ถึง3ºCและ
ฝนเกิดขึ้นในรูปแบบของหิมะและฝนตก ฤดูใบไม้ผลิ
ฤดูยังมีประสบการณ์หนักกับแสงหิมะฤดูใบไม้ร่วงพร้อมกับ
ฝนในช่วงฤดูร้อนอุณหภูมิช่วงฤดูกาลจาก 15
35ºCกับคืนเย็น ดินของเว็บไซต์ที่เป็นดินร่วนปนทราย สำหรับ
การทดลองนี้ต้นไม้เก่าแก่และไม่ก่อผลอัลมอนด์ 40-50
เก่าปีที่ได้รับการคัดเลือก สำรวจเบื้องต้นได้ดำเนินการ
ในการบันทึกสุขภาพที่มีศักยภาพผลผลิตและค่าเฉลี่ยของ
การผลิต ผลผลิตเฉลี่ยของอัลมอนด์แห้งที่บันทึกไว้
ในช่วง 0.5 ถึง 1 กก. / ต้น เฉลี่ยยิงประจำปี
การเจริญเติบโตอยู่ในช่วง 15 ถึง 20 ซม. ที่มีอุบัติการณ์สูง
กิ่ง dieback ทำลายดอกหลุมยิง gummosis และ
แมลงเช่นหนอนเจาะลำต้นเรือหนอนเจาะ ฯลฯ ร่มเงาของ
ต้นไม้แต่ละบุคคลไม่ได้อยู่ในรูปทรงที่เหมาะสมและเต็มรูปแบบของ กาก
สาขาข้ามและไม่มีการจัดการ ต้นไม้อัลมอนด์
เลือกสำหรับการฟื้นฟูได้รับการจัดสรรด้วยสีแดง.
สามระดับของการตัดแต่งกิ่งคือ P1 = ตัดแต่งกิ่งเพื่อที่ 1 ของ
สาขาที่มีอยู่บนลำต้นหลัก P2 = การตัดแต่งกิ่งที่ 2
สาขาการสั่งซื้อในสาขามัธยมศึกษาและ P3 = 3
สาขาเพื่อการตัดแต่งกิ่ง ที่ด้านบนและรอบนอกของต้นไม้
ที่มีสองระดับของปริมาณปุ๋ย F1 = 0 กก. FYM + 500 กรัม N
+ 250 กรัม P2O5 + 700 กรัม K2O, F2 = 50 กก FYM + 500 กรัม N +
250 กรัม P2O5 + 700 กรัม K2O ) สองโครงสร้างเก็บเกี่ยวน้ำ
(W1 = รูปร่างถ้วยจานและ W2 = พระจันทร์เต็มดวงรูปร่าง) และด้านบน
ทำงานร่วมกับทั้งสองสายพันธุ์ (V1 = Waris และ V2 = Pranyaj).
การรักษาการตัดแต่งกิ่งที่ถูกว่าจ้างให้เป็นไปตามวิธีการ
อธิบายโดยครูเกอร์, et al (1996) เริ่มต้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา
ของเดือนมกราคมที่จะถึงสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนการตัดที่สำคัญ
ถูกวางกับ Chaubattia วาง Over-แออัดแห้ง
และสาขาที่เป็นโรคถูกลบออกอย่างสมบูรณ์ ปริมาณครึ่งหนึ่ง
ของไนโตรเจนปริมาณเต็มรูปแบบของ P2O5 และ K2O พร้อมกับปริมาณที่เต็มรูปแบบ
ของ FYM ถูกนำไปใช้ในเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์และเหลือ
ปริมาณของ N ครึ่งหนึ่งถูกนำมาใช้ในสัปดาห์ที่ 1 มิถุนายน ต้นไม้
อ่างถูกปกคลุมไปด้วยสีดำคลุมด้วยหญ้าพลาสติกที่มี
ความหนา 250 ไมครอน ในช่วงหลายปีต่อมาแสง
การตัดแต่งกิ่งการแก้ไขคือทำเพื่อหลีกเลี่ยงการแตกหักของสาขา.
ไม้การปลูกถ่ายอวัยวะของ Waris และ Pranyaj พันธุ์ที่ถูกเก็บรวบรวม
จากการมีสุขภาพดีและได้รับการรับรองธนาคารลูกหลานของสถาบัน
ของเมืองหนาวพืชสวนศรีนาการ์ การปลูกถ่ายอวัยวะสูงสุดโดยแหว่ง
วิธีการได้ทำในเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคมในน้ำหนึ่งปี
ยิงที่มีอยู่บนกิ่งไม้นั่งร้าน เพื่อป้องกันไม่ให้ขดใบ
และโรคเชื้อราอื่น ๆ ทองแดง Oxy-คลอไรด์ 300 กรัม /
100 ลิตรของน้ำพ่นสองครั้งในช่วงเดือนพฤศจิกายนและ
ธันวาคม ข้อสังเกตเกี่ยวกับความสำเร็จของการปลูกถ่ายอวัยวะ, การเจริญเติบโตของการปลูกถ่ายอวัยวะ
สาขาน้ำหนักถั่วผลผลิตต่อต้นและหลังคาพื้นที่ที่ถูก
บันทึกไว้ การเจริญเติบโตร้อยหลังคาท้องฟ้าเหนือการควบคุม (ต้นไม้ต่อ
ซ้ายยกเลิกพลังวังชา) ที่คำนวณตามสูตร:
บริเวณหลังคาของต้นไม้พลังวังชา ------------------------- - × 100 หลังคาของต้นไม้ควบคุม
การทดลองในปัจจุบันได้ดำเนินการในปัจจัย
สุ่มออกแบบบล็อกที่มีปัจจัยสี่การรักษาแต่ละ
ถูกจำลองแบบสามกับสองต้นต่อการจำลองแบบ ข้อมูล
ที่ได้มาวิเคราะห์ทางสถิติด้วยความช่วยเหลือของซอฟต์แวร์ Minitab
และจะถูกนำเสนอในตารางสำหรับการตีความของ
ผล.
ผลและอภิปราย
ผลกระทบหลักของระดับการตัดแต่งกิ่งปริมาณปุ๋ยน้ำ
เทคนิคการจัดการและพันธุ์ในการปลูกถ่ายอวัยวะที่ประสบความสำเร็จ
และการเติบโตของพารามิเตอร์ในต้นไม้พลังวังชา
หลัก ผลของระดับการตัดแต่งกิ่งระดับปุ๋ยน้ำ
เทคนิคการอนุรักษ์และพันธุ์มีอิทธิพลอย่างมาก
ต่อความสำเร็จปลูกถ่ายอวัยวะและการเจริญเติบโตของการปลูกถ่ายอวัยวะของพลังวังชา
ต้นไม้ ผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญของระดับการตัดแต่งกิ่งที่บันทึกในเชิงเส้น
การเจริญเติบโตของการปลูกถ่ายอวัยวะ, การเจริญเติบโตสูงสุด (53.54 เซนติเมตร) ที่ระบุไว้ใน P1
ตาม P2 (50.45) ในขณะที่ต่ำสุดใน P3 อย่างไรก็ตาม
P2 มีจำนวนสูงสุดของ laterals (11.41) และการรับสินบนความสำเร็จ
37.55 (37.97) ร้อยละ ปริมาณการใช้ปุ๋ยอย่างมีนัยสำคัญ
ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตที่แตกต่างกันและความสำเร็จของการปลูกถ่ายอวัยวะ.
การเจริญเติบโตอย่างมีนัยสำคัญสูงสุดเชิงเส้น (52.27 เซนติเมตร) และมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง
ของ laterals (5.84 มิลลิเมตร) ถูกบันทึกไว้ใน F1 และจำนวน
laterals (10.58) และความสำเร็จของการปลูกถ่ายอวัยวะ (29.50%) เป็น ที่ระบุไว้ใน
ระดับ F2 การเจริญเติบโตเชิงเส้น (52.25 ซม.) จำนวน laterals
(10.47) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของ laterals (5.37) และความสำเร็จของการปลูกถ่ายอวัยวะ (27.73)
ถูกบันทึกไว้สูงอย่างมีนัยสำคัญในการเก็บเกี่ยวน้ำ W1
โครงสร้าง ภูมิภาค V1 (Waris) หลากหลายมีผลกระทบต่อ
การเจริญเติบโตเชิงเส้นของการปลูกถ่ายอวัยวะ (54.61 เซนติเมตร) และความสำเร็จของการปลูกถ่ายอวัยวะ
(36.12%) อย่างไรก็ตามความแตกต่างหลากจำนวน laterals
และเส้นผ่าศูนย์กลางของพวกเขาพบว่าไม่ใช่อย่างมีนัยสำคัญ (ตารางที่ 1).
ผลกระทบหลักของระดับการตัดแต่งกิ่ง ปริมาณปุ๋ยน้ำ
เทคนิคการจัดการและพันธุ์บนพื้นที่หลังคาและ
อัตราผลตอบแทนที่ตัวละครในต้นไม้พลังวังชา
ผลของตัวแปรต่างๆที่ถูกบันทึกไว้ใน
พื้นที่หลังคาและการเจริญเติบโตน้ำหนักถั่วและผลผลิต / ต้นไม้ 3 ปี
หลังจากการฟื้นฟู อย่างมีนัยสำคัญในพื้นที่หลังคาสูงสุด (2.12
m2
) ถูกบันทึกไว้ในระดับ P1 ตามอย่างใกล้ชิดโดยระดับ P3.
ในทำนองเดียวกันหลังคากรัม