May 2004 | Volume 61 | Number 8Scho

May 2004 | Volume 61 | Number 8
Schools as Learning Communities Pages 12-18


Partnering with Families and Communities

Joyce L. Epstein and Karen Clark Salinas


A well-organized program of family and community partnerships yields many benefits for schools and their students.


What is the difference between a professional learning community and a school learning community? A professional learning community emphasizes the teamwork of principals, teachers, and staff to identify school goals, improve curriculum and instruction, reduce teachers' isolation, assess student progress, and increase the effectiveness of school programs. Professional teamwork is important and can greatly improve teaching, instruction, and professional relationships in a school, but it falls short of producing a true community of learners. In contrast, a school learning community includes educators, students, parents, and community partners who work together to improve the school and enhance students' learning opportunities.

One component of a school learning community is an organized program of school, family, and community partnerships with activities linked to school goals. Research and fieldwork show that such programs improve schools, strengthen families, invigorate community support, and increase student achievement and success (Epstein, 2001; Henderson & Mapp, 2002; Sheldon, 2003).

Pipe Dream or Possibility?


Is it a pipe dream to think that every school can become a true learning community, or is it really possible? During the past eight years, more than 1,000 schools, districts, and state departments of education in the National Network of Partnership Schools at Johns Hopkins University have worked with researchers to develop and implement programs of school, family, and community partnerships. Their efforts have produced not only many research publications but also research-based materials that elementary, middle, and high schools can use to customize and continually improve their programs of family and community involvement (Epstein et al., 2002).

Research-Based Approaches

A well-organized partnership program starts with an Action Team for Partnerships. Made up of teachers, administrators, parents, and community partners, the Action Team is linked to the school council or school improvement team. With a clear focus on promoting student success, the team writes annual plans for family and community involvement, implements and evaluates activities, and integrates the activities conducted by other groups and individual teachers into a comprehensive partnership program for the school.

Annual action plans use a research-based framework of six types of involvement—parenting, communicating, volunteering, learning at home, decision making, and collaborating with the community—to focus partnerships on school improvement goals (see fig. 1, p. 15). By implementing activities for all six types of involvement, schools can help parents become involved at school and at home in various ways that meet student needs and family schedules. Input from participants helps schools address challenges and improve plans, activities, and outreach so that all families can be productive partners in their children's school success.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2547 พฤษภาคม | เล่ม 61 | หมายเลข 8
โรงเรียนเป็นการเรียนรู้ชุมชนหน้า 12-18


กับครอบครัวและชุมชน

Joyce L. สเตียนและกะเหรี่ยงคลาร์กลิ


โปรแกรมดีจัดของครอบครัวและชุมชนร่วมมือก่อให้เกิดประโยชน์มากมายสำหรับโรงเรียนและนักเรียน


ต่างกันระหว่างมืออาชีพเรียนรู้ชุมชนและชุมชนเรียนรู้โรงเรียน ชุมชนเรียนรู้อาชีพเน้นทำงานเป็นทีมแบบ ครู และเจ้าหน้าที่เพื่อระบุเป้าหมายโรงเรียน ปรับปรุงหลักสูตรและคำแนะนำ ลดแยกครู ประเมินความคืบหน้าของนักเรียน และเพิ่มประสิทธิภาพของโปรแกรมการเรียน ทำงานเป็นทีมมืออาชีพที่มีความสำคัญ และสามารถปรับปรุงการสอน สอน และความสัมพันธ์มืออาชีพในโรงเรียน แต่มันเด็ดขาดผลิตชุมชนจริงของผู้เรียน ในทางตรงกันข้าม โรงเรียนเรียนรู้มีนักการศึกษา นักเรียน ผู้ปกครอง และพันธมิตรชุมชนที่ทำงานร่วมกันเพื่อปรับปรุงโรงเรียน และส่งเสริมนักเรียนเรียนรู้โอกาส

ส่วนประกอบหนึ่งของการเรียนเรียนรู้เป็นโปรแกรมจัดระเบียบของโรงเรียน ครอบครัว และชุมชนสัมพันธ์กับกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับเป้าหมายของโรงเรียน วิจัยและสามารถแสดงว่า โปรแกรมดังกล่าวพัฒนาโรงเรียน เสริมสร้างครอบครัว แก่ชุมชน และเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสำเร็จ (สเตียน 2001 Mapp & Henderson, 2002 ภัณฑ์เชลด้อน 2003)

ท่อความฝันหรือความเป็นไปได้หรือไม่?


มันเป็นความฝันท่อคิดว่า ทุกโรงเรียนสามารถเป็น จริงในการเรียนรู้ชุมชน เป็นไปได้จริง ๆ ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา โรงเรียนกว่า 1000 เขต และหน่วยงานรัฐการศึกษาแห่งชาติเครือข่ายของหุ้นส่วนโรงเรียนที่มหาวิทยาลัยจอห์นฮ็อปกินส์ได้ทำงานกับนักวิจัยการพัฒนา และใช้โปรแกรมโรงเรียน ครอบครัว และชุมชนสัมพันธ์ ความพยายามของพวกเขาได้ผลิตไม่เพียงในมหาวิทยาลัย แต่ยังงานวิจัยวัสดุที่กลางระดับประถมศึกษา และโรงเรียนสูงสามารถใช้ในการกำหนด และปรับปรุงอย่างต่อเนื่องของโปรแกรมของครอบครัวและชุมชนมีส่วนร่วม (สเตียนและ al., 2002) .

วิธีการวิจัย

เริ่มโปรแกรมดีจัดร่วมกับทีมงานสำหรับความร่วมมือดำเนินการ ขึ้นครู ผู้ดูแลระบบ ผู้ปกครอง และชุมชน คู่ ทีมดำเนินการเชื่อมโยงกับคณะกรรมการโรงเรียนหรือทีมพัฒนาโรงเรียน มีความชัดเจนในการส่งเสริมความสำเร็จนักเรียน ทีมเขียนแผนประจำปีสำหรับครอบครัวและชุมชนมีส่วนร่วม ใช้ และประเมินกิจกรรม และรวมกิจกรรมที่ดำเนินการ โดยกลุ่มและครูแต่ละอื่น ๆ ลงในโปรแกรมหุ้นส่วนที่ครอบคลุมสำหรับโรงเรียน

ประจำปีแผนการดำเนินการใช้กรอบการวิจัย 6 ชนิดที่มีส่วนร่วม — ไป สื่อสาร อาสาสมัคร เรียนที่บ้าน ตัดสินใจ และทำงานร่วมกับชุมชนโดยให้ความร่วมมือในโรงเรียนปรับปรุงเป้าหมาย (ดู fig. 1, p 15) ได้ โดยใช้กิจกรรมการมีส่วนร่วมทั้งหมด 6 ชนิด โรงเรียนสามารถช่วยให้ผู้ปกครองเข้ามาเกี่ยวข้อง ที่โรงเรียน และ ที่บ้านในรูปแบบต่าง ๆ ที่ตรงกับความต้องการนักศึกษาและครอบครัวกำหนดการได้ โรงเรียนท้าทาย และปรับปรุงแผน กิจกรรม และผู้ให้ทุกครอบครัวสามารถคู่ประสิทธิผลความสำเร็จของเด็กโรงเรียนช่วยป้อนข้อมูลจากผู้เข้าร่วม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พฤษภาคม 2004 | ฉบับที่ 61 | จำนวน 8
โรงเรียนเป็นชุมชนการเรียนรู้หน้า 12-18 ด้วยการร่วมมือกับชุมชนและครอบครัวที่จอยซ์แอลเอพสเตและกะเหรี่ยงคลาร์กในซาลินาโปรแกรมดีจัดของความร่วมมือของครอบครัวและชุมชนทำให้ประโยชน์มากสำหรับโรงเรียนและนักเรียนของพวกเขาคืออะไร ความแตกต่างระหว่างชุมชนการเรียนรู้อาชีพและชุมชนการเรียนรู้ที่โรงเรียน ชุมชนการเรียนรู้การทำงานเป็นทีมมืออาชีพที่ให้ความสำคัญของผู้บริหารครูและพนักงานในการระบุเป้าหมายของโรงเรียนในการปรับปรุงหลักสูตรและการเรียนการสอนลดการแยกของครูประเมินความก้าวหน้าของนักเรียนและเพิ่มประสิทธิภาพของโปรแกรมที่โรงเรียน การทำงานเป็นทีมมืออาชีพที่มีความสำคัญและสามารถปรับปรุงการเรียนการสอนการเรียนการสอนและความสัมพันธ์มืออาชีพในโรงเรียน แต่มันตรงสั้นในการผลิตของชุมชนที่แท้จริงของผู้เรียน ในทางตรงกันข้ามการเรียนรู้ของชุมชนรวมถึงโรงเรียนการศึกษานักเรียนผู้ปกครองและพันธมิตรของชุมชนที่ทำงานร่วมกันเพื่อปรับปรุงโรงเรียนและเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้ของนักเรียนส่วนหนึ่งของชุมชนการเรียนรู้โรงเรียนเป็นโปรแกรมที่จัดของโรงเรียนครอบครัวและสร้างความร่วมมือของชุมชน กับกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับเป้าหมายของโรงเรียน การวิจัยและการวิจัยแสดงให้เห็นว่าโครงการดังกล่าวปรับปรุงโรงเรียนเสริมสร้างครอบครัว, กระตุ้นการสนับสนุนชุมชนและเพิ่มผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนและความสำเร็จ (เอพสเต 2001; เฮนเดอและแมพพ์, 2002; เชลดอน, 2003) ? ความฝันหรือความเป็นไปได้มันเป็นท่อฝันที่จะ คิดว่าทุกโรงเรียนจะกลายเป็นชุมชนการเรียนรู้ที่แท้จริงหรือเป็นจริงไปได้หรือไม่ ช่วงที่ผ่านมาแปดปีกว่า 1,000 โรงเรียนอำเภอและหน่วยงานของรัฐในการศึกษาแห่งชาติเครือข่ายความร่วมมือของโรงเรียนที่ Johns Hopkins University ได้ทำงานร่วมกับนักวิจัยในการพัฒนาและดำเนินโครงการความร่วมมือของโรงเรียนครอบครัวและชุมชน ความพยายามของพวกเขาได้มีการผลิตไม่เพียง แต่งานวิจัยจำนวนมาก แต่ยังวัสดุการวิจัยตามที่โรงเรียนประถมกลางและสูงสามารถใช้ในการปรับแต่งและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องโปรแกรมของพวกเขาของครอบครัวและชุมชนมีส่วนร่วม (เอพสเตตอัล., 2002) แนวทางการวิจัยตามโปรแกรมพันธมิตรที่ดีเริ่มต้นด้วยการจัดทีมงานดำเนินการสำหรับการเป็นหุ้นส่วน สร้างขึ้นจากครูผู้บริหารผู้ปกครองและพันธมิตรของชุมชนทีมการดำเนินการเชื่อมโยงไปยังสภาโรงเรียนหรือทีมพัฒนาโรงเรียน มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการส่งเสริมความสำเร็จของนักเรียนทีมเขียนแผนงานประจำปีสำหรับครอบครัวและการมีส่วนร่วมของชุมชนนำไปปฏิบัติและประเมินผลกิจกรรมและร่วมกิจกรรมที่ดำเนินการโดยกลุ่มอื่น ๆ และครูแต่ละคนลงในโครงการความร่วมมือที่ครอบคลุมสำหรับโรงเรียนแผนปฏิบัติการประจำปีใช้ กรอบการวิจัยที่ใช้หกชนิดของการมีส่วนร่วมอบรมการสื่อสารอาสาสมัครการเรียนรู้ที่บ้านการตัดสินใจและการทำงานร่วมกันกับชุมชนเพื่อมุ่งเน้นความร่วมมือกับเป้าหมายการพัฒนาโรงเรียน (ดูมะเดื่อ. 1, p. 15) โดยการดำเนินกิจกรรมสำหรับทุกหกชนิดของการมีส่วนร่วมที่โรงเรียนสามารถช่วยให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมที่โรงเรียนและที่บ้านในรูปแบบต่างๆที่ตรงกับความต้องการของนักเรียนและตารางเวลาของครอบครัว การป้อนข้อมูลจากผู้เข้าร่วมจะช่วยให้โรงเรียนรับมือกับความท้าทายและปรับปรุงแผนกิจกรรมและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เพื่อให้ทุกครอบครัวสามารถเป็นคู่ค้าการผลิตในความสำเร็จของโรงเรียนของบุตรหลาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พฤษภาคม 2004 | เล่ม 61 | หมายเลข 8
โรงเรียนการเรียนรู้ชุมชนหน้า 12-18


โดยครอบครัวและชุมชน

จอยซ์ . Epstein และกะเหรี่ยงคลาร์ก Salinas


จัดโครงการครอบครัวและชุมชนสัมพันธ์ให้ผลประโยชน์มากมายสำหรับโรงเรียนและนักเรียน


อะไรคือความแตกต่างระหว่าง มืออาชีพ ชุมชนแห่งการเรียนรู้ และการเรียนรู้ของโรงเรียนชุมชนการเรียนรู้ชุมชนมืออาชีพ เน้นการทำงานเป็นทีมของผู้บริหาร ครู และเจ้าหน้าที่ เพื่อระบุเป้าหมายของโรงเรียนปรับปรุงหลักสูตรและการสอน ช่วยครูเหงา ประเมินความก้าวหน้าของนักเรียน และเพิ่มประสิทธิภาพของโปรแกรมโรงเรียน การทำงานเป็นทีมที่เป็นมืออาชีพที่สำคัญและสามารถช่วยปรับปรุงการสอน สอน และความสัมพันธ์ในโรงเรียนแต่มันสั้นลงในการผลิตของชุมชนที่แท้จริงของผู้เรียน ในทางตรงกันข้ามการเรียนรู้ชุมชนโรงเรียนมีครู นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชนพันธมิตรที่ทำงานร่วมกัน เพื่อพัฒนาโรงเรียน และส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียนโอกาส

องค์ประกอบหนึ่งของโรงเรียนชุมชนการเรียนรู้เป็นการจัดโปรแกรมของโรงเรียน ครอบครัวและชุมชนสัมพันธ์กับกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับโรงเรียนเป้าหมาย และการวิจัยภาคสนามพบว่าโปรแกรมดังกล่าวพัฒนาโรงเรียน สร้างครอบครัว สร้างชุมชนสนับสนุนและเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสำเร็จ ( Epstein , 2001 ; เฮนเดอร์สัน&โฟลเดอร์ , 2002 ; เชลด้อน , 2003 ) .

ฝันท่อ หรือ ความเป็นไปได้ ?


มันเป็นฝันท่อ คิดว่าทุกโรงเรียนก็กลายเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ที่แท้จริง หรือมันเป็นไปได้จริงๆเหรอ ในช่วงที่ผ่านมา 8 ปี กว่า 1 , 000 โรงเรียน อำเภอ และหน่วยงานของรัฐในการศึกษาในเครือข่ายแห่งชาติของโรงเรียนหุ้นส่วนที่ Johns Hopkins มหาวิทยาลัยทำงานกับนักวิจัยเพื่อพัฒนาและใช้โปรแกรมของโรงเรียน ครอบครัว และชุมชน .ความพยายามของพวกเขาได้มีการผลิตผลงานวิจัยมากมาย แต่ยังไม่เพียง แต่เป็นวัสดุที่โรงเรียนประถม กลาง และสูง สามารถใช้เพื่อปรับแต่งและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องของโปรแกรมการมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชน ( Epstein et al . , 2002 ) .

การวิจัยตามแนวทาง

ง่า ห้างหุ้นส่วนโปรแกรม เริ่มด้วยทีมปฏิบัติการเพื่อสร้างความร่วมมือ สร้างขึ้นจากครูผู้บริหาร ผู้ปกครอง และคู่ค้าชุมชน ทีมปฏิบัติการเชื่อมโยงกับทีมคณะกรรมการโรงเรียนหรือสถานศึกษา มีโฟกัสที่ชัดเจนในการส่งเสริมความสำเร็จของนักเรียน , ทีมเขียนแผนประจำปีของครอบครัว และการมีส่วนร่วมในชุมชน ใช้ และประเมินกิจกรรมและบูรณาการกิจกรรมที่ดำเนินการโดยกลุ่มอื่น ๆ และครูแต่ละคนเป็นโปรแกรมหุ้นส่วนที่ครอบคลุมสำหรับโรงเรียน

ปีแผนปฏิบัติการใช้กรอบเป็นหกประเภทของการมีส่วนร่วมของพ่อแม่ การติดต่อสื่อสาร , อาสาสมัคร , เรียนที่บ้าน , การตัดสินใจ และการร่วมมือกับชุมชนเพื่อเน้นความร่วมมือในเป้าหมายของการพัฒนาโรงเรียน ( ดูรูปที่ 1 หน้า15 ) โดยการใช้กิจกรรมทั้งหมดหกประเภทของการมีส่วนร่วม โรงเรียนสามารถช่วยให้ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนในโรงเรียนและที่บ้านในวิธีการต่าง ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของนักเรียนและตารางครอบครัว ข้อมูลจากผู้ที่ช่วยให้โรงเรียนที่อยู่ความท้าทายและปรับปรุงแผน กิจกรรม และประชาสัมพันธ์เพื่อให้ทุกครอบครัวสามารถมีหุ้นส่วนในโรงเรียนของเด็ก
สำเร็จแล้ว