V.alginolyticus was first identifie

V.alginolyticus was first identified as a pathogen of humans in 1973.[3] It occasionally causes eye, ear and wound infections.[3] V. alginolyticus is a highly salt-tolerant species and can grow in salt concentrations of 10%.[3] Most clinical isolates come from superinfected wounds that become contaminated at the beach.[3] Tetracycline usually results in cure.[3] V. alginolyticus is rare cause of bacteremia in immunocompromised hosts.[3]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แรกพบเป็นเชื้อโรคของมนุษย์ V.alginolyticus ในปี 1973 [3]ในบางครั้งทำให้เกิดการติดเชื้อที่ตา หู และบาดแผล [3] V. alginolyticus เป็นสายพันธุ์ทนต่อเกลือสูง และสามารถเจริญเติบโตในเกลือความเข้มข้น 10% [3] แยกทางคลินิกส่วนใหญ่มาจาก superinfected แผลที่ปนเปื้อนที่ชายหาด [3] เตตราไซคลีนมักจะส่งผลในการรักษา [3] V. alginolyticus คือสาเหตุที่หายากของ bacteremia ในภูมิคุ้มกันของโฮสต์ [3]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

V.alginolyticus ถูกระบุว่าเป็นครั้งแรกที่ก่อให้เกิดโรคของมนุษย์ในปี 1973 a [3] บางครั้งทำให้เกิดตาหูและการติดเชื้อแผล. [3] V. alginolyticus เป็นสายพันธุ์ที่สูงทนเค็มและสามารถเจริญเติบโตได้ในระดับความเข้มข้นของเกลือ 10%. [3] ไอโซเลทคลินิกส่วนใหญ่มาจากบาดแผล superinfected ที่ปนเปื้อนที่ชายหาด. [3] Tetracycline มักจะส่งผลในการรักษา. [3] V. alginolyticus เป็นสาเหตุที่หายากของแบคทีเรียภูมิคุ้มกันบกพร่อง. [3]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

v.alginolyticus เป็นครั้งแรกที่ระบุว่าเป็นเชื้อโรคของมนุษย์ในปี ค.ศ. 1973 [ 3 ] บางครั้งสาเหตุที่ตา หู และการติดเชื้อที่แผลผ่าตัด [ 3 ] V . alginolyticus สายพันธุ์ทนเค็มมีสูง และสามารถเติบโตในเกลือความเข้มข้นร้อยละ 10 [ 3 ] ทางคลินิกมากที่สุดสายพันธุ์มาจาก superinfected แผลที่กลายเป็นปนเปื้อนที่ชายหาด . 3 ] ไซคลินมักจะส่งผลในการรักษา [ 3 ] V . alginolyticus เป็นสาเหตุของอาการภูมิคุ้มกันบกพร่องที่หายากในโฮสต์ [ 3 ]