Muscular StrengthBoth the American

Muscular Strength

Both the American Heart Association and the American College of Sports Medicine have endorsed the inclusion of resistance training as an integral component of an exercise program for preventing cardiovascular disease[4, 41]. These recommendations, in large part, stem from randomized controlled trials on the BP lowering effects of resistance training (reviewed below). Prospective data supporting the role of resistance training or measures of muscular strength/endurance (attributes developed from resistance training), however, are still limited. The earliest prospective study was published in 2010 by Maslow and colleagues who examined the association between muscular strength and incident hypertension among healthy men enrolled in the ACLS study[42]. It was reported that men in the high-strength group had a 28% lower risk for incident hypertension compared to the low-strength group. This association was no longer statistically significant after adjustment for cardiorespiratory fitness, although multicollinearity may have confounded this finding. More recently, in their analysis of the National Runners’ Health Study II and the National Walkers’ Health Study, Williams and Thompson reported that the amount of MET hours/day spent doing strengthening exercises was not associated with a reduced risk of incident hypertension[27]. Thus, the present literature from prospective studies provides little convincing evidence for a role of resistance training in the prevention of hypertension.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กล้ามเนื้อความแข็งแรงสมาคมหัวใจอเมริกันและวิทยาลัยอเมริกันของเวชศาสตร์การกีฬาได้สนับสนุนการรวมของการฝึกเป็นส่วนประกอบของโปรแกรมออกกำลังกายเพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ [4, 41] คำแนะนำเหล่านี้ ส่วนใหญ่ เกิดจากการทดลองแบบสุ่มควบคุมบน BP ลดผลกระทบของการฝึกอบรมความต้านทาน (ทานด้านล่าง) ผู้สนใจข้อมูลสนับสนุนบทบาทของการฝึกหรือมาตรการของกล้ามเนื้อความแข็งแรง/ความอดทน (คุณลักษณะพัฒนาจากการฝึกอบรมความต้านทาน), อย่างไรก็ตาม จะยังจำกัด การศึกษาอนาคตแรกถูกตีพิมพ์ใน 2010 โดยมาสโลว์และเพื่อนร่วมงานที่ตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างกล้ามเนื้อความแข็งแรงและเกิดความดันโลหิตสูงในหมู่ผู้ชายสุขภาพดีที่ลงทะเบียนในการศึกษา ACLS [42] มีรายงานว่า ผู้ชายในกลุ่มแข็งแรงสูงมีความเสี่ยงต่ำกว่า 28% สำหรับปัญหาความดันโลหิตสูงเมื่อเทียบกับกลุ่มมีความแข็งแรงต่ำ สมาคมนี้ได้ไม่นัยสำคัญทางสถิติหลังการปรับปรุงสำหรับออกกำลังกาย cardiorespiratory แม้ว่า multicollinearity อาจ confounded ค้นหานี้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ในการวิเคราะห์ของนักวิ่งชาติสุขภาพศึกษา II และศึกษาสุขภาพของวอล์กเกอร์ชาติ วิลเลียมส์และทอมป์สันรายงานว่า จำนวนของ MET ชั่วโมงใช้เวลาทำให้ความแข็งแรงออกกำลังกายไม่ได้เกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงของการเกิดความดันโลหิตสูง [27] จึง วรรณกรรมปัจจุบันจากการศึกษาคาดหวังให้หลักฐานที่น่าเชื่อถือน้อยสำหรับบทบาทของการฝึกอบรมความต้านทานในการป้องกันความดันโลหิตสูง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แข็งแรงของกล้ามเนื้อทั้งสองสมาคมหัวใจอเมริกันและอเมริกันวิทยาลัยเวชศาสตร์การกีฬามีการรับรองการรวมของการฝึกอบรมความต้านทานเป็นองค์ประกอบหนึ่งของโปรแกรมการออกกำลังกายในการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด [4 41] คำแนะนำเหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดจากการทดลองแบบสุ่มใน BP ลดผลกระทบของการฝึกอบรมความต้านทาน (สอบทานด้านล่าง) ข้อมูลที่คาดหวังการสนับสนุนบทบาทของการฝึกอบรมความต้านทานหรือมาตรการของกล้ามเนื้อมีความแข็งแรง / ความอดทน (คุณลักษณะที่พัฒนามาจากการฝึกอบรมความต้านทาน) แต่ยังคง จำกัด การศึกษาในอนาคตที่เก่าแก่ที่สุดที่ถูกตีพิมพ์ในปี 2010 โดย Maslow และเพื่อนร่วมงานที่ตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นความดันโลหิตสูงในหมู่คนที่มีสุขภาพดีที่ลงทะเบียนเรียนในการศึกษา ACLS [42] มีรายงานว่าคนที่อยู่ในกลุ่มที่มีความแข็งแรงสูงมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่า 28% สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นความดันโลหิตสูงเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ต่ำความแข็งแรง สมาคมนี้ก็ไม่ได้มีนัยสำคัญหลังการปรับสำหรับการออกกำลังกายหัวใจแม้ว่าพหุอาจจะสับสนการค้นพบนี้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ในการวิเคราะห์ของพวกเขาในนักวิ่งแห่งชาติ 'สุขภาพการศึกษาครั้งที่สองและชาติวอล์กเกอร์' สุขภาพการศึกษาวิลเลียมส์และทอมป์สันรายงานว่าปริมาณของ MET ชั่วโมง / วันที่ใช้ในการทำแบบฝึกหัดเสริมสร้างความเข้มแข็งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นความดันโลหิตสูง [27 ] ดังนั้นวรรณกรรมปัจจุบันจากการศึกษาในอนาคตมีหลักฐานที่น่าเชื่อเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับบทบาทของการฝึกอบรมความต้านทานในการป้องกันความดันโลหิตสูงได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อทั้งสมาคมหัวใจอเมริกันและวิทยาลัยกีฬาเวชศาสตร์แห่งสหรัฐอเมริกามีการรวมของการฝึกอบรมความต้านทานที่เป็นส่วนประกอบของโปรแกรมการออกกำลังกายเพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด 4 [ 41 ] ข้อเสนอแนะเหล่านี้ ส่วนใหญ่เกิดจากการทดลองสุ่มในการลดความดันโลหิตผลของการฝึกอบรมความต้านทาน ( ดูด้านล่าง ) ข้อมูล ข้อมูลสนับสนุนบทบาทของการฝึกอบรมความต้านทานหรือการวัดความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ / ความอดทน ( แอตทริบิวต์ที่พัฒนาจากการฝึกอบรมความต้านทาน ) แต่ยังคงมีจำกัด เร็วในอนาคตการศึกษาถูกตีพิมพ์ในปี 2010 โดยมาสโลว์และเพื่อนร่วมงานที่ตรวจความสัมพันธ์ระหว่างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและความดันโลหิตสูงเหตุการณ์สุขภาพคนเข้าร่วมในการศึกษา [ 42 ] มีรายงานว่า ผู้ชายในกลุ่มสูงมีความเสี่ยงร้อยละ 28 ลดความดันโลหิตสูงเหตุการณ์เปรียบเทียบความแข็งแรงต่ำ สมาคมนี้ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ หลังจากการใช้ฟิตเนส แต่ข้อมูลอาจจะอับอาย การค้นพบนี้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ในการวิเคราะห์ของนักวิ่งแห่งชาติของสุขภาพการศึกษา II และสุขภาพการศึกษาวอล์คเกอร์ " แห่งชาติ วิลเลียมส์ และ ธอมป์สันรายงานว่าปริมาณเจอชั่วโมง / วันใช้เวลาทำแบบฝึกหัดไม่ได้เกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคความดันโลหิตสูง [ 27 ] ดังนั้น วรรณกรรมปัจจุบันจากอนาคตการศึกษาให้เชื่อหลักฐานเล็ก ๆน้อย ๆสำหรับบทบาทของการฝึกอบรมความต้านทานในการป้องกันโรคความดันโลหิตสูง