The Qur'an which we consider as a r

The Qur'an which we consider as a reference point in any discussion about Islam also proves thatthe human being (insan) is the main driving force in the management of the affairs of the world with all its contents. God in chapter 2 verse 30 says: "Waiz kala Rabbuka lilmalai kati inn i Ja'ilun fi ardhi khalifah", which means when your Lord said to the angels, " Verily, I am going to make humans being as rulers (Caliphs) on the earth ” (al-Qur‟an: 2:30). From this verse it is clearly shown that the humans being (Insan) have important duties and responsibilities in the world, that is to act or function as representative of God (Khalifah), responsible for managing and prospering the universe for the benefit of the public. The endowment of intellect given to humans being (Insan) makes them the most superior beings amongst all of God's creation, thus making them as the only beings ready to become a trustee of God on earth. Because of this, humans being (Insan), in the Islamic perspective, are people who have superior personality, with the mastery of knowledge and skills in the context of the duties and responsibilities entrusted to the representative of God for the prosperity of society and also for the management of the whole universe, as mentioned in chapter 12 verse 61: "Huwa Ansya akum Minal-Ardhi Waasta'marakum Fiha", which means: "He (God) that makes you from the earth and settled you therein."(al-Qur‟an. 12:61).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อัลกุรอานซึ่งเราพิจารณาเป็นจุดอ้างอิงในการอภิปรายเกี่ยวกับอิสลาม ยังพิสูจน์ให้เห็นว่ามนุษย์ (insan) เป็นแรงผลักดันหลักในการบริหารกิจการของโลกที่มีเนื้อหาทั้งหมด กล่าวว่า พระเจ้าในบทที่ 2 ข้อที่ 30: " Waiz กะลา Rabbuka lilmalai กะทิอินน์ไอ khalifah ardhi ไร้สาย Ja'ilun ", ซึ่งหมายความว่า เมื่อพระว่า เทวดา "Verily ฉันจะทำให้มนุษย์อยู่บนโลกเป็นไม้ (Caliphs) " (อัล-Qur‟an: 2:30) จากข้อนี้มันจะแสดงอย่างชัดเจนว่า มนุษย์กำลัง (Insan) มีความสำคัญหน้าที่และความรับผิดชอบในโลก ที่จะทำหน้าที่ หรือทำหน้าที่เป็นตัวแทนของพระเจ้า (Khalifah), รับผิดชอบในการจัดการ และ prospering จักรวาลเพื่อประโยชน์สาธารณะ มอบเงินของสติปัญญาให้แก่มนุษย์ได้ (Insan) ทำให้พวกเขาส่วนใหญ่ห้องสวรรค์หมู่สร้างพระ ทั้งหมดจึง ทำให้พวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตเท่านั้นที่พร้อมจะเป็น ผู้จัดการมรดกของพระเจ้าในโลก ด้วยเหตุนี้ มนุษย์กำลัง (Insan) , ในมุมมองอิสลาม เป็นผู้มีบุคลิกภาพที่เหนือกว่า มีต้นแบบของความรู้และทักษะในหน้าที่ความรับผิดชอบที่มอบหมายให้ตัวแทนของพระเจ้า สำหรับความเจริญรุ่งเรืองของสังคม และ การจัดการของจักรวาลทั้งหมด เป็นที่กล่าวถึงในบทที่ 12 ข้อ 61: "Huwa Ansya akum Minal Ardhi Waasta'marakum Fiha" ซึ่งหมายความว่า: "เขา (พระเจ้า) ที่ทำให้คุณจากโลก และตัดสินคุณ therein "(อัล-Qur‟an. 12:61)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คัมภีร์กุรอ่านที่เราพิจารณาเป็นจุดอ้างอิงในการอภิปรายเกี่ยวกับศาสนาอิสลามใด ๆ ที่ยังพิสูจน์ thatthe มนุษย์ (insan) เป็นแรงผลักดันหลักในการบริหารจัดการกิจการของโลกที่มีเนื้อหาทั้งหมด พระเจ้าในบทที่ 2 ข้อที่ 30 พูดว่า: "Waiz kala Rabbuka lilmalai kati โรงแรม i Ja'ilun สาย Ardhi กาหลิบ" ซึ่งหมายความว่าเมื่อพระเจ้าของทูตสวรรค์กล่าวว่า "แท้จริงฉันจะไปให้การเป็นมนุษย์ผู้ปกครอง (ลิปส์) บน แผ่นดิน "(อัล Qur": 02:30). จากข้อนี้มันก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ามนุษย์เป็น (เป็นมนุษย์) มีหน้าที่และความรับผิดชอบที่สำคัญในโลกที่จะทำหน้าที่หรือการทำงานในฐานะตัวแทนของพระเจ้า (กาหลิบ ) รับผิดชอบในการจัดการและ prospering จักรวาลเพื่อประโยชน์ของประชาชน. บริจาคของสติปัญญาให้กับมนุษย์เป็น (เป็นมนุษย์) ทำให้พวกเขามีชีวิตที่ดีกว่ามากที่สุดในหมู่ทั้งหมดของการสร้างของพระเจ้าจึงทำให้พวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตเดียวที่พร้อมที่จะเป็น ดูแลของพระเจ้าบนแผ่นดินโลก. ด้วยเหตุนี้มนุษย์เป็น (เป็นมนุษย์) ในมุมมองของอิสลามเป็นผู้ที่มีบุคลิกภาพที่ดีกว่ากับการเรียนรู้ของความรู้และทักษะในบริบทของหน้าที่และความรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนของพระเจ้า ความเจริญรุ่งเรืองของสังคมและยังสำหรับการจัดการของทั้งจักรวาลที่เป็นที่กล่าวถึงในบทที่ 12 ข้อที่ 61: "ไปรษณีย์ของ Ansya akum Minal-Ardhi Waasta'marakum fiha" ซึ่งหมายความว่า: "เขา (พระเจ้า) ที่ทำให้คุณจากแผ่นดินและ คุณนั่งอยู่ในนั้น. "(อัล Qur" 12:61)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อัลกุรอานซึ่งเราพิจารณาเป็นจุดอ้างอิงในการอภิปรายใด ๆเกี่ยวกับอิสลามยังได้พิสูจน์ว่า มนุษย์ ( มนุษย์ ) เป็นแรงผลักดันหลักในการจัดการกิจการของโลก ด้วยเนื้อหาทั้งหมดของ พระเจ้าในบทที่ 2 ข้อที่ 30 กล่าวว่า : " waiz กะลา rabbuka lilmalai กะทิ อินน์ ผม ja'ilun Fi ardhi คอลีฟะ " ซึ่งหมายความว่า เมื่อเจ้านายของคุณพูดกับเทวดา " แท้จริง ,ผมจะทำให้ มนุษย์ เป็นโมหะ ( caliphs ) บนโลก " ( อัล & nbspQur ‟ : 2 : 30 ) จากกลอนนี้มันแสดงอย่างชัดเจนว่า เป็นมนุษย์ ( มนุษย์ ) มีหน้าที่และความรับผิดชอบที่สำคัญในโลก นั่นคือการกระทำหรือการทำงานในฐานะตัวแทนของพระเจ้า ( คอลีฟะ ) รับผิดชอบในการจัดการและ prospering จักรวาลเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมการบริจาคของสติปัญญาให้เป็นมนุษย์ ( มนุษย์ ) ทำให้พวกเขาเหนือกว่ามนุษย์มากที่สุดในหมู่ทั้งหมดของการสร้างของพระเจ้า จึงทำให้พวกเขาเป็นเพียงมนุษย์พร้อมที่จะกลายเป็นมรดกของพระเจ้าบนแผ่นดินโลก เพราะเรื่องนี้ เป็นมนุษย์ ( มนุษย์ ) ในมุมมองของอิสลาม เป็นผู้ที่มีบุคลิกภาพที่เหนือกว่ากับการเรียนรู้ทักษะและความรู้ในบริบทของหน้าที่และความรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมายให้ตัวแทนของพระเจ้าสำหรับความเจริญรุ่งเรืองของสังคมและยังสำหรับการจัดการของจักรวาล ตามที่กล่าวถึงในบทที่ 12 ข้อ 61 : " เป็น ansya Akum minal ardhi waasta'marakum fiha " ซึ่งแปลว่า " เขา ( พระเจ้า ) ที่ทำให้ เธอจากโลกนี้ไปแล้ว คุณนั้น . " ( อัล & nbspQur ‟ . 12:61 )