For preferred distance and populari

For preferred distance and popularity, it has been found that adults place themselves closer to others
they think have similar status than to others they think have higher or lower status (Lott &
Sommer, 1967). However, in Eder’s (1985) observational study with children, timing was crucial for
the association between proximity and popularity. Initially, children affiliated with popular peers during
lunch breaks in order to befriend them and hopefully gain status themselves. However, when a
status hierarchy was set, popular girls avoided contact with lower status peers. As a result, these peers
avoided the popular girls during lunch because they considered them snobbish and feared their rejection.
Based on these findings, one could hypothesize that children would place themselves close to
popular classmates at the beginning of the school year but farther away from them later in the year.
Because Study 2 was conducted during the second semester, we expected that (a) children would
place themselves farther away from classmates they perceived as popular and (b) children who were
popular among the majority of their peers would have a larger preferred distance to peers in general.
The goal of Study 2 was to test whether children’s liking and perceived popularity of their peers
were reflected in the way they positioned themselves relative to peers when they could make their
own classroom seating arrangement. We also wanted to replicate the findings of Study 1 regarding
the associations of interpersonal distance in the classroom determined by the teacher and liking
and popularity ratings. Therefore, we examined the following research questions in Study 2:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สำหรับระยะทางที่ต้องการและความนิยม การพบว่า ผู้ใหญ่ทำตัวใกล้ชิดผู้อื่นพวกเขาคิดว่า มีสถานะคล้ายคลึงกันผู้อื่นจะคิดว่า มีสถานะสูง หรือต่ำ (Lott และฤดู 1967) อย่างไรก็ตาม ในของ Eder (1985) สังเกตการณ์ศึกษากับเด็ก ช่วงเวลาสำคัญสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างความใกล้ชิดและความนิยม ครั้งแรก เด็กสังกัดเพื่อนยอดนิยมระหว่างอาหารกลางวันแบ่งการตีนั้น และหวังว่าได้รับสถานะตัวเอง อย่างไรก็ตาม เมื่อเป็นตั้งค่าลำดับชั้นสถานะ นิยมหลีกเลี่ยงติดต่อกับสถานะต่ำกว่าเพื่อน เป็นผล เพื่อนเหล่านี้หลีกเลี่ยงหญิงยอดนิยมในช่วงกลางวัน เพราะพวกเขาเป็นคนรวจ และกลัวการปฏิเสธของพวกเขาขึ้นอยู่กับผลการวิจัยเหล่านี้ หนึ่งสามารถ hypothesize ว่าเด็กจะทำตัวเองใกล้เคียงกับเพื่อนร่วมชั้นยอดต้นปีโรงเรียน แต่อยู่ห่าง จากเขาในภายหลังในปีเนื่องจาก 2 ศึกษาได้ดำเนินการในระหว่างภาคการศึกษาที่สอง เราคาดหวังว่า เด็ก (a) จะทำตัวเองอยู่ห่างเพื่อนร่วมชั้นที่พวกเขามองเห็นเป็นยอดนิยมและเด็ก (b) ที่นิยมในหมู่ส่วนใหญ่ของเพื่อนของพวกเขาจะได้เป็นใหญ่ต้องห่างจากเพื่อนทั่วไปเป้าหมายของการศึกษา 2 คือการ ทดสอบว่าเด็กของใจและความรับรู้ของเพื่อนของพวกเขาถูกสะท้อนออกมาในแบบที่พวกเขาวางเองสัมพันธ์กับเพื่อนเมื่อพวกเขาสามารถทำให้พวกเขาการจัดที่นั่งเรียนเอง เรายังอยากจำลองลึก 1 ศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของระยะทางมนุษยสัมพันธ์ในห้องเรียนตามครูและชื่นชอบและการจัดอันดับความนิยม ดังนั้น เราตรวจสอบคำถามวิจัยดังต่อไปนี้ในการศึกษา 2:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สำหรับระยะทางที่ต้องการและความนิยมจะได้รับพบว่าผู้ใหญ่ที่ตัวเองใกล้ชิดกับคนอื่น ๆ ที่
พวกเขาคิดว่ามีสถานะคล้ายกันมากกว่าที่จะคิดว่าคนอื่นเขามีสถานะที่สูงกว่าหรือต่ำกว่า (Lott และ
ซอมเมอร์, 1967) อย่างไรก็ตามในเอ๊ดของ (1985) ศึกษาเชิงสังเกตกับเด็กเวลาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ
ความสัมพันธ์ระหว่างความใกล้ชิดและความนิยม ตอนแรกเด็กมีส่วนเกี่ยวข้องกับเพื่อนร่วมงานที่เป็นที่นิยมในช่วง
พักกลางวันเพื่อเป็นเพื่อนกับพวกเขาและหวังว่าจะได้รับสถานะตัวเอง แต่เมื่อ
ลำดับชั้นได้รับการกำหนดสถานะสาวนิยมหลีกเลี่ยงการติดต่อกับเพื่อนสถานะที่ต่ำกว่า เป็นผลให้คนรอบข้างเหล่านี้
หลีกเลี่ยงสาว ๆ ที่นิยมในช่วงกลางวันเพราะพวกเขาคิดว่าพวกเขาทระนงและกลัวการปฏิเสธของพวกเขา.
ขึ้นอยู่กับการค้นพบเหล่านี้ใครจะตั้งสมมติฐานว่าเด็กจะวางตัวเองใกล้กับ
เพื่อนร่วมชั้นที่เป็นที่นิยมในตอนต้นของโรงเรียนปี แต่ห่างออกไปจาก พวกเขาต่อไปในปี.
เพราะการศึกษาที่ 2 ได้ดำเนินการในช่วงปิดเทอมที่สองเราคาดหวังว่า (ก) เด็กจะ
วางตัวเองห่างไกลออกไปจากเพื่อนร่วมชั้นที่พวกเขามองว่าเป็นที่นิยมและ (ข) เด็กที่เป็น
ที่นิยมในหมู่คนส่วนใหญ่ของเพื่อนของพวกเขาจะมี ระยะทางที่ต้องการขนาดใหญ่กับเพื่อนทั่วไป.
เป้าหมายของการศึกษาที่ 2 คือการทดสอบว่าชื่นชอบของเด็กและความนิยมที่รับรู้ของเพื่อนของพวกเขา
ได้รับการสะท้อนให้เห็นในวิธีที่พวกเขาวางตำแหน่งตัวเองเทียบกับเพื่อนร่วมงานเมื่อพวกเขาจะทำให้พวกเขา
จัดที่นั่งในห้องเรียนของตัวเอง นอกจากนี้เรายังต้องการที่จะทำซ้ำผลการศึกษาที่ 1 เกี่ยวกับ
ความสัมพันธ์ของระยะทางระหว่างบุคคลในห้องเรียนที่กำหนดโดยครูผู้สอนและความชื่นชอบ
และการจัดอันดับความนิยม ดังนั้นเราจึงตรวจสอบคำถามการวิจัยต่อไปนี้ในการศึกษาที่ 2:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ระยะทางที่ต้องการ และความนิยม พบว่าผู้ใหญ่ที่ตัวเองใกล้ชิดกับคนอื่น ๆพวกเขาคิดว่ามีเหมือนกัน
สถานะมากกว่าผู้อื่น พวกเขาคิดว่า จะสูง หรือต่ำ สถานะ ( ลอต&
ซอมเมอร์ , 1967 ) อย่างไรก็ตาม เอเดอร์ ( 1985 ) สังเกตการณ์การศึกษากับเด็ก เวลาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ
ความสัมพันธ์ระหว่างความใกล้ชิดและความนิยม ในตอนแรกเด็กในสังกัดกับเพื่อนที่ได้รับความนิยมในช่วงกลางวันเพื่อ
ผูกมิตรกับพวกเขาและหวังว่าได้รับสถานะตัวเอง อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกตั้งสถานะลำดับชั้น
สาวๆนิยมหลีกเลี่ยงติดต่อกับเพื่อนสถานะต่ำกว่า ผลคือ เพื่อนสาวที่เป็นที่นิยมเหล่านี้
หลีกเลี่ยงช่วงเที่ยง เพราะพวกเขาถือว่าพวกเขาหัวสูง ก็ปฏิเสธพวกเขา .
จากการศึกษาเหล่านี้หนึ่งจะพบว่า เด็กที่ตัวเองใกล้
เพื่อนร่วมชั้นที่เป็นที่นิยมที่จุดเริ่มต้นของปีโรงเรียน แต่ห่างออกไปจากพวกเขา ต่อมาในปีการศึกษาที่ 2 .
เพราะทดลองในภาคเรียนที่ 2 ได้ เราคาดหวังว่า ( เด็ก ) จะ
สถานที่ตัวเองห่างจากเพื่อนร่วมชั้นที่พวกเขารับรู้ว่าเป็นที่นิยมและ ( B ) เด็กที่ถูก
เป็นที่นิยมในหมู่คนส่วนใหญ่ของเพื่อนของพวกเขาจะมีขนาดใหญ่ที่ต้องการระยะทางถึงเพื่อนโดยทั่วไป เป้าหมายของการศึกษา
2 เพื่อทดสอบว่าเด็กชอบตามความนิยมของเพื่อน
ถูกสะท้อนให้เห็นในวิธีที่พวกเขาวางเองเทียบกับเพื่อนเมื่อพวกเขาสามารถทำให้พวกเขา
เอง ห้องเรียน การจัดที่นั่งได้ นอกจากนี้เรายังต้องการที่จะทำซ้ำผลการศึกษา 1 เกี่ยวกับ
ความสัมพันธ์ของบุคคล กำหนดระยะทางในชั้นเรียน โดยครู และชอบการจัดอันดับ
และความนิยม ดังนั้น เราตรวจสอบต่อไปนี้คำถามการวิจัยในการศึกษา 2