How you regain access to your site:

How you regain access to your site:
The easiest way to solve this problem immediately is to simply rename the Wordfence folder in your WordPress installation. You can do that as follows:
Connect to your server using the method your normally use to upload files. Most people either use FTP or SFTP to do this.
Rename the Wordfence directory (or folder if you prefer).
If your site has the standard WordPress structure, you can do this by simply renaming the following folder: wp-content/plugins/wordfence/
The above procedure will immediately unlock your site. If you are still seeing a message that you’re locked out, make sure you disable any caching plugins like W3 Total Cache, or clear their cache. If you can’t access the site to disable the caching plugin, you may have to temporarily rename the caching plugin directory to disable it. You may also have to clear any caches on a front-end caching proxy if you have an advanced configuration.
In the highly unusual case that you don’t have access to your own files on your server, you will need to log a support call with your web hosting company or whoever manages your server and ask them to rename the wp-content/plugins/wordfence folder.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิธีคุณเข้าเว็บไซต์ของคุณ:วิธีง่ายที่สุดเพื่อแก้ไขปัญหานี้ทันทีจะเพียงแค่เปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ Wordfence ในการติดตั้งเวิร์ดเพรส คุณสามารถทำดังนี้:เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของคุณโดยใช้วิธีของคุณใช้การอัปโหลดไฟล์ คนส่วนใหญ่ใช้ FTP หรือ SFTP การทำเช่นนี้เปลี่ยนชื่อไดเรกทอรี Wordfence (หรือโฟลเดอร์ถ้าคุณต้องการ)ถ้าไซต์ของคุณมีมาตรฐานโครงสร้างเวิร์ดเพรส คุณสามารถทำได้ โดยเพียงแค่เปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ต่อไปนี้: wp-เนื้อหา/ปลั๊ก อิน/wordfence /ขั้นตอนข้างต้นจะปลดล็อคเว็บไซต์ของคุณทันที ถ้าคุณยังคงเห็นข้อความที่คุณเข้าระบบ ให้แน่ใจว่า คุณปิดใช้งานปลั๊กอินต่าง ๆ แคเช่นแคชทั้งหมด W3 หรือล้างแคชของตน ถ้าคุณไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์นี้เพื่อปิดใช้งานปลั๊กอินแค คุณอาจต้องการเปลี่ยนชื่อไดเรกทอรีปลั๊กอินแคเพื่อปิดการใช้งานชั่วคราว นอกจากนี้คุณยังอาจต้องล้างแคชใด ๆ บนพร็อกซีแค front-end ถ้าคุณมีการกำหนดค่าขั้นสูงในกรณีสูงผิดปกติคุณไม่สามารถเข้าถึงแฟ้มของคุณเองบนเซิร์ฟเวอร์ของคุณ คุณจะต้องล็อกสายสนับสนุน ด้วยของเว็บโฮสติ้งบริษัทหรือผู้จัดการเซิร์ฟเวอร์ของคุณ และขอให้เปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ wp-เนื้อหา/ปลั๊ก อิน/wordfence

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิธีที่คุณสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณ:
วิธีที่ง่ายที่สุดในการแก้ปัญหานี้ทันทีก็คือการเปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ Wordfence ในการติดตั้งเวิร์ดเพรสของคุณ คุณสามารถทำได้ดังนี้
เชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ของคุณโดยใช้วิธีการตามปกติของคุณใช้ในการอัปโหลดไฟล์ . คนส่วนใหญ่อาจใช้ FTP หรือ SFTP การทำเช่นนี้
. เปลี่ยนชื่อไดเรกทอรี Wordfence (หรือโฟลเดอร์ถ้าคุณชอบ)
หากเว็บไซต์ของคุณมีโครงสร้าง WordPress มาตรฐานคุณสามารถทำเช่นนี้โดยเพียงแค่การเปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ต่อไปนี้: wp-content / plugins / wordfence /
ขั้นตอนข้างต้นทันทีจะปลดล็อคเว็บไซต์ของคุณ หากคุณยังคงเห็นข้อความที่คุณกำลังล็อคออกให้แน่ใจว่าคุณปิดการใช้งานปลั๊กอินแคชใด ๆ เช่น W3 รวม Cache หรือล้างแคชของพวกเขา ถ้าคุณไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ที่จะปิดการใช้งานปลั๊กอินแคชคุณอาจต้องเปลี่ยนชื่อชั่วคราวไดเรกทอรีแคชปลั๊กอินปิดการใช้งาน นอกจากนี้คุณยังอาจต้องล้างแคชใด ๆ บน Front-end แคชพร็อกซี่ถ้าคุณมีการกำหนดค่าขั้นสูง.
ในกรณีที่ผิดปกติอย่างมากที่คุณไม่ได้มีการเข้าถึงไฟล์ของคุณเองบนเซิร์ฟเวอร์ของคุณคุณจะต้องเข้าสู่ระบบการสนับสนุนทางโทรศัพท์ เว็บโฮสติ้ง บริษัท หรือบุคคลที่จัดการเซิร์ฟเวอร์ของคุณและขอให้เปลี่ยนชื่อ WP เนื้อหา / ปลั๊กอิน / โฟลเดอร์ wordfence

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิธีที่คุณสามารถเข้าถึงไซต์ของคุณ :วิธีที่ง่ายที่สุดในการแก้ไขปัญหานี้ทันที เป็นเพียงแค่เปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ใน wordfence ติดตั้ง WordPress ของคุณ คุณสามารถทำดังนี้เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของคุณโดยใช้วิธีการของคุณโดยปกติจะใช้เพื่ออัปโหลดไฟล์ คนส่วนใหญ่ให้ใช้ FTP หรือ SFTP ที่จะทำนี้เปลี่ยนชื่อไดเรกทอรี wordfence ( หรือโฟลเดอร์ถ้าคุณต้องการ )หากเว็บไซต์ของคุณมีโครงสร้าง WordPress มาตรฐาน คุณสามารถทำเช่นนี้โดยเพียงแค่การเปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ต่อไปนี้ : เนื้อหา / ปลั๊กอิน / wordfence WP /ขั้นตอนข้างต้นจะทันทีปลดล็อคเว็บไซต์ของคุณ ถ้าคุณยังเห็นข้อความที่คุณล็อคออก ให้แน่ใจว่า คุณปิดการใช้งานแคชปลั๊กอินใด ๆรวมชอบแคช W3 หรือล้างแคชของ ถ้าคุณไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์เพื่อปิดการใช้งานแคชปลั๊กอิน คุณอาจจะต้องเปลี่ยนชื่อไดเรกทอรีชั่วคราวแคชปลั๊กอินที่จะปิดการใช้งาน คุณอาจต้องล้างแคชพร็อกซี่แคชในธุรกิจใด ๆถ้าคุณมีการตั้งค่าขั้นสูงในกรณีที่ผิดปกติมากที่คุณไม่สามารถเข้าถึงไฟล์ของคุณบนเซิร์ฟเวอร์ของคุณ คุณจะต้องเข้าสู่ระบบสนับสนุนโทรศัพท์กับเว็บของคุณโฮสต์ บริษัท หรือใครก็ตามที่จัดการเซิร์ฟเวอร์ของคุณและถามพวกเขาที่จะเปลี่ยน wp เนื้อหา / ปลั๊กอิน / wordfence โฟลเดอร์