Knowing the author and his/her orga

Knowing the author and his/her organization also helps you understand the book’s intellectual context. This includes the academic discipline(s) from which it draws, schools of thought within that discipline, and others who agree with or oppose the author’s viewpoint.
You’ll understand a book much better if you can figure out what, and who, it is answering — since a book is almost always partly one writer’s response to other writers. Pay special attention to points where the author tells you directly that s/he is disagreeing with other writers: “Conventional wisdom holds that x, but I argue instead that y.” (Is x really conventional wisdom? Among what group of people?) “Famous Joe Scholar says that x, but I believe that y.” (Who’s Famous Joe, and why do other people believe him? How plausible are x and y? Is the author straining to find something original to say, or has s/he genuinely convinced you that Famous Joe is wrong?)
Equally important are the people and writings the author cites in support of his/her arguments.
10) Use your unconscious mind.
An awful lot of thinking and processing goes on when you’re not aware of it. Just as with writing or any other creative thought process, full understanding of a book takes time to develop. The mind, like the body, can also get tired, especially when doing just one thing for many hours. Your ability to comprehend and retain what you read drops off dramatically after a couple of hours.
Therefore, you should read a book in several short sessions of one to two hours apiece, rather than one long marathon. If you follow the method given here, you’ll go through the entire book at each session. In between, your unconscious mind will process some of what you’ve read.
When you come back for the next session, start by asking yourself what you remember from your previous reading, what you think of it so far, and what you still need to learn.
11) Rehearse, and use multiple modes.
After you’ve read the book, rehearse what you’ve learned. Quiz yourself on its contents. Argue with the author. Imagine how you would defend the author’s position in your own writing.
The best forms of rehearsal use multiple modes of thinking. Don’t just contemplate privately. Instead, talk about the book with others. Bring it up in classes. Write about it. Visualize anything that can be visualized about its contents.
Using different modes of thought helps fix your memory and integrate it into the rest of your knowledge.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รู้ว่าผู้เขียนและ / องค์กรของตนนอกจากนี้ยังช่วยให้คุณเข้าใจบริบททางปัญญาของหนังสือเล่มนี้ ซึ่งรวมถึงการมีวินัยทางวิชาการ (s) จากที่ที่มันดึงโรงเรียนแห่งความคิดที่อยู่ในระเบียบวินัยนั้นและคนอื่น ๆ ที่เห็นด้วยกับหรือคัดค้านมุมมองของผู้เขียน.
คุณจะได้เข้าใจเป็นหนังสือที่ดีมากถ้าคุณสามารถคิดออกว่าและที่มัน จะตอบ - ตั้งแต่หนังสือเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งมักจะตอบสนองอย่างใดอย่างหนึ่งของนักเขียนนักเขียนอื่น ๆ ความใส่ใจเป็นพิเศษไปยังจุดที่ผู้เขียนบอกคุณโดยตรงที่ s / เขาจะไม่เห็นด้วยกับนักเขียนคนอื่น "ภูมิปัญญาดั้งเดิมถือได้ว่า x แต่ผมยืนยันว่าแทนที่จะวาย." (คือ x จริงๆภูมิปัญญาดั้งเดิมในบรรดาสิ่งที่กลุ่มคน?) "โจนักวิชาการที่มีชื่อเสียงกล่าวว่า x แต่ผมเชื่อว่าปี." (ใครเป็นโจที่มีชื่อเสียงและทำไมคนอื่นเชื่อเขาหรือไม่วิธีการที่เป็นไปได้มี x และ y หรือไม่ผู้เขียนรัดที่จะหาสิ่งเดิมที่จะพูดหรือมี s / เขาเชื่อว่าคุณอย่างแท้จริงว่าโจที่มีชื่อเสียงเป็นสิ่งที่ผิด?)
ความสำคัญเท่าเทียมกันเป็นคนเขียนและผู้เขียนอ้างอิงในการสนับสนุนการ / ข้อโต้แย้งของเขา.
10) ใช้จิตไร้สำนึกของคุณ.
แย่มากของการคิดและการประมวลผลไปในเมื่อคุณไม่ได้ ตระหนักถึงมัน เช่นเดียวกับการเขียนหรือกระบวนการคิดสร้างสรรค์อื่น ๆ เข้าใจของหนังสือเล่มนี้ใช้เวลาในการพัฒนา จิตใจเช่นเดียวกับร่างกายนอกจากนี้ยังสามารถได้รับเหนื่อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทำเพียงสิ่งหนึ่งหลายชั่วโมง ความสามารถในการเข้าใจและรักษาสิ่งที่คุณอ่านหยดออกมากหลังจากที่ไม่กี่ชั่วโมง.
ดังนั้นคุณควรอ่านหนังสือในการประชุมหลายสั้น 1-2 ชั่วโมงละมากกว่าหนึ่งมาราธอนนาน ถ้าคุณทำตามวิธีการที่กำหนดที่นี่คุณจะไปถึงหนังสือทั้งเล่มในแต่ละเซสชั่น ในระหว่างจิตไร้สำนึกของคุณจะดำเนินการบางส่วนของสิ่งที่คุณอ่าน.
เมื่อคุณกลับมาสำหรับครั้งต่อไปเริ่มต้นด้วยการถามตัวเองว่าสิ่งที่คุณจำได้ว่าก่อนหน้านี้จากการอ่านของคุณสิ่งที่คุณคิดว่ามันเพื่อให้ห่างไกลและสิ่งที่คุณยังคงต้อง ที่จะเรียนรู้.
11) ฝึกซ้อมและใช้หลายโหมด.
หลังจากที่คุณได้อ่านหนังสือเล่มนี้ซ้อมสิ่งที่คุณได้เรียนรู้ ตอบคำถามตัวเองเกี่ยวกับเนื้อหาของมัน เถียงกับผู้เขียน ลองนึกภาพว่าคุณจะรักษาตำแหน่งของผู้เขียนในการเขียนของคุณเอง.
รูปแบบที่ดีที่สุดในการใช้การฝึกซ้อมหลายโหมดของการคิด อย่าเพิ่งคิดเอกชน แต่พูดคุยเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้กับคนอื่น ๆ นำมันขึ้นในชั้นเรียน เขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ เห็นภาพอะไรที่สามารถมองเห็นเกี่ยวกับเนื้อหาของมัน.
ใช้โหมดที่แตกต่างของความคิดที่จะช่วยแก้ไขปัญหาหน่วยความจำของคุณและรวมไว้ในส่วนที่เหลือของความรู้ของคุณ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผมหวังดีกับคุณ จริงๆคุณควรจะได้เห็นผู้หญิง
.
ฉันไม่ใช่ผู้หญิง .
มันฉันไม่สามารถบอกคุณได้ผมหวังดีกับคุณ จริงๆคุณควรจะได้เห็นผู้หญิง
.
ฉันไม่ใช่ผู้หญิง .
มันฉันไม่สามารถบอกคุณได้ผมหวังดีกับคุณ จริงๆคุณควรจะได้เห็นผู้หญิง
.
ฉันไม่ใช่ผู้หญิง .
มันฉันไม่สามารถบอกคุณได้ผมหวังดีกับคุณ จริงๆคุณควรจะได้เห็นผู้หญิง
.
ฉันไม่ใช่ผู้หญิง .
มันฉันไม่สามารถบอกคุณได้ผมหวังดีกับคุณ จริงๆคุณควรจะได้เห็นผู้หญิง
.
ฉันไม่ใช่ผู้หญิง .
มันฉันไม่สามารถบอกคุณได้ผมหวังดีกับคุณ จริงๆคุณควรจะได้เห็นผู้หญิง
.
ฉันไม่ใช่ผู้หญิง .
มันฉันไม่สามารถบอกคุณได้ผมหวังดีกับคุณ จริงๆคุณควรจะได้เห็นผู้หญิง
.
ฉันไม่ใช่ผู้หญิง .
มันฉันไม่สามารถบอกคุณได้