The operations of the relational mo

The operations of the relational model can be categorized into retrievals and updates.There are three basic update operations on relations (1) insert, (2) delete and (3) modify.

Insert is used to insert a new tuple or tuples in relation: Delete is used to delete tuple; and Update (or modify) is used to change the values of some attribute in existing tuple. Whenever update operations are applied, the integrity constraints specified on the relational database schema should not be violated.

The insert operation provides a list of attribute values for a new tuple that is to be

can violate any of the four types

Insertion

R.

relation

into a

inserted

constraints.Domain constraints can be violated if an attribute value is given that does not appear in the corresponding domain. Key constraints can be violating if a key value in the new tuple t already exists in another tuple in the relation . Entity integrity can be violated if the primary key of the new tuple t is null. Referential integrity can be violated if the value of any foreign key in t refers to a tuple that does not exists in the referenced relation. Here are some examples :-

1. Insert < ?Cecilia?, ?F?, ?Komolafe?, null, ?1960-04-05?, ?6357 Adetutu, Lane, Abeokuta, OG?, F 28000, null 4> into EMPLOYEE. This insertion violates the entity integrity constraint (null for the primary key SSN), so it is rejected.

2. Insert < ?Alice?, ?J?, ?Zachariah?, ?999887777?, ?1960-04-05?, ?6357 Adetutu Lane, Abeokuta OG?, F,28000, ?987654321?, 4> into EMPLOYEE. This insertion violates the key constraint because another tuple with the same SSN value already exists in the EMPLOYEE relation, and so it is rejected.

3. Insert < ?Folorunso?, ?O?,?Olusegun?,?677678989?, ?1960-04-05? ?6357 Obasanjo Aremu OG?, F,28000, ?987654321?, 7 > into EMPLOYEE. This insertion violates the referential integrity constraint specified on KNO because no DEPARTMENT tuples exists with DNUMBERS = 7.

4. Insert < ?Folorunso?, ?O?, ?Olusegun?, ?677678989?, ?1960-04-05?, ?6357 Obasanjo Lane, Aremu, OG?, F, 28000, null 4 > into EMPLOYEE. This insertion satisfies all constraints, so it is acceptable.

If an insertion violates one or more constraints, the default option is to reject the insertion. In this case, it would be useful if the DBMS could explain to the user why the insertion was rejected. Another option is to attempt to correct the reason for rejecting the insertion, but this is typically not used for violations caused by insert; rather, it is used more often in correcting violations for Delete and Update.

The Delete operation can violate only referential integrity; If the foreign keys reference the tuple being deleted from other tuples in the database. To specify deletion, a condition on the attributes of the relation select the tuples (or tuples) to be deleted. Here are some examples.

1. Delete the WORKS-ON tuples with ESS = 999887777 and KPNO = 10. This deletion is acceptable.

2. Delete the employee tuple with SSN = 999887777. This deletion is not acceptable, because tuples in works-on refer to this tuple. Hence, if the tuple is deleted, referential integrity violation will result.

3. Delete the employee tuple with SSN = 333445555. This deletion will result in even worse referential integrity violations,

referenced by tuples from the employee, department, works-on, and department relations.

Three options are available if a deletion operation causes a violation,.

The first option is to reject the deletion. The second opting is to attempt to cascade ( or propagate) the deletion by deleting tuples that reference the tuple that is being deleted. For example in operation 2, the DBMS could automatically delete the offending tuples form works-on with ESSN= 999887777. A third option is a to modify the referencing attribute that cause the valid tuple. Notice that, if a referencing attribute that cause a violation is part of the primary key, it cannot be set to null otherwise, it would violate entity integrity.

Combinations of these three options are also possible. For example, to avoid having operation 3 cause a violation, DBMS may automatically delete all tuples from works ?on and department with ESSN=333445555. Tuples in employee with super SSN = 33445555 and changed to other valid values or to null. Although it may makes sense to delete automatically the works-on and department tuples that refer to an employee tuples, it may not make sense to delete other employee tuples or a department tuple.

The update operation is used to change the values of one or more attributes in a tuple (or tuples) of some relation r. It is necessary to specify a condition on the attribute of the relation to select the tuple (or tuples) to be modified. Here are some examples.

1. Update the salary of the Employee tuple with SSN 999887777 to 28000 -Acceptable

2. Update the DNO of the employee tuple with SSN = 999887777 to 1

Acceptable.

Update the DNO of the employee tuple with SSN = 999887777 to 7 -



3.

Unacceptable, because it violates referential integrity.

4. Update the SSN of the employee tuple with SSN = 999887777 to 987654321 -

Unacceptable, because it violates primary

constraints. Updating an attribute that is neither a primary key nor a foreign key usually cause no problems.The DBMS need only check to confirm that the new values as of the correct data type and domain.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การดำเนินการของแบบจำลองเชิงสัมพันธ์สามารถแบ่งออกได้ retrievals และปรับปรุงมีการดำเนินการปรับปรุงพื้นฐานสามบนแทรกความสัมพันธ์ (1), (2) ลบ และ (3) ปรับเปลี่ยน

ใช้แทรกเพื่อแทรกใหม่ทูเพิลหรือ tuples สัมพันธ์: ใช้ลบการลบทูเพิล และปรับปรุง (หรือแก้ไข) จะใช้ในการเปลี่ยนแปลงค่าของแอตทริบิวต์บางส่วนในทูเพิลที่มีอยู่ เมื่อใดก็ตามโปรแกรมปรับปรุงจะใช้ ไม่ควรจะละเมิดข้อจำกัดความที่ระบุไว้ในเค้าร่างฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ได้

การแทรกแสดงรายการของค่าแอตทริบิวต์สำหรับทูเพิลใหม่ที่จะ

สามารถละเมิดใด ๆ ชนิดสี่

แทรก

R.

ความสัมพันธ์

เป็นการ

แทรก

ข้อจำกัดได้สามารถจะละเมิดข้อจำกัดของโดเมนถ้ากำหนดค่าแอตทริบิวต์ที่ไม่ปรากฏในโดเมนที่สอดคล้องกัน สามารถจะละเมิดข้อจำกัด key ถ้าค่าคีย์ใน t ทูเพิลใหม่แล้วในทูเพิลอีกในความสัมพันธ์ ความสมบูรณ์ของเอนทิตีสามารถละเมิดถ้าคีย์หลักของ t ทูเพิลใหม่เป็น null อ้างอิงความสามารถละเมิดถ้าค่าของคีย์ใดใน t ถึงทูเพิลที่มีอยู่ในความสัมพันธ์อ้างอิง ตัวอย่างเช่น: -

1 แทรก Komolafe ?, null, ? 1960-04-05 ?, ? Abeokuta Adetutu เลน 6357 ออก?, F 28000, null 4 > เป็นพนักงาน แทรกนี้ละเมิดข้อจำกัดของเอนทิตี (เป็น null สำหรับคีย์หลัก SSN), ดังนั้นมันจะถูกปฏิเสธ

2 แทรก < ? อลิซ?, ? J ?, ? Zachariah ?, ? 999887777 ?, ? 1960-04-05 ?, ? 6357 Adetutu เลน Abeokuta ออกหรือไม่ F, 28000, ? 987654321 ?, 4 > เป็นพนักงาน แทรกนี้ละเมิดข้อจำกัดคีย์ทูเพิลอื่น ๆ ตามค่า SSN แล้วในความสัมพันธ์ของพนักงาน และดัง นั้นถูกปฏิเสธ

3 แทรก < ? Folorunso ?, ? O ?, ? Olusegun ?, ? 677678989 ?, ? 1960-04-05 ?? 6357 Obasanjo Aremu ออกหรือไม่ F, 28000, ? 987654321 ?, 7 > เป็นพนักงาน แทรกนี้ละเมิดข้อจำกัดความอ้างอิงที่ระบุในรู้เนื่องจากแผนก tuples ไม่ มี DNUMBERS = 7.

4 แทรก < ? Folorunso ?, ? O ?, ? Olusegun ?, ? 677678989 ?, ? 1960-04-05 ?, ? ออกเลน Obasanjo 6357, Aremu ?, F, 28000, null 4 > เป็นพนักงาน แทรกนี้เป็นไปตามข้อจำกัดทั้งหมด ดังนั้นจึงยอมรับได้ด้วย

ถ้าแทรกการละเมิดข้อจำกัดอย่าง น้อยหนึ่ง ตัวเลือกเริ่มต้นคือการ ปฏิเสธการแทรก ในกรณีนี้ มันจะมีประโยชน์ถ้า DBMS สามารถอธิบายให้ผู้ใช้ทำไมแทรกถูกปฏิเสธ ตัวเลือกอื่นคือการ พยายามแก้ไขเหตุผลสำหรับการปฏิเสธการแทรก แต่โดยทั่วไปไม่ใช้สาเหตุแทรก การละเมิด ค่อนข้าง มีใช้บ่อยในการแก้ไขการละเมิดลบและปรับปรุง

การดำเนินการลบสามารถละเมิดเฉพาะ referential integrity ถ้าคีย์การอ้างอิงทูเพิลที่ถูกลบจาก tuples อื่น ๆ ในฐานข้อมูล เมื่อต้องการระบุการลบ เงื่อนไขในคุณลักษณะของความสัมพันธ์เลือก tuples (หรือ tuples) จะถูกลบ นี่คือตัวอย่างบาง

1 ลบ tuples ในงานกับ ESS = 999887777 และ KPNO = 10 การลบนี้เป็นที่ยอมรับ

2 ลบทูเพิลพนักงาน มี SSN = 999887777 การลบนี้ไม่ยอมรับได้ เนื่องจาก tuples ในงานที่หมายถึงนี้ทูเพิล ดังนั้น ถ้ามีลบทูเพิล ละเมิด referential integrity จะผลลัพธ์

3 ลบทูเพิลพนักงาน มี SSN = 333445555 การลบนี้จะส่งผลการละเมิดความสมบูรณ์ของ referential ยิ่งแย่ลง,

ถูกอ้างอิง โดย tuples จากพนักงาน แผนก งานระบบ และภาควิชาความสัมพันธ์

สามตัวเลือกจะพร้อมใช้งานถ้าการละเมิด ทำให้การดำเนินการลบ

ตัวแรกจะปฏิเสธการลบ เลือกที่สองจะพยายามเรียงซ้อน (หรือแพร่กระจาย) การลบลบ tuples ทูเพิลที่กำลังถูกลบการอ้างอิง ตัวอย่างในการดำเนินงาน 2 DBMS สามารถลบโดยอัตโนมัติแบบ tuples ค่าทำงานในกับ ESSN = 999887777 ตัวเลือกที่สามเป็นการปรับเปลี่ยนแอตทริบิวต์การอ้างที่ทำให้ทูเพิลถูกต้อง ขอให้สังเกตว่า ถ้าแอตทริบิวต์การอ้างที่ทำให้เกิดการละเมิดเป็นส่วนหนึ่งของคีย์หลัก มันไม่สามารถตั้งค่า null มิฉะนั้น เป็นละเมิดความสมบูรณ์ของเอนทิตี

ชุดสามตัวเลือกเหล่านี้ก็เป็นไป ตัวอย่าง การหลีกเลี่ยงสาเหตุการดำเนินงาน 3 การละเมิด DBMS อาจโดยอัตโนมัติลบทุก tuples จากงาน? บน และฝ่าย ESSN = 333445555 Tuples ในพนักงานซูเปอร์ SSN = 33445555 และเปลี่ยนแปลงค่าอื่นถูกต้อง หรือเป็น null ถึงแม้ว่ามันอาจ ทำให้รู้สึกการลบโดยอัตโนมัติทำงานบนและ tuples ฝ่ายที่อ้างอิงถึงการพนักงาน tuples มันอาจไม่เหมาะสมลบ tuples พนักงานอื่น ๆ หรือทูเพิลแผนกได้

ดำเนินการปรับปรุงใช้ในการเปลี่ยนแปลงค่าของแอตทริบิวต์อย่าง น้อยหนึ่งในทูเพิล (หรือ tuples) ของความสัมพันธ์ r บาง จำเป็นต้องระบุเงื่อนไขในลักษณะของความสัมพันธ์เพื่อเลือกทูเพิล (หรือ tuples) ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ นี่คือตัวอย่างบาง

1 ปรับปรุงเงินเดือนของทูเพิลพนักงาน มี SSN 999887777 ถึง 28000 - ยอมรับ

2 ปรับปรุง DNO ของทูเพิลพนักงาน มี SSN = 999887777-1

Acceptable

อัพเด DNO ของทูเพิลพนักงาน มี SSN = 999887777 ไป 7-


3

Unacceptable เนื่องจากละเมิด referential integrity

4 ปรับปรุง SSN ของทูเพิลพนักงาน มี SSN = 999887777 ถึง 987654321-

Unacceptable เนื่องจากละเมิดหลัก

ข้อจำกัด ปรับปรุงแอตทริบิวต์ที่ไม่ใช่คีย์หลักหรือคีย์มักจะ ทำให้เกิดปัญหาไม่DBMS จะต้องตรวจสอบเพื่อยืนยันให้ พิมพ์ค่าใหม่ ณข้อมูลถูกต้องและโดเมนเท่านั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การดำเนินงานของแบบจำลองเชิงสัมพันธ์สามารถแบ่งได้เป็น retrievals และการปรับปรุงมีการปรับปรุงการปฏิบัติงานบนพื้นฐานสามสัมพันธ์ ( 1 ) ใส่ ( 2 ) และ ( 3 ) ลบแก้ไข

ใส่เคยใส่ใหม่ tuple หรือทูเปิลในความสัมพันธ์ : ลบใช้เพื่อลบทูเปิล และปรับปรุงหรือปรับเปลี่ยน ) ถูกใช้เพื่อเปลี่ยนค่าของแอตทริบิวต์ใน tuple ที่มีอยู่ เมื่อใดก็ตามที่การ update จะประยุกต์ความสมบูรณ์ของข้อจำกัดที่ระบุในคีมาฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ที่ไม่ควรละเมิด

แทรกผ่าตัดให้รายการของค่าแอตทริบิวต์ใหม่สำหรับ tuple ที่เป็น

สามารถละเมิดสี่ประเภท

. .







กับเข้าแทรก

constraints.domain ข้อจำกัด สามารถ ละเมิด ถ้าค่าแอตทริบิวต์ให้ที่ไม่ได้ปรากฏในที่โดเมนข้อจำกัดที่สำคัญสามารถละเมิดถ้าค่าคีย์ใน t tuple ใหม่มีอยู่แล้วใน tuple อื่นในความสัมพันธ์ เอนทิตีความสมบูรณ์สามารถละเมิด ถ้าคีย์หลักของ T tuple ใหม่เป็น null . ความสมบูรณ์ของ referential สามารถละเมิด ถ้าค่าของคีย์ต่างประเทศใด ๆ ใน T หมายถึงเป็นทูเปิลที่ไม่ได้มีอยู่ในการอ้างอิงความสัมพันธ์ นี่คือตัวอย่างบางส่วน : -

1 ใส่ < ? ซิซิเลีย , ? F ? , ?komolafe ? โมฆะ , , ? 1960-04-05 ? , ? 6357 adetutu , Lane , แอบีโอคูตา , และ ? , F , 000 4 > เป็น null , พนักงาน แทรกนี้ละเมิดองค์กรความซื่อสัตย์ข้อจำกัด ( null สำหรับ SSN คีย์หลัก ) ดังนั้นจึงปฏิเสธ

2 ใส่ < ? อลิซ , ? เจ , ? แซคคาไรหรอ , ? 999887777 ? , ? 1960-04-05 ? , ? 6357 adetutu เลนแอบีโอคูตาและ ? , F , 28 , 000 ? 987654321 ? 4 > เป็นลูกจ้างแทรกนี้ละเมิดข้อจำกัดสำคัญเพราะ tuple อื่นที่มีค่า SSN เดียวกันอยู่แล้วในพนักงานสัมพันธ์และดังนั้นจึงปฏิเสธ

3 ใส่ < ? folorunso ? , ? โอ , ? olusegun ? , ? 677678989 ? , ? 1960-04-05 ? ? 6357 obasanjo aremu และ ? , F , 28 , 000 ? 987654321 ? 7 > เป็นลูกจ้างแทรกไปด้วยความสมบูรณ์นี้ละเมิดข้อจำกัดที่ระบุใน kno เพราะไม่มีที่มีแผนกมีอยู่กับ dnumbers = 7 .

4 . ใส่ < ? folorunso ? , ? โอ , ? olusegun ? , ? 677678989 ? , ? 1960-04-05 ? , ? 6357 obasanjo เลน aremu , และ ? , F , 28000 null , 4 > เป็นลูกจ้าง แทรกนี้ตรงทุกข้อจำกัด ดังนั้นจึงเป็นที่ยอมรับ

ถ้าแทรกหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งฝ่าฝืนข้อบังคับตัวเลือกเริ่มต้นคือการปฏิเสธการแทรก ในกรณีนี้ , มันจะเป็นประโยชน์ถ้า DBMS สามารถอธิบายให้กับผู้ใช้เหตุผลการปฏิเสธ อีกตัวเลือกหนึ่งคือการพยายามที่จะแก้ไข เหตุผลที่ปฏิเสธการ แต่นี้มักจะไม่ใช้ความรุนแรงที่เกิดจากการแทรก ; ค่อนข้าง , มันถูกใช้บ่อยในการแก้ไขการละเมิดเพื่อลบและปรับปรุง

ลบการดำเนินงานสามารถละเมิดเพียงไปด้วยความซื่อสัตย์ ถ้าคีย์ต่างประเทศอ้างอิงทูเปิลถูกลบออกจากที่มีในฐานข้อมูล ระบุการลบเงื่อนไขในลักษณะของความสัมพันธ์ทางเลือกที่มี ( หรือทูเปิล ) จะถูกลบออก นี่คือตัวอย่าง .

1 . ลบ works-on ทูเปิลกับ ESS และ = 999887777 kpno = 10 การลบนี้เป็นที่ยอมรับ

2ลบพนักงานทูเปิลกับ SSN = 999887777 . การลบนี้เป็นที่ยอมรับไม่ได้ เพราะที่มีในงานอ้างถึง tuple แบบนี้ ดังนั้น ถ้าทูเปิลถูกลบละเมิดความสมบูรณ์ไปด้วยจะมีผล

3 ลบพนักงานทูเปิลกับ SSN = 333445555 . การลบนี้จะส่งผลแย่ความสมบูรณ์ไปด้วยการแข่งขัน

อิง โดยทูเปิลจากพนักงาน แผนก ทำงานบนและแผนกประชาสัมพันธ์

สามตัวเลือกที่ใช้ได้ถ้าลบการดำเนินงานให้เกิดการละเมิด .

ตัวเลือกแรกคือการปฏิเสธการลบ 2 เลือกที่จะพยายามที่จะน้ำตก ( หรือป่าว ) ลบด้วยการลบทูเปิลที่อ้างอิง tuple ที่ถูกลบ ตัวอย่างเช่นในการดำเนินงาน 2ระบบการจัดการฐานข้อมูลสามารถลบโดยอัตโนมัติที่มีรูปแบบงานรุกรานด้วย essn = 999887777 . ตัวเลือกที่สามคือการปรับเปลี่ยนแอตทริบิวต์ทูเปิลที่อ้างอิงให้ถูกต้อง สังเกตว่า ถ้าอ้างอิงถึงแอตทริบิวต์ที่ก่อให้เกิดการละเมิดเป็นส่วนหนึ่งของคีย์หลักจะไม่สามารถตั้งค่า Null มิฉะนั้นมันจะละเมิดนิติบุคคลสมบูรณ์

การรวมกันของทั้งสามตัวเลือกนอกจากนี้ยังเป็นไปได้ตัวอย่างเช่น , เพื่อหลีกเลี่ยงการดำเนินงาน 3 ก่อให้เกิดการละเมิด หรืออาจจะลบโดยอัตโนมัติที่มีทั้งหมดจากงาน และหน่วยงาน essn = 333445555 . ที่มีพนักงานซุปเปอร์ SSN = 33445555 และเปลี่ยนค่าเริ่มต้นอื่น ๆหรือ null . แม้ว่ามันอาจจะทำให้ความรู้สึกที่จะลบโดยอัตโนมัติและทำงานในแผนกที่มีพนักงานที่มีหมายถึง ,มันอาจจะไม่ได้ทำให้ความรู้สึกที่จะลบที่มีพนักงานอื่นหรือแผนก tuple

update การใช้เพื่อเปลี่ยนค่าจากหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งแอททริบิวต์ในทูเปิล ( หรือทูเปิล ) ของความสัมพันธ์ R . มันเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อระบุเงื่อนไขในลักษณะของความสัมพันธ์เพื่อเลือกทูเปิล ( หรือทูเปิล ) จะแก้ไข นี่คือตัวอย่าง .

1 .การปรับปรุงเงินเดือนของพนักงานทูเปิลกับ SSN 999887777 28000 - ยอมรับ

2 ปรับปรุงดีโน่ของพนักงานทูเปิลกับ SSN = 999887777 1

ยอมรับ

update ดีโน่ของพนักงานทูเปิลกับ SSN = 999887777 7 -



3

รับไม่ได้ เพราะมันฝืนความสมบูรณ์ไปด้วย

4 . อัพเดท SSN ของพนักงานทูเปิลกับ SSN = 999887777 เพื่อ 987654321 -

รับไม่ได้เพราะมันฝืนหลัก

ข้อจํากัด ปรับปรุงแอตทริบิวต์ที่ไม่ใช่คีย์หลักและคีย์ต่างประเทศมักจะไม่เกิดปัญหา หรือต้องการเพียงตรวจสอบเพื่อยืนยันว่าใหม่ค่าเป็นชนิดข้อมูลที่ถูกต้อง และโดเมน