Soils in some mining areas contain

Soils in some mining areas contain a high gypsum content, which can give adverse effects to the environment and may cause many cultivation problems, such as a low water retention capacity and low fertility.
The quality of such mine soils can be improved by reducing the soil’s gypsum content.
This study aims to develop an appropriate in situ bioremediation technology for abbreviating the gypsum content of mine soils by using sulfate reducing bacteria (SRB).
The technology was applied to a mine soil from a gypsum mine in the southern part of Thailand which contains a high sulfate content (150 g kg−1).
Cheap organic substrates with low or no cost, such as rice husk, pig farm wastewater treatment sludge and coconut husk chips were mixed (60:20:20 by volume) and supplied to the soil as electron donors for the SRB.
The highest sulfate removal efficiency of 59% was achieved in the soil mixed with 40% organic mixture, corresponding to a reduction of the soil gypsum content from 25% to 7.5%.
For economic gains, this treated soil can be further used for agriculture and the produced sulfide can be recovered as the fertilizer elemental sulfur.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในบางพื้นที่ทำเหมืองแร่ประกอบด้วยเนื้อหาสูงยิปซัม ซึ่งจะกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และอาจทำให้เกิดปัญหาหลายอย่างปลูก กำลังเก็บข้อมูลต่ำน้ำและความอุดมสมบูรณ์ต่ำ สามารถปรับปรุงคุณภาพของดินเนื้อปูนเหมืองดังกล่าว โดยลดเนื้อหาของดินยิปซัมการศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมใน situ ววิธีการ abbreviating เนื้อหาของฉันดินเนื้อปูนยิปซัมโดยซัลเฟตลดแบคทีเรีย (SRB) เทคโนโลยีที่ใช้ดินระเบิดจากเหมืองยิปซัมในภาคใต้ของประเทศไทยซึ่งประกอบด้วยเนื้อหาซัลเฟตสูง (kg−1 150 กรัม) พื้นผิวอินทรีย์ประหยัดต่ำหรือไม่มีต้นทุน เช่นแกลบข้าว ตะกอนบำบัดน้ำเสียฟาร์มหมู และเศษแกลบมะพร้าวผสม (60:20:20 โดยปริมาตร) และให้ดินเป็นผู้บริจาคอิเล็กตรอนสำหรับ SRBประสิทธิภาพการกำจัดซัลเฟตสูงสุด 59% สำเร็จในดินผสมกับผสมอินทรีย์ 40% ที่สอดคล้องกับการลดลงของเนื้อหายิปซัมดินจาก 25% เป็น 7.5% สำหรับกำไรเศรษฐกิจ ดินบำบัดนี้สามารถต่อไปใช้เพื่อการเกษตร และสามารถกู้ซัลไฟด์ผลิตเป็นกำมะถันธาตุปุ๋ย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดินในพื้นที่การทำเหมืองแร่บางส่วนมีเนื้อหายิปซั่มสูงซึ่งสามารถให้ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและอาจทำให้เกิดปัญหาการเพาะปลูกเป็นจำนวนมากเช่นความจุกักเก็บน้ำต่ำและอุดมสมบูรณ์ต่ำ.
ที่มีคุณภาพของดินเหมืองดังกล่าวจะดีขึ้นโดยการลดของดิน เนื้อหายิปซั่ม.
การศึกษาครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อการพัฒนาที่เหมาะสมในแหล่งกำเนิดเทคโนโลยีชีวภาพสำหรับ abbreviating เนื้อหายิปซั่มของดินเหมืองโดยใช้ซัลเฟตช่วยลดแบคทีเรีย (SRB).
เทคโนโลยีถูกนำไปใช้กับดินเหมืองจากเหมืองยิปซั่มในภาคใต้ของประเทศไทยซึ่ง มีเนื้อหาซัลเฟตสูง (150 กรัมต่อกิโลกรัม-1).
พื้นผิวอินทรีย์ราคาถูกที่มีต้นทุนต่ำหรือไม่มีเลยเช่นแกลบ, ฟาร์มหมูกากตะกอนระบบบำบัดน้ำเสียและเศษขุยมะพร้าวผสม (60:20:20 โดยปริมาตร) และจ่ายให้กับ ดินเป็นผู้บริจาคอิเล็กตรอนสำหรับ SRB.
ประสิทธิภาพในการกำจัดซัลเฟตสูงสุด 59% ประสบความสำเร็จในดินผสมกับ 40% ส่วนผสมอินทรีย์ที่สอดคล้องกับการลดลงของเนื้อหายิปซั่มดินจาก 25% เป็น 7.5%.
สำหรับประโยชน์ทางเศรษฐกิจนี้ ดินได้รับการรักษาสามารถใช้ต่อไปเพื่อการเกษตรและซัลไฟด์ที่ผลิตสามารถกู้คืนเป็นปุ๋ยธาตุกำมะถัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ดินในบางพื้นที่เหมืองแร่ยิปซัมมีเนื้อหาสูงซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและอาจก่อให้เกิดปัญหาการปลูกหลายอย่าง เช่น ความจุกักเก็บน้ำต่ำและความอุดมสมบูรณ์ต่ำ คุณภาพของดิน เช่น
ฉันสามารถปรับปรุงได้โดยการลดปริมาณของแผ่นดิน
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการบำบัดทางชีวภาพที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มชนิดเนื้อหาของดินเหมืองยิปซั่มโดยใช้ซัลเฟตลดแบคทีเรีย ( MPB )
เทคโนโลยีจะใช้ดินจากเหมืองยิปซั่ม เหมืองในภาคใต้ที่มีซัลเฟตสูงเนื้อหา ( กก. 150 G − 1 )
ราคาถูกอินทรีย์พื้นผิวที่มีค่าใช้จ่ายต่ำหรือไม่ เช่น แกลบการบำบัดน้ำเสียฟาร์มสุกร กากตะกอน และชิปขุยมะพร้าวผสม ( 60:20:20 โดยปริมาตร ) และให้ดินเป็นตัวให้อิเล็กตรอนสำหรับ MPB .
สูงสุดประสิทธิภาพการกำจัดซัลเฟต 59 % สําเร็จในดินผสมอินทรีย์ผสม 40% ซึ่งสอดคล้องกับการลดลงของปริมาณดินยิปซัมจาก 25% ถึง 7.5% .
เพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจนี้การรักษาดินสามารถต่อใช้เพื่อการเกษตรและผลิตซัลไฟด์สามารถกู้คืนเป็นปุ๋ย
ธาตุกำมะถัน