ครอบครัวที่ขาดความอบอุ่น เป็นต้นเหตุที่ทำให้เด็กส่วนใหญ่หลงผิดไปในทีทางที่ไม่ดี เช่น ติดสารเสพติด ติดเกม ท้องในวัยเรียน ทำร้ายตนเองเพื่อเรียกร้องความสนใจ อื่นๆ ในปัจจุบันสภาวะเศรษฐกิจ สังคม ค่านิยมได้เปลี่ยนแปลงไป ทั้งพ่อ แม่ ผู้ปกครองต้องออกนอกบ้านเพื่อประกอบอาชีพเลี้ยงดูครอบครัว ออกทำงานแต่เช้าแล้วกลับดึก ออกจากบ้านไปทำธุระบ่อย ๆ ไม่มีเวลาพูดกับ ประกอบกับพฤติกรรมการปฏิบัติตนของพ่อแม่ก่อให้เกิดปัญหา บางท่าน ชอบใช้วิธีสอนลูกแบบเปรียบเทียบจุดเด่นของคนนอกบ้านกับจุดด้อยของลูก ใช้อารมณ์เหนือเหตุผลกับคนในบ้าน ใช้การบังคับ วางกฎเกณฑ์มีความคาดหวังกับลูกสูง เช่น ลูกต้องเก่ง ต้องดี เป็นต้น ชอบตำหนิลูกไม่เคยให้กำลังใจ ซ้ำเติมเมื่อลูกทำผิด ใช้อารมณ์กับคนในบ้านอย่างไม่มีเหตุผล เป็นเหตุทำให้เด็กรู้สึกขาดการความรัก ความอบอุ่นในครอบครัว ขาดความเอาใจใส่ดูแล จึงทำให้เด็ก ๆมีความรู้สึกสับสน ไม่กล้าที่จะพูดคุยกับพ่อแม่ ลูกไม่อยากพูดคุยปรึกษา รู้สึกอึดอัดเมื่ออยู่ที่บ้าน เกิดการต่อต้านและไม่ยอมรับคำสั่งสอนของ พ่อ แม่ ผู้ปกครองอีก ในทำนองเดียวกันก็มีวิธีที่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้เช่นกัน คือ พ่อ แม่ ผู้ปกครองหันมาสร้างบรรยากาศในครอบครัวแบบเป็นกันเอง สนิทสนมพูดคุยกับลูกได้ทุกเรื่องสร้างปฏิสัมพันธ์ด้านการกระทำที่อบอุ่น ไม่ทำงานจนไม่มีเวลาให้ลูก ควรมีกิจกรรมร่วมกับลูกบ้าง พูดคุยเรื่องกาทำงานของพ่อแม่ให้ลูกรับรู้ตามความเป็นจริง พยายามไม่แสดงอาการหงุดหงิด ฉุนเฉียว เมื่อกลับเข้ามาในบ้าน เปิดให้โอกาสลูกแสดงออกและเลือกเรื่องที่จะพูดเอง ควรทุ่มเทเวลาของคุณให้ลูกรักอย่างเต็มที่ เพราะลูกเองก็ต้องการความเอาใจใส่ของพ่อแม่อย่างเต็มร้อยเช่นกัน ลองพักเบรกตัวเองจากทุกสิ่ง แล้วใช้เวลาอยู่กับลูกทั้งวันแบบจริง ๆ จัง ๆ สิ่งที่คุณจะได้รับก็คือ ความสุขที่เรียบง่ายแต่มีความหมายที่ยิ่งใหญ่มาก ที่สำคัญลูกก็จะรับรู้ได้ว่าตัวเองมีความสำคัญกับพ่อแม่แค่ไหน อย่างไรก็ดี คุณพ่อคุณแม่ก็เป็นผู้มีอิทธิพลต่อจิตใจของลูกเสมอ และถ้าอยากให้เขาเติบโตมาเป็นเด็กที่มีหัวใจแข็งแกร่ง ไม่เป็นเด็กที่รู้สึกขาดอะไร คุณพ่อคุณแม่ก็ควรวางรากฐานทางจิตใจให้เขาอย่างแน่นหนาตั้งแต่เล็ก ๆ เติมความรัก ความห่วงใย และคอยสอดส่องความเป็นไปของลูกในทุก ๆ ก้าวของการเติบโต