Stage 1: Problem Identification and

Stage 1: Problem Identification and Hypotheses Setting (January – April 2002)
The Steering Committee held several meetings from February to April 2002 to
consider fundamental problems of inadequate financial services for certain segments of
the public. According to the 2001 World Competitiveness Report, Thailand ranked 44th
from 49 countries in terms of credit flows from banks to businesses. This implied that
Thailand had ample room left to enhance its financial competitiveness and improve the
financial sector’s intermediation capability and efficiency.
Moreover, internal studies showed that there were members of the public,
particularly those in the rural area and low-income in both urban and rural area, which
lacked access to basic mainstream banking services. It is believed that success in
closing or lessening these gaps will help expand the financial sector’s customer base,
domestic savings, and lay the groundwork for stable long-term macroeconomic growth.
Financial reliance on commercial bank loans was another key topic addressed
by the Steering Committee. Looking at composition of the private sector’s external
financing between1988-1998, commercial banks in Thailand accounted for over 76
percent of all external funding compared to 21 in the US.1
Although local corporations
have begun to turn towards the capital market as an alternative source of funding,

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระยะที่ 1: การระบุปัญหาและสมมุติฐานการ (มกราคม – 2002 เมษายน)กรรมการอำนวยจัดประชุมหลายจากเดือนกุมภาพันธ์ถึง 2002 เมษายนเพื่อพิจารณาปัญหาพื้นฐานของบริการทางการเงินไม่เพียงพอสำหรับบางเซ็กเมนต์ของสาธารณะ รายงานแข่งขัน 2001 โลก ไทยอันดับ 44thจากประเทศ 49 ในด้านสินเชื่อทุนหมุนเวียนจากธนาคารธุรกิจ นี้โดยนัยที่ประเทศไทยมีห้องพักกว้างขวางไปทางซ้ายเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางการเงิน และปรับปรุงการภาคการเงิน intermediation ความสามารถและประสิทธิภาพนอกจากนี้ การศึกษาภายในพบว่า มีสาธารณชนอย่างยิ่ง ในพื้นที่ชนบท และแนซ์ในพื้นที่เขตเมือง และชนบท การขาดการเข้าถึงบริการธนาคารหลักพื้นฐาน เชื่อว่าความสำเร็จในปิด หรือ lessening ช่องเหล่านี้จะช่วยขยายฐาน ภาคการเงินของลูกค้าประหยัดภายในประเทศ และวางส่วนสำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาคเติบโตพึ่งเงินกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์มีหัวข้อสำคัญอื่นที่อยู่โดยคณะกรรมการอำนวยการ มองที่ส่วนประกอบของภาคเอกชนของภายนอกเงิน between1988-1998 ธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยคิดเป็นกว่า 76เปอร์เซ็นต์ของทุนทั้งหมดภายนอกเทียบกับ 21 ใน US.1 แม้ว่าองค์กรท้องถิ่นได้เริ่มหันมาตลาดทุนเป็นแหล่งที่มาอื่นของทุน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ขั้นที่ 1: การระบุปัญหาและการตั้งสมมติฐาน (มกราคม-เมษายน 2002)
คณะกรรมการจัดประชุมหลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน 2002 เพื่อพิจารณาปัญหาพื้นฐานของการให้บริการทางการเงินไม่เพียงพอสำหรับบางส่วนของประชาชน 2001 ตามรายงานการแข่งขันโลก, ไทยอันดับที่ 44 จาก 49 ประเทศในแง่ของการไหลสินเชื่อจากธนาคารเพื่อธุรกิจ นี้ส่อให้เห็นว่าประเทศไทยมีห้องเพียงพอที่เหลือเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางการเงินของ บริษัท และปรับปรุงความสามารถในการเป็นสื่อกลางภาคการเงินและมีประสิทธิภาพ. นอกจากนี้ยังมีการศึกษาภายในพบว่ามีสมาชิกของประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อยู่ในพื้นที่ชนบทและมีรายได้ต่ำในเมืองทั้งสองพื้นที่ชนบทที่ขาดการเข้าถึงบริการธนาคารหลักพื้นฐาน เป็นที่เชื่อกันประสบความสำเร็จในการที่ปิดหรือลดลงช่องว่างเหล่านี้จะช่วยขยายฐานลูกค้าภาคการเงินของการออมในประเทศและวางรากฐานสำหรับการมีเสถียรภาพในระยะยาวการเติบโตของเศรษฐกิจมหภาค. ความเชื่อมั่นทางการเงินของเงินให้สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์เป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่สำคัญการแก้ไขโดยคณะกรรมการ. มองไปที่องค์ประกอบของภายนอกของภาคเอกชนการจัดหาเงินทุน between1988-1998 ธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยคิดเป็นกว่า 76 เปอร์เซ็นต์ของเงินทุนจากภายนอกทั้งหมดเมื่อเทียบกับ 21 ใน US.1 แม้ว่า บริษัท ท้องถิ่นได้เริ่มที่จะหันไปทางตลาดทุนเป็นแหล่งทางเลือกของการการระดมทุน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ขั้นที่ 1 : การกำหนดปัญหาและสมมติฐาน ( มกราคม–เมษายน 2002 )
คณะกรรมการจัดขึ้นหลายการประชุมระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ - เมษายน 2545
พิจารณาปัญหาพื้นฐานของบริการทางการเงินเพียงพอสำหรับกลุ่มหนึ่งของ
สาธารณะ ตาม 2001 โลกรายงานการแข่งขัน ประเทศไทยอยู่อันดับ 44
จาก 49 ประเทศในแง่ของเครดิตไหลจากธนาคารเพื่อธุรกิจโดย
ประเทศไทยมีห้องเล่นซ้ายเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของบริษัท และปรับปรุงความสามารถในตัวกลาง
ภาคการเงินและประสิทธิภาพ .
นอกจากนี้ ภายในการศึกษา พบว่า มีสมาชิกของสาธารณะ
โดยเฉพาะในชนบท และผู้มีรายได้น้อย ทั้งในเขตเมืองและชนบท ซึ่งขาดการเข้าถึงบริการธนาคารกระแสหลัก
พื้นฐานเชื่อกันว่า ความสำเร็จในการปิดหรือลดช่องว่าง
เหล่านี้จะช่วยขยายฐานลูกค้า
ภาคการเงิน , การออมในประเทศ และวางรากฐานสำหรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่มั่นคงระยะยาว .
พึ่งทางการเงินเกี่ยวกับสินเชื่อธนาคารพาณิชย์เป็นอีกหัวข้อสำคัญ addressed
โดยคณะกรรมการ . ดูที่องค์ประกอบของการจัดหาเงินทุนจากภายนอก between1988-1998
ภาคเอกชนของธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย คิดเป็นกว่าร้อยละ 76
ภายนอกทั้งหมดทุนเมื่อเทียบกับ 21 ในสหรัฐอเมริกา แม้ว่า 1

บริษัทท้องถิ่นเริ่มเปลี่ยนไปสู่ตลาดทุนเป็นแหล่งทางเลือกของเดิม