4. วิธีลดลงทุกปี (Reducing-charge m

4. วิธีลดลงทุกปี (Reducing-charge method)
การคิดค่าเสื่อมราคาตามวิธีนี้ในปีแรกๆ มีจำนวนมาก และปีต่อมามีจำวนลดลงเพราะว่าสินทรัพย์ที่ซื้อมาปีแรกจะใช้งานน้อยมาก และปีหลังๆประสิทธิภาพของสินทรัพย์ลดลง เช่น รถยนต์ หรือสินทรัพย์มีความล้าสมัยเร็ว เช่นเครื่องคอมพิวเตอร์
วิธีการคำนวณ
ก.Declining balance methodวิธีนี้ต้องคำนวณหาอัตราร้อยละคงที่ ที่จะนำไปคูณกับยอดคงเหลือตามบัญชีของสินทรัพย์ ซึ่งมีสูตรดังนี้
R =(100-√(1^n&s/c))

ค่าเสื่อมราคาต่อปี = อัตราค่าเสื่อมราคา×ราคาตามบัญชี
r = อัตราร้อยละ
c = ราคาทุนของสินทรัพย์
s = ราคาซาก
n = จำนวนปีที่ใช้งาน
ตัวอย่างที่ 4จากโจทย์ตัวอย่างที่ 1 สามารถคำนวณค่าเสื่อมราคาได้ดังนี้
= 100(〖1-〗^n √(20,000/120,000))
= 100(1-0.69883)
= 30.117%
สิ้นปีที่ การคำนวณ ค่าเสื่อมราคา ค่าเสื่อมราคาสะสม ราคาตามบัญชี
0 120,000
1 30.117%×120,000.00 36,140.40 36,140.60 83,859.60
2 30.117%×83,859.60 25,256.00 61,396.40 58,603.60
3 30.117%×58,603.60 17,649.65 79,046.05 40,953.95
4 30.117%×40,953.95 12,334.10 91,380.15 28,619.85
5 30.117%×28.619.85 8,619.44 99,999.59 20,000.41


ค่าเสื่อมราคาและค่าเสื่อมราคาสะสม มีดังนี้




ข. Double-declining balance methodวิธีนี้ต้องคำนวณหาอัตราค่าเสื่อมราคาตามวิธีนี้เส้นตรง แล้วคูณด้วยสอง ซึ่งวิธีนี้เรียกว่า “วิธีสองเท่าของเส้นตรง หรือยอดลดลงทวีคูณ” สูตรในการคำนวณมีดังนี้
1. อัตราค่าเสื่อมราคาต่อชั่วโมง = 100×2
อายุการใช้งาน
2. ค่าเสื่อมราคาต่อปี = อัตราค่าเสื่อมราคา×ราคาตามบัญชี
ตัวอย่างที่ 5 เมื่อวันที่ 1 มกราคม 25x1 กิจการซื้อรถยนต์ราคา 650,000 บาท ประมาณอายุการใช้งาน 5 ปี กิจการได้ประมาณราคาซากไว้จำนวน 50,000 บาท
อัตราค่าเสื่อมราคา = □(100/5) = 20%×2% = 40%
คำนวณค่าเสื่อมราคาและค่าเสื่อมราคาสะสม มีดังนี้
ปีที่ 1 ค่าเสื่อมราคา = 650,000 x 40% = 260,000
ปีที่ 2 ค่าเสื่อมราคา = 390,000 x 40% = 156,000
ปีที่ 3 ค่าเสื่อมราคา = 234,000 x 40% = 93,600
ปีที่ 4 ค่าเสื่อมราคา = 140,400 x 40% = 56,160
ปีที่ 5 ค่าเสื่อมราคา = 84,240 – 50,000 = 34,240
สิ้นปีที่ ค่าเสื่อมราคา ค่าเสื่อมราคาสะสม ราคาตามบัญชี
0 650,000
1 260,000 260,000 390,000
2 156,000 416,000 234,000
3 93,600 509,000 140,400
4 56,160 565,760 82,240
5 34,240 600,000 50,000

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

4. วิธีลดลงทุกปี (วิธีการค่าธรรมเนียมลดลง) การคิดค่าเสื่อมราคาตามวิธีนี้ในปีแรก ๆ มีจำนวนมากและปีต่อมามีจำวนลดลงเพราะว่าสินทรัพย์ที่ซื้อมาปีแรกจะใช้งานน้อยมากและปีหลังๆประสิทธิภาพของสินทรัพย์ลดลงเช่นรถยนต์หรือสินทรัพย์มีความล้าสมัยเร็วเช่นเครื่องคอมพิวเตอร์วิธีการคำนวณก.Declining ดุล methodวิธีนี้ต้องคำนวณหาอัตราร้อยละคงที่ ที่จะนำไปคูณกับยอดคงเหลือตามบัญชีของสินทรัพย์ซึ่งมีสูตรดังนี้R = (100-√(1^n&s/c)) ค่าเสื่อมราคาต่อปี =อัตราค่าเสื่อมราคา×ราคาตามบัญชี r =อัตราร้อยละ c =ราคาทุนของสินทรัพย์ s =ราคาซาก n =จำนวนปีที่ใช้งานตัวอย่างที่ 4จากโจทย์ตัวอย่างที่ 1 สามารถคำนวณค่าเสื่อมราคาได้ดังนี้ = 100 (〖1 〗 ^ n √(20,000/120,000)) = 100(1-0.69883) = 30.117%สิ้นปีที่การคำนวณค่าเสื่อมราคาค่าเสื่อมราคาสะสมราคาตามบัญชี0 120000 รายทั้งนี้1 30.117% × 120, 000.00 36,140.40 36,140.60 83,859.602 30.117% × 83, 859.60 25,256.00 61,396.40 58,603.603 30.117% × 58, 603.60 17,649.65 79,046.05 40,953.954 30.117% × 40, 953.95 12,334.10 91,380.15 28,619.855 30.117% × 28. 619.85 8,619.44 99,999.59 20,000.41ค่าเสื่อมราคาและค่าเสื่อมราคาสะสมมีดังนี้ สูตรในการคำนวณมีดังนี้ methodวิธีนี้ต้องคำนวณหาอัตราค่าเสื่อมราคาตามวิธีนี้เส้นตรง แล้วคูณด้วยสองซึ่งวิธีนี้เรียกว่า "วิธีสองเท่าของเส้นตรงหรือยอดลดลงทวีคูณ" ขการคำนวณยอดดุล1. อัตราค่าเสื่อมราคาต่อชั่วโมง = 100 × 2 อายุการใช้งาน2. ค่าเสื่อมราคาต่อปี = อัตราค่าเสื่อมราคา×ราคาตามบัญชีตัวอย่างที่ 5 เมื่อวันที่ 1 มกราคม 25x1 กิจการซื้อรถยนต์ราคา 650,000 บาท ประมาณอายุการใช้งาน 5 ปี กิจการได้ประมาณราคาซากไว้จำนวน 50,000 บาทอัตราค่าเสื่อมราคา = □(100/5) = 20%×2% = 40%คำนวณค่าเสื่อมราคาและค่าเสื่อมราคาสะสม มีดังนี้ปีที่ 1 ค่าเสื่อมราคา = 650,000 x 40% = 260,000ปีที่ 2 ค่าเสื่อมราคา = 390,000 x 40% = 156,000ปีที่ 3 ค่าเสื่อมราคา = 234,000 x 40% = 93,600ปีที่ 4 ค่าเสื่อมราคา = 140,400 x 40% = 56,160ปีที่ 5 ค่าเสื่อมราคา = 84,240 – 50,000 = 34,240สิ้นปีที่ ค่าเสื่อมราคา ค่าเสื่อมราคาสะสม ราคาตามบัญชี0 650,0001 260,000 260,000 390,0002 156,000 416,000 234,0003 93,600 509,000 140,4004 56,160 565,760 82,2405 34,240 600,000 50,000

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

4 . วิธีลดลงทุกปี ( ลดวิธีประจุ )
การคิดค่าเสื่อมราคาตามวิธีนี้ในปีแรกๆมีจำนวนมากและปีต่อมามีจำวนลดลงเพราะว่าสินทรัพย์ที่ซื้อมาปีแรกจะใช้งานน้อยมากและปีหลังๆประสิทธิภาพของสินทรัพย์ลดลงเช่นรถยนต์หรือสินทรัพย์มีความล้าสมัยเร็ววิธีการคำนวณ
. . วิธียอดลดลงวิธีนี้ต้องคำนวณหาอัตราร้อยละคงที่ที่จะนำไปคูณกับยอดคงเหลือตามบัญชีของสินทรัพย์ซึ่งมีสูตรดังนี้
r = ( 100 - √ ( 1
n & S / c )

ค่าเสื่อมราคาต่อปี =

= อัตราร้อยละอัตราค่าเสื่อมราคา×ราคาตามบัญชีC = ราคาทุนของสินทรัพย์
S = ราคาซาก
n = จำนวนปีที่ใช้งาน
ตัวอย่างที่ 4 จากโจทย์ตัวอย่างที่ 1 สามารถคำนวณค่าเสื่อมราคาได้ดังนี้
= 100 ( 〖 1 - 〗
n √ ( 20 , 000 / 120 , 000 )
= 100 ( 1-0.69883 )
%
= 30.117สิ้นปีที่การคำนวณค่าเสื่อมราคาค่าเสื่อมราคาสะสมราคาตามบัญชี
0
1 , 000 30.117 % × 120 , 000.00 36140.40 36140.60 83859.60
2 30.117 % × 83859.60 25256.00 61396.40 58603.60
3 30.117 % × 58603.60 17649.65 79046.05 40953.95
4 30.117 % × 40953.95 12334.10 91380.15 28619.85
5 30.117 % × 28.619.85 8619.44 99999.59 20000.41


ค่าเสื่อมราคาและค่าเสื่อมราคาสะสมมีดังนี้




ข .4.3 วิธียอดลดลงทวีคูณวิธีนี้ต้องคำนวณหาอัตราค่าเสื่อมราคาตามวิธีนี้เส้นตรงแล้วคูณด้วยสองซึ่งวิธีนี้เรียกว่า " วิธีสองเท่าของเส้นตรงหรือยอดลดลงทวีคูณ " สูตรในการคำนวณมีดังนี้
1อัตราค่าเสื่อมราคาต่อชั่วโมง = 100 × 2
อายุการใช้งาน
2 ค่าเสื่อมราคาต่อปี = อัตราค่าเสื่อมราคา×ราคาตามบัญชี
ตัวอย่างที่ 5 เมื่อวันที่ 1 มกราคม 25x1 กิจการซื้อรถยนต์ราคา 650 ,000 บาทประมาณอายุการใช้งาน 5 . กิจการได้ประมาณราคาซากไว้จำนวน 50000 บาท
อัตราค่าเสื่อมราคา = □ ( 100 / 5 ) = 20% × 2 = 40 %
%
คำนวณค่าเสื่อมราคาและค่าเสื่อมราคาสะสมมีดังนี้ปีที่ 1 ค่าเสื่อมราคา = 650 , 000 x 40 = 260 , 000
ปีที่ 2 ค่าเสื่อมราคา = 390 x 40 =
ปีที่กู้ 3 ค่าเสื่อมราคา = 234 , 000 x 40 = 93600
ปีที่ 4 ค่าเสื่อมราคา = 140400 x 40 = 56160
ปีที่ 5 ค่าเสื่อมราคา = 84240 – 50 , 000 = 34240
สิ้นปีที่ค่าเสื่อมราคาค่าเสื่อมราคาสะสมราคาตามบัญชี
0
1 , 260 , 000 260 ,