You may want to print this informat

You may want to print this information to use as reference later. To delete these instructions, click the border of this text box and then press the DELETE key.

You should change "category 1, category 2", etc. labels to the actual names of your sales categories. Enter sales for each category for each month. The spreadsheet will add up total annual sales. In the "%" columns, the spreadsheet will show the % of total sales contributed by each category.

COST OF GOODS SOLD (also called Cost of Sales or COGS): COGS are those expenses directly related to producing or buying your products or services. For example, purchases of inventory or raw materials, as well as the wages (and payroll taxes) of employees directly involved in producing your products/services, are included in COGS. These expenses usually go up and down along with the volume of production or sales. Study your records to determine COGS for each sales category. Control of COGS is the key to profitability for most businesses, so approach this part of your forecast with great care. For each category of product/service, analyze the elements of COGS: how much for labor, for materials, for packing, for shipping, for sales commissions, etc.? Compare the Cost of Goods Sold and Gross Profit of your various sales categories. Which are most profitable, and which are least - and why? Underestimating COGS can lead to under pricing, which can destroy your ability to earn a profit. Research carefully and be realistic. Enter the COGS for each category of sales for each month. In the "%" columns, the spreadsheet will show the COGS as a % of sales dollars for that category.

GROSS PROFIT: Gross Profit is Total Sales minus Total COGS. In the "%" columns, the spreadsheet will show Gross Profit as a % of Total Sales.

OPERATING EXPENSES (also called Overhead): These are necessary expenses which, however, are not directly related to making or buying your products/services. Rent, utilities, telephone, interest, and the salaries (and payroll taxes) of office and management employees are examples. Change the names of the Expense categories to suit your type of business and your accounting system. You may need to combine some categories, however, to stay within the 20 line limit of the spreadsheet. Most operating expenses remain reasonably fixed regardless of changes in sales volume. Some, like sales commissions, may vary with sales. Some, like utilities, may vary with the time of year. Your projections should reflect these fluctuations. The only rule is that the projections should simulate your financial reality as nearly as possible. In the "%" columns, the spreadsheet will show Operating Expenses as a % of Total Sales.

NET PROFIT: The spreadsheet will subtract Total Operating Expenses from Gross Profit to calculate Net Profit. In the "%" columns, it will show Net Profit as a % of Total Sales.

INDUSTRY AVERAGES: The first column, labeled "IND. %" is for posting average cost factors for firms of your size in your industry. Industry average data is commonly available from industry associations, major manufacturers who are suppliers to your industry, and local colleges, Chambers of Commerce, and public libraries. One common source is the book Statement Studies published annually by Robert Morris Associates. It can be found in major libraries, and your banker almost surely has a copy. It is unlikely that your expenses will be exactly in line with industry averages, but they can be helpful in areas in which expenses may be out of line.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คุณอาจจะต้องการพิมพ์ข้อมูลนี้เพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในภายหลัง เพื่อลบคำแนะนำเหล่านี้ให้คลิกเส้นขอบของกล่องข้อความนี้และจากนั้นให้กดปุ่มลบ.

หมวดหมู่ของคุณควรเปลี่ยน "หมวด 1 หมวด 2" ป้าย ฯลฯ เพื่อชื่อที่แท้จริงของการขายของคุณ ป้อนการขายสำหรับแต่ละประเภทในแต่ละเดือน สเปรดชีตจะเพิ่มยอดขายรวมประจำปี ในคอลัมน์ "%"สเปรดชีตจะแสดง% ของยอดขายรวมส่วนโดยในแต่ละหมวดหมู่

ค่าใช้จ่ายของสินค้าที่ขาย (เรียกว่าค่าใช้จ่ายในการขายหรือฟันเฟือง): ฟันเฟืองเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการผลิตหรือการซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ ตัวอย่างเช่นการซื้อสินค้าของสินค้าคงคลังหรือวัตถุดิบเช่นเดียวกับค่าจ้าง (และภาษีเงินเดือน) ของพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในการผลิตสินค้า / บริการของคุณจะรวมอยู่ในฟันเฟือง ค่าใช้จ่ายเหล่านี้มักจะไปขึ้นและลงพร้อมกับปริมาณของการผลิตหรือการขาย ศึกษาบันทึกของคุณเพื่อตรวจสอบฟันเฟืองสำหรับแต่ละประเภทการขาย การควบคุมของฟันเฟืองเป็นกุญแจสำคัญในการทำกำไรสำหรับธุรกิจส่วนใหญ่ดังนั้นวิธีการที่เป็นส่วนหนึ่งของการคาดการณ์ของคุณด้วยการดูแลที่ดี สำหรับประเภทของผลิตภัณฑ์ / บริการแต่ละวิเคราะห์องค์ประกอบของฟันเฟือง: เท่าใดสำหรับแรงงาน, วัสดุ,สำหรับการบรรจุสำหรับการขนส่งสินค้าสำหรับค่าคอมมิชชั่นการขาย ฯลฯ ? เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายของสินค้าที่ขายและอัตรากำไรขั้นต้นของประเภทต่างๆของการขาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำกำไรมากที่สุดและที่น้อยที่สุด - และทำไม? ฟันเฟืองประเมินสามารถนำไปสู่​​การกำหนดราคาภายใต้ซึ่งสามารถทำลายความสามารถในการได้รับผลกำไร การวิจัยอย่างรอบคอบและเป็นจริง ป้อนฟันเฟืองสำหรับประเภทของยอดขายในแต่ละเดือนของแต่ละเดือนในคอลัมน์ "%", สเปรดชีตจะแสดงฟันเฟืองเป็น% ของยอดขายดอลลาร์สำหรับประเภทที่

กำไรขั้นต้น. กำไรขั้นต้นเป็นยอดขายรวมทั้งหมดลบด้วยฟันเฟือง ในคอลัมน์ "%", สเปรดชีตจะแสดงกำไรขั้นต้นเป็น% ของยอดขายรวม

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (เรียกว่าค่าใช้จ่าย): เหล่านี้เป็นค่าใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นที่อย่างไรไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการทำหรือซื้อสินค้า / บริการของคุณ ให้เช่าสาธารณูปโภค, โทรศัพท์, ดอกเบี้ย, และเงินเดือน (และภาษีเงินเดือน) ของพนักงานสำนักงานและการจัดการเป็นตัวอย่าง เปลี่ยนชื่อของประเภทค่าใช้จ่ายให้เหมาะสมกับประเภทของธุรกิจของคุณและระบบบัญชีของคุณ คุณอาจต้องรวมบางประเภท แต่ที่จะอยู่ภายในวงเงิน 20 บรรทัดของกระดาษคำนวณค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานส่วนใหญ่ยังคงอยู่คงที่โดยไม่คำนึงถึงเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงปริมาณการขาย อย่างเช่นค่าคอมมิชชั่นการขายอาจจะแตกต่างกันไปโดยมียอดขาย อย่างเช่นค่าน้ำค่าไฟอาจจะแตกต่างกับช่วงเวลาของปี การคาดการณ์ของคุณควรสะท้อนให้เห็นถึงความผันผวนเหล่านี้ กฎเพียงอย่างเดียวคือการคาดการณ์ความเป็นจริงควรจำลองทางการเงินของคุณในขณะที่เกือบเป็นไปไม่ได้ ในคอลัมน์ "%"สเปรดชีตจะแสดงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเป็น% ของยอดขายรวม

กำไรสุทธิ:. สเปรดชีตจะหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานรวมจากอัตรากำไรขั้นต้นในการคำนวณกำไรสุทธิ ในคอลัมน์ "%" ก็จะแสดงกำไรสุทธิ% ของยอดขายรวม

ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม. คอลัมน์แรกระบุว่า "% IND." สำหรับการโพสต์ปัจจัยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยสำหรับ บริษัท ขนาดของคุณในอุตสาหกรรมของคุณข้อมูลค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมเป็นปกติท​​ี่มีอยู่จากสมาคมอุตสาหกรรมผู้ผลิตรายใหญ่ที่เป็นซัพพลายเออร์ให้กับอุตสาหกรรมของคุณและวิทยาลัยท้องถิ่นหอการค้าและห้องสมุดประชาชน แหล่งหนึ่งที่เหมือนกันคือการศึกษาคำสั่งหนังสือที่ตีพิมพ์เป็นประจำทุกปีโดยโรเบิร์ตมอร์ริสร่วม มันสามารถพบได้ในห้องสมุดที่สำคัญและนายธนาคารของคุณเกือบจะแน่นอนมีสำเนาก็ไม่น่าที่ค่าใช้จ่ายของคุณจะตรงในทิศทางเดียวกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม แต่พวกเขาจะมีประโยชน์ในพื้นที่ซึ่งค่าใช้จ่ายอาจจะออกจากสาย.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คุณอาจต้องการพิมพ์ข้อมูลเพื่อใช้อ้างอิงในภายหลัง การลบคำสั่งเหล่านี้ คลิกที่เส้นขอบของกล่องข้อความนี้ และจากนั้น กดแป้น DELETE

คุณควรเปลี่ยน "ประเภท 1 ประเภท 2 " ฯลฯ ป้ายชื่อจริงของประเภทการขายของคุณ การขายสำหรับแต่ละประเภทในแต่ละเดือน กระดาษคำนวณจะเพิ่มขึ้นยอดขายประจำปี ในคอลัมน์ "%" กระดาษคำนวณจะแสดง%ของยอดขายโดยแต่ละประเภท

ต้นทุนของสินค้าที่ขาย (อาจเรียกว่าต้นทุนขาย COGS): COGS จะค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการผลิต หรือซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ ตัวอย่าง ซื้อของสินค้าคงคลัง หรือวัตถุ ดิบ ตลอดจนค่าจ้าง (และภาษีค่าจ้าง) ของพนักงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงในการผลิตของผลิตภัณฑ์ ตั้งอยู่ใน COGS ค่าใช้จ่ายเหล่านี้มักจะไปขึ้นและลงพร้อมกับปริมาณการผลิตหรือการขาย ศึกษาของระเบียนเพื่อกำหนด COGS สำหรับแต่ละประเภทการขาย ควบคุมของ COGS คือ คีย์เพื่อผลกำไรสำหรับธุรกิจมากที่สุด ดังนั้น วิธีการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการคาดการณ์ของคุณด้วยการดูแลที่ดี สำหรับแต่ละประเภทของผลิตภัณฑ์/บริการ วิเคราะห์องค์ประกอบของ COGS: เท่าใดสำหรับแรงงาน วัสดุ สำหรับบรรจุภัณฑ์ การจัดส่ง การขายค่าคอมมิชชั่น ฯลฯ หรือไม่ เปรียบเทียบต้นทุนของสินค้าที่ขายและกำไรขั้นต้นของประเภทขายของต่าง ๆ ซึ่งเป็นกำไรมากที่สุด และที่น้อยที่สุด - และทำไม เรา COGS อาจทำให้ภายใต้ราคา ซึ่งสามารถทำลายความสามารถในการหากำไร วิจัยอย่างรอบคอบ และเป็นจริง ป้อน COGS สำหรับแต่ละประเภทของการขายสำหรับแต่ละเดือน ในคอลัมน์ "%" กระดาษคำนวณจะแสดง COGS %ขายดอลลาร์สำหรับหมวดหมู่ที่

รวมกำไร: กำไรขั้นต้นจะรวมขายลบ COGS รวม ในคอลัมน์ "%" กระดาษคำนวณจะแสดงกำไรขั้นต้นเป็น%ของยอดขาย

(ยังเรียกว่าโสหุ้ยการผลิต) ค่าดำเนินการ: เหล่านี้จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายซึ่ง อย่างไรก็ตาม ไม่โดยตรงเกี่ยวกับการทำ หรือซื้อผลิตภัณฑ์/บริการของคุณ ให้เช่า สาธารณูปโภค โทรศัพท์ ดอกเบี้ย และเงินเดือน (และภาษีค่าจ้าง) ของพนักงานสำนักงานและการจัดการเป็นตัวอย่าง เปลี่ยนชื่อของประเภทค่าใช้จ่ายให้เหมาะสมกับประเภทธุรกิจและระบบบัญชี คุณอาจต้อง การรวมบางประเภท อย่างไรก็ตาม การภายในวงเงิน 20 บรรทัดของกระดาษคำนวณ ค่าใช้จ่ายดำเนินงานมากที่สุดยังคงสมเหตุสมผลคงไม่เปลี่ยนแปลงในปริมาณการขาย บางอย่าง เช่นค่าคอมมิชชั่นการขาย อาจแตกต่างกันกับการขาย บางอย่าง เช่นสาธารณูปโภค อาจแตกต่างกันกับเวลาของปี ประมาณของคุณควรสะท้อนถึงความผันผวนเหล่านี้ กฎเดียวคือ ว่า ประมาณที่ควรจำลองความเป็นจริงทางการเงินของคุณเกือบที่สุด ในคอลัมน์ "%" กระดาษคำนวณจะแสดงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเป็น%ของทั้งหมดขาย

กำไรสุทธิ: กระดาษคำนวณจะลบค่าทั้งหมดที่ปฏิบัติจากกำไรขั้นต้นในการคำนวณกำไรสุทธิ ในคอลัมน์ "%" มันจะแสดงกำไรสุทธิ%ของทั้งหมดขาย

ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม: คอลัมน์แรก ป้าย "ind.%" มีการลงรายการบัญชีค่าเฉลี่ยปัจจัยต้นทุนสำหรับบริษัทของคุณขนาดในอุตสาหกรรมของคุณ ข้อมูลเฉลี่ยของอุตสาหกรรมได้โดยทั่วไปจากสมาคมอุตสาหกรรม ผู้ผลิตสำคัญที่ซัพพลายเออร์ของ อุตสาหกรรม วิทยาลัยท้องถิ่น หอการค้า และห้องสมุดสาธารณะ แหล่งทั่วไปหนึ่งคือ ศึกษา คำสั่งหนังสือที่เผยแพร่เป็นประจำทุกปี โดยกำหนดความสัมพันธ์ของโรเบิร์ตมอร์ริส มันสามารถพบได้ในไลบรารีที่สำคัญ และคุณนายก็เกือบมีสำเนา ก็ไม่น่าว่า ค่าใช้จ่ายของคุณจะตรงกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม แต่พวกเขาจะเป็นประโยชน์ในพื้นที่ที่อาจมีค่าใช้จ่ายจากบรรทัด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คุณอาจต้องการพิมพ์ข้อมูลนี้เพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงใน ภายหลัง ในการลบคำแนะนำเหล่านี้ให้คลิกที่กล่องข้อความนี้และจากนั้นกดปุ่มลบ.

คุณควรเปลี่ยน" ประเภท 1 ประเภท 2 "ฯลฯป้ายชื่อจริงของ ประเภท การขายของคุณ เข้าสู่การขายสำหรับแต่ละ ประเภท สำหรับแต่ละเดือน สเปรดชีทที่จะเพิ่มยอดขายต่อปีรวม ใน"%"คอลัมน์,สเปรดชีทที่จะแสดงให้เห็นว่า%ของยอดขายรวมทำให้โดยแต่ละ ประเภท

ต้นทุนของสินค้าที่จำหน่าย(หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าค่าใช้จ่ายของฟันเฟืองหรือการขาย)ฟันเฟืองมีค่าใช้จ่ายผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการผลิตหรือการซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ ตัวอย่างเช่นการซื้อสินค้าคงคลังหรือวัตถุดิบและแรงงาน(และ ภาษี เงินเดือนของพนักงานเกี่ยวข้องโดยตรงในการผลิต ผลิตภัณฑ์ /บริการของคุณรวมอยู่ในเฟือง ค่าใช้จ่ายเหล่านี้โดยปกติจะขึ้นไปและลงไปตามด้วยระดับเสียงที่ได้จากการขายหรือการผลิต การศึกษาข้อมูลของคุณเพื่อตรวจสอบฟันเฟืองในการขายแต่ละ ประเภท การควบคุมของฟันเฟืองสำคัญที่ไปใช้ในการทำกำไรสำหรับธุรกิจมากที่สุดดังนั้นจึงเป็นส่วนหนึ่งของการประมาณการของคุณพร้อมด้วยความใส่ใจเป็นอย่างมาก สำหรับแต่ละ ประเภท ของการให้บริการ ผลิตภัณฑ์ /วิเคราะห์ส่วนประกอบของฟันเฟืองเท่าไหร่สำหรับแรงงานสำหรับเอกสารสำหรับการบรรจุสำหรับการส่งสินค้าสำหรับสำนักงานคณะกรรมการการขายเป็นต้นหรือไม่? เปรียบเทียบต้นทุนของสินค้าที่จำหน่ายและอัตรากำไรของ ประเภท การขายต่างๆของคุณ ซึ่งจะทำกำไรมากที่สุดและซึ่งเป็นอย่างน้อย - และทำไม ลูกค้ามองข้ามปัญหาเรื่องแบนด์วิดธ์ซึ่งฟันเฟืองจะสามารถนำไปสู่การตั้งราคาตามที่สามารถทำลายความสามารถของคุณในการได้รับกำไร การวิจัยอย่างละเอียดและต้องรับความจริง ใส่ฟันเฟืองที่สำหรับแต่ละ ประเภท ของการขายสำหรับแต่ละเดือนใน"%"คอลัมน์,สเปรดชีทที่จะแสดงให้ฟันเฟืองเป็น%ของยอดขายดอลลาร์สรอ.สำหรับที่พัก ประเภท .

อัตรากำไร:อัตรากำไรมียอดขายรวมลบรวมฟันเฟือง. ใน"% s "คอลัมน์,สเปรดชีทจะแสดงอัตรากำไรเป็น%ของยอดขายรวม.

ค่าใช้จ่าย(นอกจากนั้นยังเรียกว่าเหนือศีรษะ)นี้มีค่าใช้จ่ายตามความจำเป็นซึ่งอย่างไรก็ตามไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการทำหรือการซื้อ ผลิตภัณฑ์ /บริการของคุณ ยูทิลิตีเช่าโทรศัพท์ดอกเบี้ยและอัตราเงินเดือนและ ภาษี เงินเดือนของพนักงานและผู้บริหารและ Office เป็นตัวอย่าง. การเปลี่ยนชื่อของ ประเภท ค่าใช้จ่ายที่เหมาะกับ ประเภท ของธุรกิจและระบบการทำบัญชีของคุณ คุณอาจจำเป็นต้องรวมบางหมวดอย่างไรก็ตามในการเข้าพักอยู่ ภายใน ค่าจำกัด 20 สายของสเปรดชีทค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานคงที่เหมาะสมที่สุดโดยไม่คำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงในปริมาณการขาย บางอย่างเช่นคณะกรรมาธิการการขายอาจแตกต่างกันไปพร้อมด้วยการขาย บางอย่างเช่นยูทิลิตีอาจแตกต่างกันไปโดยช่วงเวลาของปี การคาดการณ์ของคุณควรสะท้อนถึงความผันผวนของเหล่านี้ กฎข้อที่อยู่ที่ว่าการที่จะทำการจำลองความเป็นจริงทางการเงินของคุณที่ใกล้ที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ใน"%"คอลัมน์,สเปรดชีทที่จะแสดงให้เห็นว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเป็น%ของยอดขายรวม.กำไรสุทธิ

สเปรดชีทที่จะลบค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานทั้งหมดจากอัตรากำไรในการคำนวณกำไรสุทธิ ใน"%"คอลัมน์จะแสดงกำไรสุทธิเป็น%ของยอดขายรวม.

อุตสาหกรรมเฉลี่ย:ที่คอลัมน์แรก,"อินเดีย. %"สำหรับประกาศด้านต้นทุนโดยเฉลี่ยสำหรับบริษัทของขนาดของคุณในธุรกิจของคุณข้อมูลเฉลี่ยคืออุตสาหกรรมโดยทั่วไปจากสมาคมอุตสาหกรรมผู้ผลิตรายใหญ่ที่เป็นซัพพลายเออร์สำหรับอุตสาหกรรมของคุณและวิทยาลัยท้องถิ่นห้องของกระทรวงพาณิชย์และห้องสมุดสาธารณะ แหล่งหนึ่งโดยได้มีหนังสือประกาศเผยแพร่การศึกษาทุกปีโดย Robert เทศบาลเมืองแอตแลนตาจะเชื่อมโยง และยังสามารถพบได้ในไลบรารีที่สำคัญและ Banker ของคุณเกือบจะแน่นอนว่ามีสำเนามีแนวโน้มว่าค่าใช้จ่ายของคุณจะได้รับอย่างแท้จริงในสายที่พร้อมด้วยค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมแต่สามารถเป็นประโยชน์ในบริเวณที่ค่าใช้จ่ายอาจจะออกของสาย.