SUGGESTED ACTION OF COFFEE ON CANCE

SUGGESTED ACTION OF COFFEE ON CANCER RISK
Despite a great number of studies on the relationship between coffee consumption and health, the protective
mechanism of coffee against cancer remains elusive. Coffee can potentially impact the etiology of cancer by multiple pathways. One of them is connected with polyphenols which are abundant in coffee. Polyphenols have strong antioxidant properties and can inhibit oxidative stress and oxidative DNA damage [6, 54]. In such countries as Finland and Norway, where that drink is extremely popular, coffee provides more than 50% of the total dietary antioxidants [6, 45]. The chlorogenic acid, which may slow intestinal glucose absorption and support insulin sensitivity in the body, is the most known among coffee polyphenols. Chronic hyperinsulinemia and insulin resistance are confirmed markers of high risk for some cancer sites [52]. Coffee is also a source of diterpenes – cafestol and kahweol, which can modulate multiple enzymes involved in carcinogenic detoxification, especially in the process of hepatic detoxification [19, 22, 44, 51]. Drinking coffee has been associated with a reduced risk of hepatic injury and cirrhosis and, via that pathway, coffee can protect against liver carcinogenesis [5, 22, 29]. With reference to colon cancer, specific possible mechanism include reduction of synthesis and secretion of bile acids, known promoters of colon cancer [10, 23], whereas in case of breast cancer the anti-carcinogenic properties of coffee can result from altered estrogen metabolism [4]. It is important to note that coffee is a primary source of caffeine. Based on the current evidence, it is suggested that moderate caffeine intake by healthy adults at a dose level of 400 mg a day is not associated with adverse effects, including incidence of cancer. Composition of coffee is determined by strength of the brew and brewing methods. Stronger brews have higher levels of caffeine, but also lots of beneficial polyphenols [15, 31, 49]. Considering the influence of coffee on health it is important to take into consideration various genetic factors, mainly determined by the CYP1A2 genotype, which play a role in metabolism of caffeine [2].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดำเนินการแนะนำกาแฟบนเสี่ยงมะเร็งแม้ มีจำนวนมากของการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคกาแฟและสุขภาพ การป้องกันกลไกของกาแฟกับโรคมะเร็งยังคงเข้าใจยาก กาแฟอาจส่งผลต่อสาเหตุของมะเร็ง ด้วยหลายทาง หนึ่งในนั้นเชื่อมต่อกับโพลีฟีนซึ่งมีมากในกาแฟ โพลีฟีนมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่แข็งแกร่ง และสามารถยับยั้งความเครียดออกซิเดชันและโรคดีเอ็นเอ [6, 54] ในประเทศเช่นฟินแลนด์และนอร์เวย์ ซึ่งเครื่องดื่มที่เป็นนิยม กาแฟให้มากกว่า 50% ของอาหารอนุมูลรวม [6, 45] กรดขึ้น ซึ่งอาจช้ากลูโคสที่ลำไส้ดูดซึมและการสนับสนุนความไวต่ออินซูลินในร่างกาย เป็นที่รู้จักกันมากที่สุดในโพลีฟีนกาแฟ ยืนยันเรื้อรัง hyperinsulinemia และอินซูลินต้านทานเครื่องหมายของความเสี่ยงสูงสำหรับบางไซต์มะเร็ง [52] กาแฟยังเป็นแหล่งที่มาของ diterpenes – cafestol และ kahweol ซึ่งสามารถปรับหลายเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องในการล้างพิษการเกิดโรคมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระบวนการล้างพิษตับ [19, 22, 44, 51] ดื่มกาแฟมีความเกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บของตับและตับแข็ง และ ทางเดินที่ กาแฟสามารถป้องกันตับถกเถียงกัน [5, 22, 29] โดยอ้างอิงที่มะเร็งลำไส้ เฉพาะกลไกที่เป็นไปได้รวมถึงลดการสังเคราะห์และหลั่งกรดน้ำดี ก่อมะเร็ง [10, 23], ที่รู้จักกันในขณะที่ในกรณีของมะเร็งเต้านม คุณสมบัติป้องกันการเกิดโรคมะเร็งของกาแฟเป็นผลมาจากการเผาผลาญฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง [4] มันเป็นสิ่งสำคัญโปรดสังเกตว่า กาแฟเป็นแหล่งหลักของคาเฟอีน จากหลักฐานปัจจุบัน แนะนำที่บริโภคคาเฟอีนปานกลาง โดยผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพในระดับปริมาณของ 400 mg วันไม่เกี่ยวข้องกับผลกระทบ รวมถึงอุบัติการณ์ของมะเร็ง องค์ประกอบของกาแฟจะถูกกำหนด โดยแรงของเบียร์และวิธี ของทานเล่นของแข็งได้ระดับสูงของคาเฟอีน แต่ยังของโพลีฟีนประโยชน์ [15, 31, 49] พิจารณาอิทธิพลของกาแฟต่อสุขภาพจะต้องคำนึงถึงปัจจัยทางพันธุกรรมต่าง ๆ ส่วนใหญ่ตามพันธุ์ CYP1A2 ซึ่งมีบทบาทในการเผาผลาญของคาเฟอีน [2]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ACTION แนะนำของกาแฟความเสี่ยงมะเร็ง
แม้จะมีจำนวนมากของการศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคกาแฟและสุขภาพป้องกัน
กลไกของกาแฟกับโรคมะเร็งยังคงเข้าใจยาก กาแฟอาจจะส่งผลกระทบสาเหตุของโรคมะเร็งโดยหลายเส้นทาง หนึ่งในนั้นคือการเชื่อมต่อกับโพลีฟีนซึ่งมีมากมายในกาแฟ โพลีฟีนมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่แข็งแกร่งและสามารถยับยั้งความเครียดออกซิเดชันและความเสียหายของดีเอ็นเอออกซิเดชัน [6 54] ในประเทศเช่นฟินแลนด์และนอร์เวย์ที่ดื่มเครื่องดื่มที่เป็นที่นิยมอย่างมาก, เครื่องชงกาแฟให้มากขึ้นกว่า 50% ของสารต้านอนุมูลอิสระอาหารทั้งหมด [6 45] กรด chlorogenic ซึ่งอาจชะลอการดูดซึมน้ำตาลกลูโคสในลำไส้และสนับสนุนความไวของอินซูลินในร่างกายที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุดในหมู่โพลีฟีนกาแฟ hyperinsulinemia เรื้อรังและความต้านทานต่ออินซูลินได้รับการยืนยันเครื่องหมายของความเสี่ยงสูงสำหรับเว็บไซต์มะเร็งบาง [52] กาแฟยังเป็นแหล่งที่มาของ diterpenes - cafestol kahweol และซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนเอนไซม์หลายส่วนร่วมในการล้างสารพิษก่อมะเร็งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระบวนการของการล้างพิษตับ [19, 22, 44, 51] การดื่มกาแฟมีความเกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บและโรคตับแข็งตับและทางเดินที่ว่ากาแฟสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งตับ [5, 22, 29] มีการอ้างอิงถึงมะเร็งลำไส้ใหญ่กลไกที่เป็นไปได้โดยเฉพาะรวมถึงการลดการสังเคราะห์และการหลั่งของกรดน้ำดีโปรโมเตอร์ที่รู้จักกันของมะเร็งลำไส้ใหญ่ [10 23] ในขณะที่ในกรณีของโรคมะเร็งเต้านมคุณสมบัติป้องกันการเกิดโรคมะเร็งของกาแฟที่อาจเกิดจากการเผาผลาญฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง [ 4] มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทราบว่ากาแฟเป็นแหล่งที่มาหลักของคาเฟอีน อยู่บนพื้นฐานของหลักฐานในปัจจุบันมันก็บอกว่าบริโภคคาเฟอีนในระดับปานกลางโดยผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพในระดับปริมาณ 400 มิลลิกรัมต่อวันไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลกระทบรวมถึงอุบัติการณ์ของโรคมะเร็ง องค์ประกอบของกาแฟจะถูกกำหนดโดยความแรงของการชงและวิธีการผลิตเบียร์ Brews แข็งแกร่งมีระดับที่สูงขึ้นของคาเฟอีน แต่จำนวนของโพลีฟีประโยชน์ [15, 31, 49] นอกจากนี้ยังมี เมื่อพิจารณาจากอิทธิพลของกาแฟต่อสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องคำนึงถึงปัจจัยทางพันธุกรรมต่าง ๆ กำหนดโดยส่วนใหญ่ยีน CYP1A2 ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญของคาเฟอีน [2]