Royal Development Study Centers In

Royal Development Study Centers

In pursuit of his goal of sustainable development in rural Thailand His Majesty initiated the establishment of six Royal Development Study Centers (RDSCs) throughout the country. In these centers research is carried out to find development strategies suitable to the distinctive conditions of each region. The centers serve as “living natural museums” from which farmers can expand and apply their knowledge.

The six centers are Khao Hin Sorn in Chachoengsao province, founded in 1979; Kung Krabaen Bay in Chanthaburi province, founded in 1981; Pikun Thong in Narathiwat province founded in 1982; Puparn in Sakon Nakhon province, founded in 1982; Huai Hong Khrai in Chiang Mai province, founded in 1982; and Huai Sai in Phetchaburi province, founded in 1983. The aim of the centers is to solve problems for people in rural areas to allow them to have a better quality of life and be free from hardship while enabling them to become strong and self-reliant.

For more than 30 years, RDSCs have promoted the application of knowledge and technology that conforms to the principles of conservation and environmental protection. Another key requirement is that the methods used must be simple and easily applicable in order for the people to make a sustainable living according to their lifestyles.

The RDSCs stated objectives are, among others, to conduct study, research and experiments in search of modern agricultural techniques consistent with the topographical and social conditions of each particular area; to serve as centers for exchange of experiences among academics, development workers and the people; and to demonstrate current agricultural research projects in the form of a “living natural museum.”

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ศูนย์ศึกษาการพัฒนารอยัล

ในการแสวงหาเป้าหมายของเขาในการพัฒนาอย่างยั่งยืนในชนบทของประเทศไทยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงริเริ่มจัดตั้งศูนย์หกรอยัลศึกษาการพัฒนา (RDSCs) ทั่วประเทศ ในการวิจัยศูนย์เหล่านี้จะดำเนินการออกไปหากลยุทธ์ในการพัฒนาที่เหมาะสมกับสภาพที่โดดเด่นของแต่ละภูมิภาค ศูนย์ทำหน้าที่เป็น "ชีวิตพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ" จากการที่เกษตรกรสามารถขยายและประยุกต์ใช้ความรู้ของพวกเขา

หกศูนย์เป็นเขาหินซ้อนอันเนื่องมาในจังหวัดฉะเชิงเทราก่อตั้งขึ้นในปี 1979; อ่าวคุ้งกระเบนในจังหวัดจันทบุรีก่อตั้งขึ้นในปี 1981; พิกุลทองอันเนื่องในจังหวัดนราธิวาสก่อตั้งขึ้นในปี 1982; ภูในจังหวัดสกลนครก่อตั้งขึ้นในปี 1982; ห้วยฮ่องไคร้ในจังหวัดเชียงใหม่ก่อตั้งขึ้นในปี 1982; และห้วยทรายในจังหวัดเพชรบุรี, ก่อตั้งขึ้นในปี 1983 โดยมีจุดมุ่งหมายของศูนย์คือการแก้ปัญหาสำหรับคนที่อยู่ในพื้นที่ชนบทเพื่อให้พวกเขามีคุณภาพชีวิตที่ดีและเป็นอิสระจากความยากลำบากในขณะที่ทำให้พวกเขากลายเป็นที่แข็งแกร่งและสามารถพึ่งตนเองได้ .

เป็นเวลากว่า 30 ปี RDSCs มีการส่งเสริมการประยุกต์ใช้ความรู้และเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับหลักการของการอนุรักษ์และคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ควบคุมความต้องการที่สำคัญคือวิธีการที่ใช้จะต้องง่ายและง่ายดายบังคับเพื่อให้คนที่จะทำให้ชีวิตที่ยั่งยืนตามวิถีชีวิตของพวกเขา

RDSCs ระบุวัตถุประสงค์อื่น ๆ ในกลุ่มเพื่อดำเนินการศึกษาวิจัยและการทดลองในการค้นหาของเทคนิคการเกษตรที่ทันสมัยสอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศและสังคมของพื้นที่เฉพาะแต่ละ เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์สำหรับการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างนักวิชาการการพัฒนาแรงงานและคน; และแสดงให้เห็นถึงโครงการวิจัยทางการเกษตรในปัจจุบันในรูปแบบของ "พิพิธภัณฑ์มีชีวิตตามธรรมชาติ."

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริในการแสวงหาเป้าหมายของการพัฒนาอย่างยั่งยืนในชนบทของประเทศไทยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงริเริ่มจัดตั้ง 6 ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ( rdscs ) ทั่วประเทศ ในศูนย์วิจัยจะดำเนินการเพื่อหาแนวทางการพัฒนาที่เหมาะสมต่อสภาพที่โดดเด่นของแต่ละพื้นที่ ศูนย์บริการเป็น " พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติมีชีวิตจากเกษตรกรที่สามารถขยายและใช้ความรู้หกศูนย์เขาหินซ้อน จ. ฉะเชิงเทรา , 1979 ; อ่าวคุ้งกระเบน จ. จันทบุรี ก่อตั้งขึ้นในปี 1981 ; พิกุลทองในจังหวัดนราธิวาส ก่อตั้งขึ้นในปี 1982 ; puparn จังหวัดสกลนคร ก่อตั้งขึ้นในปี 1982 ; ห้วยฮ่องไคร้ จังหวัดเชียงใหม่ ก่อตั้งขึ้นในปี 1982 และห้วยทรายในจังหวัดเพชรบุรี ก่อตั้งขึ้นในปี 1983 เป้าหมายของศูนย์ เพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชนในชนบท เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเป็นอิสระจากความยากลำบากในขณะที่ช่วยให้พวกเขากลายเป็นที่แข็งแกร่งและพึ่งตนเอง .มานานกว่า 30 ปี rdscs มีการส่งเสริมการประยุกต์ใช้ความรู้และเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับหลักการของการอนุรักษ์และคุ้มครองสิ่งแวดล้อม อีกความต้องการที่สำคัญคือวิธีที่ใช้จะต้องง่ายและใช้ง่ายเพื่อให้ประชาชนใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน ตามวิถีของตนเองการ rdscs ระบุวัตถุประสงค์ , หมู่คนอื่น ๆ เพื่อทำการศึกษา วิจัยและทดลองในการค้นหาของเทคนิคการเกษตรที่ทันสมัยสอดคล้องกับภูมิประเทศและสังคมของแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะ เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์แลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างนักวิชาการ นักพัฒนา และประชาชน และเพื่อแสดงให้เห็นถึงปัจจุบันโครงการวิจัยการเกษตรในรูปแบบของ " พิพิธภัณฑ์มีชีวิตธรรมชาติ”