Oceans cover more than 70% of Earth

Oceans cover more than 70% of Earth’s surface. About 97% of Earth’s water is contained in oceans and seas. The five oceans—the Pacific, Atlantic, Indian, Southern, and Arctic—are all connected and form an enormous mass of water. Seas are smaller bodies of salty water within the oceans.

The oceans are salty, which makes them unsuitable for drinking. Most of the salt comes from minerals from rocks and soil that have been washed from the land and carried into the oceans by rivers. The minerals are mostly chloride and sodium, which combine to make salt. Most of our table salt comes from the oceans.

The salinity, the amount of salt, varies in the oceans. Oceans in warm, dry areas are more salty than the oceans in cold climates, such as near the North and South Poles. That’s because ocean water in warmer areas evaporates quicker, leaving more salt behind. The saltiest water in the world is in the Red Sea, which is almost entirely surrounded by deserts.

Tides
Tides, waves, and currents cause the oceans to move constantly. A tide is the regular rise and fall of the sea level in oceans and other bodies of water. It is caused by the effect of the Moon’s gravity on Earth. Water on the side of Earth that is closest to the Moon is pulled in the direction of the Moon, creating a bulge in the ocean. On the other side of Earth, the Moon’s gravity pulls Earth away from the water, producing a matching bulge. These bulges form high tides. Because the Earth rotates on its axis, every point on Earth (except the poles) travels through the two high tide zones and the two low tides zones each day. This is why there are two high tides and two low tides each day.

Spring tides, which are especially strong, occur during new and full moons—every two weeks—when Earth, the Moon, and the Sun are in alignment. Neap tides, which are weaker, occur during first and last quarter moons, when the Sun, the Earth, and the Moon form a right angle.

Waves
Wind causes waves in the ocean. As the wind blows over the surface of the ocean, it pushes on the water and transfers some of its energy to the water. The water gets energy from the wind because of the friction between air molecules and water molecules. It may seem that waves move forward or horizontally, but they do not. They move up and down. You can see this by watching a buoy in the water. It bobs up and down with waves rather than moving from side to side.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มหาสมุทรครอบคลุมมากกว่า 70% ของพื้นผิวโลก ประมาณ 97% ของน้ำของโลกตั้งอยู่ในมหาสมุทรและทะเล โอเชี่ยนส์ห้า — แปซิฟิก แอตแลนติก อินเดีย ภาคใต้ และขั้วโลกเหนือซึ่งทั้งหมดจะเชื่อมต่อ และรูปแบบมีมวลมหาศาลของน้ำ ร่างเล็กของน้ำเค็มในมหาสมุทรทะเลได้มหาสมุทรมีเค็ม ซึ่งทำให้พวกเขาไม่เหมาะสมสำหรับดื่ม เกลือส่วนใหญ่มาจากแร่ธาตุจากหินและดินที่ล้างจากแผ่นดิน และดำเนินการในมหาสมุทรที่ โดยแม่น้ำ แร่ธาตุเป็นส่วนใหญ่คลอไรด์และโซเดียม ซึ่งให้เกลือ เกลือของเราส่วนใหญ่มาจากมหาสมุทรเค็ม เกลือ จำนวนแตกต่างกันไปในมหาสมุทร มหาสมุทรในความอบอุ่น พื้นที่แห้งจะเค็มขึ้นกว่ามหาสมุทรในสภาพอากาศที่เย็น เช่นใกล้ทางเหนือและใต้เสา เนื่องจากมีน้ำทะเลที่อุ่นบริเวณระเหยมากขึ้นเร็วขึ้น ออกเกลืออยู่เบื้องหลัง น้ำ saltiest ในโลกอยู่ในทะเลแดง ซึ่งเกือบทั้งหมดล้อมรอบ ด้วยทะเลทรายกระแสน้ำกระแสน้ำ คลื่น และกระแสทำให้มหาสมุทรเพื่อย้ายตลอดเวลา น้ำเป็นปกติขึ้นและลดลงของระดับน้ำทะเลในมหาสมุทรและร่างกายอื่น ๆ ของน้ำ มันเกิดจากผลของแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์โลก น้ำด้านของโลกที่ใกล้เคียงกับพระจันทร์ถูกดึงในทิศทางของดวงจันทร์ สร้างเป็นกระพุ้งในมหาสมุทร ในด้านอื่น ๆ ของโลก แรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์ดึงดินออกจากน้ำ ผลิตกระพุ้งตรง Bulges เหล่านี้เป็นกระแสน้ำสูง เนื่องจากโลกหมุนบนแกนของมัน ทุกจุดบนโลก (ยกเว้นเสา) เดินทางผ่านโซนสองน้ำและกระแสน้ำต่ำสองโซนแต่ละวัน นี่คือเหตุผลที่มีน้ำสูงสองและสองต่ำกระแสน้ำแต่ละวันกระแสน้ำสปริง ซึ่งมีความแข็งแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกิดขึ้นระหว่างดวงจันทร์ใหม่ และ — ทุกสองสัปดาห์ซึ่งเมื่อโลก ดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์อยู่ในตำแหน่ง กระแสน้ำ neap ซึ่งเป็น weaker เกิดขึ้นระหว่างชื่อ และนามสกุลมาสดวงจันทร์ เมื่อดวงอาทิตย์ โลก พระจันทร์ และรูปมุมขวาคลื่นลมทำให้คลื่นในมหาสมุทร เป็นลมพัดผ่านพื้นผิวของมหาสมุทร ผลักดันน้ำ และโอนย้ายบางส่วนของพลังงานน้ำ น้ำได้รับพลังงานจากลมเนื่องจากแรงเสียดทานระหว่างโมเลกุลของน้ำและโมเลกุลของอากาศ มันอาจดูเหมือนว่า คลื่นย้ายไปข้างหน้า หรือในแนวนอน แต่พวกเขาไม่ พวกเขาย้ายขึ้นและลง คุณสามารถดูได้ โดยการดูทุ่นในน้ำ มันบ๊อบขึ้นและลงกับคลื่นแทนที่ย้ายจากด้านข้าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มหาสมุทรครอบคลุมมากกว่า 70% ของพื้นผิวโลก เกี่ยวกับ 97% ของน้ำของโลกที่มีอยู่ในมหาสมุทรและทะเล ห้ามหาสมุทร-แปซิฟิก, แอตแลนติก, อินเดีย, ภาคใต้และอาร์กติกจะมีการเชื่อมต่อทั้งหมดและรูปแบบมวลมหาศาลของน้ำ ทะเลมีร่างกายที่เล็กกว่าของน้ำเค็มภายในมหาสมุทร. มหาสมุทรมีรสเค็มซึ่งทำให้พวกเขาไม่เหมาะสมสำหรับการดื่ม ส่วนใหญ่ของเกลือที่มาจากแร่ธาตุจากหินและดินที่ได้รับการล้างจากที่ดินและดำเนินการลงไปในมหาสมุทรแม่น้ำ แร่ธาตุที่เป็นส่วนใหญ่และโซเดียมคลอไรด์ซึ่งรวมกันเพื่อให้เกลือ ส่วนใหญ่เกลือของเรามาจากมหาสมุทร. ความเค็มปริมาณของเกลือที่แตกต่างกันไปในมหาสมุทร ในมหาสมุทรอุ่นพื้นที่แห้งมีรสเค็มมากกว่ามหาสมุทรในสภาพอากาศที่หนาวเย็นเช่นใกล้กับภาคเหนือและขั้วโลกใต้ นั่นเป็นเพราะน้ำทะเลในพื้นที่ที่อากาศอบอุ่นระเหยเร็วออกจากเกลือมากที่อยู่เบื้องหลัง น้ำ saltiest ในโลกอยู่ในทะเลแดงซึ่งล้อมรอบเกือบทั้งหมดโดยทะเลทราย. กระแสน้ำกระแสน้ำคลื่นและกระแสน้ำทำให้เกิดมหาสมุทรที่จะย้ายอย่างต่อเนื่อง น้ำที่เพิ่มขึ้นเป็นปกติและการล่มสลายของระดับน้ำทะเลมหาสมุทรและหน่วยงานอื่น ๆ ของน้ำ มันเกิดจากผลกระทบของแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์บนโลก น้ำที่ด้านข้างของโลกที่ใกล้เคียงกับดวงจันทร์จะถูกดึงไปในทิศทางของดวงจันทร์, การสร้างกระพุ้งในมหาสมุทร ในด้านอื่น ๆ ของโลกแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์ดึงโลกห่างจากน้ำ, การผลิตกระพุ้งที่ตรงกัน นูนแบบนี้กระแสสูง เพราะโลกหมุนในแกนของมันจุดบนโลกทุกคน (ยกเว้นเสา) เดินทางผ่านสองโซนน้ำสูงและทั้งสองกระแสน้ำต่ำโซนในแต่ละวัน นี่คือเหตุผลที่มีสองกระแสสูงและสองกระแสน้ำต่ำในแต่ละวัน. กระแสน้ำฤดูใบไม้ผลิซึ่งมีความแข็งแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดขึ้นในช่วงใหม่และดวงจันทร์เต็มทุกสองสัปดาห์เมื่อโลกดวงจันทร์และดวงอาทิตย์อยู่ในแนวเดียวกัน กระแสน้ำน้ำตายซึ่งปรับตัวลดลงในช่วงที่ดวงจันทร์เกิดขึ้นในไตรมาสแรกและครั้งสุดท้ายเมื่อดวงอาทิตย์โลกและดวงจันทร์ในรูปแบบมุมขวา. คลื่นลมทำให้เกิดคลื่นในมหาสมุทร ในฐานะที่เป็นลมพัดเหนือพื้นผิวของมหาสมุทรมันดันในน้ำและบางส่วนของการถ่ายโอนพลังงานไปในน้ำ น้ำได้รับพลังงานจากลมเพราะแรงเสียดทานระหว่างโมเลกุลของอากาศและโมเลกุลของน้ำ มันอาจจะดูเหมือนว่าคลื่นก้าวไปข้างหน้าหรือแนวนอน แต่พวกเขาไม่ได้ พวกเขาเลื่อนขึ้นและลง คุณสามารถดูนี้โดยการเฝ้าดูทุ่นในน้ำ มัน bobs ขึ้นและลงด้วยคลื่นมากกว่าที่จะย้ายจากทางด้านข้าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มหาสมุทรครอบคลุมกว่า 70% ของผิวโลก ประมาณ 97% ของโลกของน้ำที่มีอยู่ในทะเลและมหาสมุทร . 5 มหาสมุทรแปซิฟิก , แอตแลนติก , อินเดีย , ภาคใต้ , และอาร์กติกจะเชื่อมต่อทั้งหมดและแบบฟอร์มมวลมหาศาลของน้ำ ทะเลมีร่างกายเล็ก เค็ม น้ำในมหาสมุทร มหาสมุทรเค็ม

ซึ่งทำให้พวกเขาไม่เหมาะสมสำหรับการดื่มที่สุดของเกลือมาจากแร่ธาตุจากหินและดินที่ถูกล้างจากแผ่นดินและนำลงในมหาสมุทรโดยแม่น้ำ แร่ธาตุส่วนใหญ่คลอไรด์และโซเดียมซึ่งรวมเพื่อให้เกลือ ที่สุดของเกลือของเรามาจากมหาสมุทร .

ความเค็ม , ปริมาณของเกลือที่แตกต่างกันไปในมหาสมุทร ในมหาสมุทรอบอุ่น พื้นที่แห้งเค็มกว่ามหาสมุทร ในสภาพอากาศหนาวเช่น บริเวณขั้วเหนือและใต้ นั่นเป็นเพราะน้ำทะเลในพื้นที่อุ่นระเหยเร็ว ออกจากเกลืออีกหลัง น้ำ saltiest ในโลกในทะเลแดง ซึ่งเกือบทั้งหมดล้อมรอบด้วยทะเลทราย


กระแสน้ำกระแสน้ำ คลื่น และกระแสน้ำทำให้มหาสมุทรย้ายตลอดเวลา กระแสน้ำจะเพิ่มขึ้น ปกติและลดลงของระดับน้ำทะเลในมหาสมุทร และหน่วยงานอื่น ๆของน้ำมันเกิดจากผลของแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์บนโลก น้ำในฝั่งของโลกที่ใกล้ดวงจันทร์ถูกดึงในทิศทางของดวงจันทร์ สร้างกระพุ้งในมหาสมุทร ในด้านอื่น ๆของโลก แรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์ดึงดินออกจากน้ำผลิตคู่ตุง กระพุ้งเหล่านี้รูปแบบกระแสสูง เพราะโลกหมุนบนแกนทุกจุดบนโลก ( ยกเว้นเสา ) เดินทางผ่านสองน้ำขึ้นสูงและต่ำกระแสโซนสองโซนในแต่ละวัน นี่คือเหตุผลที่มีสองสูงและต่ำกระแสสองกระแสในแต่ละวัน

ฤดูใบไม้ผลิกระแสน้ำซึ่งมีความแข็งแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกิดขึ้นระหว่างใหม่และดวงจันทร์เต็มทุกสองสัปดาห์เมื่อโลก ดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์ อยู่ในแนวเดียวกัน น้ำตาย ซึ่งอ่อนแอกว่าเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสแรกและสุดท้ายดวงจันทร์ เมื่อดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์รูปแบบมุมขวา


คลื่นลมทำให้เกิดคลื่นในมหาสมุทร เมื่อลมพัดผ่านพื้นผิวของมหาสมุทร มันดันในน้ำและบางส่วนของการถ่ายโอนพลังงานของน้ำ น้ำที่ได้รับพลังงานจากลม เพราะความฝืดระหว่างโมเลกุลของอากาศ และโมเลกุลของน้ำมันอาจดูเหมือนว่าคลื่นย้ายไปข้างหน้าหรือแนวนอน แต่พวกเขาไม่ได้ พวกเขาเลื่อนขึ้นและลง คุณสามารถดูได้โดยการดูทุ่นในน้ำ มันอาจจะผลุบๆโผล่ขึ้นและลงด้วยคลื่นมากกว่าย้ายจากทางด้านข้าง