พระเจ้าหลุยส์ที่ 14
พระองค์โดดเด่นในเรื่องโครงสร้างของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช (สิทธิกษัตริย์ = เทพที่มาจากสวรรค์) ประโยชน์ของพระราชอำนาจอันเด็ดขาดของพระองค์ทำให้ความวุ่นวายต่างๆหมดสิ้นไปจากฝรั่งเศส อาทิเช่นเรื่องขุนนางก่อกบฏ(สมัยพระเจ้าหลุยส์ 14 ไม่มีขุนนางผู้ไหนกล้าก่อกบฏ เพราะพระองค์มีพระราชอำจนาจเด็ดขาด)พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงเป็นที่รักและเคารพของประชาชนชาวฝรั่งเศส จากการที่พระองค์ทำให้ประเทศเกรียงไกรและแผ่ขยายอาณาเขตไปเป็นอันมาก
15
ทรงขึ้นครองราชย์เมื่อยังทรงพระเยาว์ การบริหารราชการในระยะแรกอยู่ในความรับผิดชอบของอ็องเดร แอร์กูล เดอเฟลอรี เมื่อเจริญพระชันษาขึ้นก็ทรงเอาพระทัยในการบริหารประเทศ แต่ทรงพยายามรักษาความยิ่งใหญ่ของฝรั่งเศสไว้เช่นสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ด้วยการทำสงครามกับเพื่อนบ้านหลายครั้งแต่ ทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณไปเป็นจำนวนมาก ภายหลังทรงเริ่มละทิ้งราชการไปสนพระทัยในวิทยาศาสตร์และสนทนากับปัญญาชน รวมถึงทรงมีสัมพันธ์กับสตรีสูงศักดิ์หลายคน ถือว่าสถาบันกษัตริย์ของฝรั่งเศสเริ่มเสื่อมความนิยมและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์มากขึ้น การบริหารประเทศไร้ประสิทธิภาพจนนำไปสู่วิกฤตการณ์ในรัชกาลต่อมา
16
เศรษฐกิจย่ำแย่ ราษฎรอดอยากสั่งสมมาตั้งนานแล้วค่ะ ราชสำนักของฝรั่งเศสฟุ้งเฟ้อตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่เพิ่งมาหนักสุดๆก็รัชสมัยของพระสวามีของพระนางคือ พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 พระองค์ยอมตามใจ ให้มีปาร์ตี้ไม่เว้นวัน ประกอบกับช่วงนั้นแนวคิดเรื่องระบบการปกครองสมัยใหม่กำลังได้รับความสนใจ พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ก็ไม่มีพระปรีชาสามารถเทียบเท่ารุ่นปู่
เมื่อมาถึงรัชกาลของพระองค์ ทุกอย่างเลยย่ำแย่ไปหมด ราชสำนักก็ใช้ชีวิตหรูหรากันเกินเหตุ ในขณะที่ประชาชนกำลังอดอยากเจียนตาย ประกอบการกับขูดรีดภาษีของราชวงศ์
ประชาชนทนแบกภาระ ในการเก็บภาษีไม่ไหว อดอยาก และเหล่าขุนนางไม่มีการเสียสละ ประเทศเป็นหนี้มากมายเนื่องจากสงครามกู้อิสรภาพของสหรัฐ กลายเป็นการปฏิวัติฝรั่งเศส แล้วก็มีการนองเลือดกันมโหฬารอย่าง