Almost a fifth of children in Brita

Almost a fifth of children in Britain are
identified as having special educational
needs (SEN). It is estimated that around
7 per cent of children are disabled and
a significant number of children have
both SEN and a disability1.
Most children with SEN and disabilities
are educated in mainstream schools.
Around one per cent of the total school
population is educated in special
schools.
The Government wants to ensure that
every child with SEN and disabilities
gets an education that allows them
to achieve their full potential. Where
a child has SEN, a school’s statutory
duties include doing its best to ensure
that the necessary provision is made
for them and that they join in school
activities with other pupils as much
as possible.
Under the Disability Discrimination Act
1995 (as amended by the Disability
Discrimination Act 2005) (DDA), every
local authority and school must:
• not discriminate against disabled
pupils – they must not treat them ‘less
favourably’ and must actively make
‘reasonable adjustments’ to ensure that
they are not at a substantial
disadvantage

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป็นเกือบหนึ่งในห้าของเด็กในสหราชอาณาจักรระบุว่ามีการศึกษาพิเศษความต้องการ (สามเสน) มีประมาณที่ใกล้เคียง7 ร้อยละของเด็กที่ถูกปิดใช้งาน และมีจำนวนมากของเด็กSEN และ disability1 เป็นเด็กส่วนใหญ่ มีเซนและความพิการมีศึกษาในโรงเรียนหลักโรงเรียนรวมประมาณร้อยละหนึ่งประชากรได้รับการศึกษาพิเศษโรงเรียนรัฐบาลต้องให้แน่ใจว่าเด็กทุกคนเซ็นและความพิการได้รับการศึกษาได้เพื่อให้บรรลุศักยภาพของพวกเขา ที่เด็กมี SEN โรงเรียนของกฎหมายหน้าที่รวมถึงทำดีสุดเพื่อให้แน่ใจทำให้จำเป็นสำหรับพวกเขาและที่ พวกเขาเข้าร่วมในโรงเรียนกิจกรรมกับนักเรียนอื่น ๆ มากเป็นไปภายใต้กฎหมายเลือกปฏิบัติความพิการ1995 (ตามที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยพิการเลือกปฏิบัติ Act 2005) (DDA), ทุกโรงเรียนและหน่วยงานท้องถิ่นต้อง:•ไม่แยกแยะกับผู้พิการนักเรียน – พวกเขาต้องไม่คิดว่า ' น้อยลงเกณฑ์ ' และต้องทำอย่างแข็งขัน'การปรับปรุงเหมาะสม' เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ที่ความสำคัญข้อเสีย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เกือบหนึ่งในห้าของเด็กในสหราชอาณาจักรจะ
ระบุว่ามีการศึกษาพิเศษ
ความต้องการ (SEN) มันเป็นที่คาดว่าประมาณ
ร้อยละ 7 ของเด็กต่อถูกปิดใช้งานและ
จำนวนมากของเด็กมี
ทั้ง SEN และ disability1 ได้.
เด็กส่วนใหญ่ที่มี SEN และคนพิการ
ได้รับการศึกษาในโรงเรียนหลัก.
บริเวณใกล้เคียงร้อยละหนึ่งของโรงเรียนรวมต่อ
ประชากรมีการศึกษาพิเศษ
โรงเรียน.
รัฐบาลต้องการที่จะให้แน่ใจว่า
เด็กที่มีความพิการและ SEN ทุก
ได้รับการศึกษาที่ช่วยให้พวกเขา
เพื่อให้บรรลุศักยภาพของพวกเขา ในกรณีที่
เด็กมีเสนโรงเรียนพระราชบัญญัติ
หน้าที่รวมถึงการทำดีที่สุดเพื่อให้แน่ใจ
ว่าการจัดหาสิ่งที่จำเป็นที่จะทำ
สำหรับพวกเขาและพวกเขาเข้าร่วมในโรงเรียน
กิจกรรมกับนักเรียนคนอื่น ๆ มากที่สุดเท่า
ที่เป็นไปได้.
ภายใต้พระราชบัญญัติการกีดกันคนพิการ
1995 (แก้ไขเพิ่มเติมโดย ความพิการ
พระราชบัญญัติการกีดกัน 2005) (DDA) ทุก
หน่วยงานท้องถิ่นและโรงเรียนต้อง:
•ไม่เลือกปฏิบัติกับคนพิการ
นักเรียน - พวกเขาจะต้องไม่ปฏิบัติต่อพวกเขา 'น้อยลง
อยู่ในเกณฑ์ดีและแข็งขันต้องให้
' การปรับที่เหมาะสม 'เพื่อให้แน่ใจว่า
พวกเขาไม่ได้ที่สำคัญ
ข้อเสีย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เกือบหนึ่งในห้าของเด็กในอังกฤษคือระบุว่ามีการศึกษาพิเศษความต้องการ ( เซน ) มันคือประมาณว่ารอบ ๆ7 ร้อยละของเด็กพิการและจำนวนที่มีนัยสำคัญของเด็กได้ทั้งเซนและ disability1 .เด็กส่วนใหญ่กับเซนและคนพิการได้รับการศึกษาในโรงเรียนหลักรอบ ๆร้อยละหนึ่งของโรงเรียนทั้งหมดประชากรในการศึกษาพิเศษโรงเรียนรัฐบาลต้องการให้แน่ใจว่าเด็กทุกคนมีเซ็น และคนพิการได้รับการศึกษาที่ช่วยให้พวกเขาเพื่อให้บรรลุศักยภาพของพวกเขา ที่เด็กมีเซ็น ของโรงเรียนกฎหมายหน้าที่รับผิดชอบทำที่ดีที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่าว่าบทบัญญัติที่จําเป็น ทําสำหรับพวกเขาและพวกเขาเข้าร่วมในโรงเรียนกิจกรรมกับนักเรียนอื่น ๆ มากเท่าที่จะเป็นไปได้ภายใต้พระราชบัญญัติการเลือกปฏิบัติคนพิการ1995 ( แก้ไขเพิ่มเติม โดยคนพิการการแบ่งแยกกฎหมาย 2005 ) ( DDA ) , ทุกอำนาจท้องถิ่นและโรงเรียนต้อง- ไม่เลือกปฏิบัติกับคนพิการนักเรียน–พวกเขาไม่ต้องถือ " น้อยลงและต้องสนับสนุนอย่างแข็งขันให้" ปรับ " เพื่อให้แน่ใจว่าเหมาะสมพวกเขาไม่ได้เป็น มากมายข้อเสีย