DPPH radical scavenging activity wa

DPPH radical scavenging activity was determined using the
method originally developed by Blois (1958) with slight modifications
by Lai et al. (2009). A portion (0.1 mL) of the extract solution
(1.0 mg/mL DMSO) in a test tube was well mixed with 3.9 ml of
methanol and 1.0 mL of a,a-diphenyl-b-picrylhydrazyl (DPPH)
solution (1.0 mmol/L in methanol). The mixture was kept at
ambient temperature for 30 min prior to measurement of the
absorbance at 517 nm. BHA was used as the reference. All
measurements were done in triplicate. The scavenging effect was
derived by the following equation:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

DPPH ต้านอนุมูลถูกกำหนดโดยใช้
วิธีการพัฒนามาบลัว (1958) ที่มีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย
โดย Lai et al, (2009) ส่วน (0.1 มิลลิลิตร) ของการแก้ปัญหาสารสกัดจาก
(1.0 มิลลิกรัม / มิลลิลิตร DMSO) ในหลอดทดลองเป็นอย่างดีผสมกับ 3.9 มิลลิลิตรของ
เมทานอลและ 1.0 มิลลิลิตร,-diphenyl-B-picrylhydrazyl (DPPH)
วิธีการแก้ปัญหา (1.0 มิลลิโมล / L ในเมทานอล) ส่วนผสมที่ถูกเก็บไว้ที่
อุณหภูมิห้องเป็นเวลา 30 นาทีก่อนที่จะมีการวัด
การดูดกลืนแสงที่ 517 นาโนเมตร BHA ถูกนำมาใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง ทุก
วัดได้ทำในเพิ่มขึ้นสามเท่า ผลที่ได้รับการขับ
มาจากสมการดังต่อไปนี้:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กิจกรรม dpph เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาถูกกำหนดใช้วิธีการพัฒนาเดิมโดยร์

( 1958 ) ที่มีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย โดยลาย et al . ( 2009 ) ส่วน ( 0.1 ml ) สารสกัดสารละลาย
( 1.0 มก. / มล. และ DMSO ) ในหลอดทดลองได้เป็นอย่างดี ผสมกับ 3.9 มล.
เมทานอลและ 1.0 มิลลิลิตร , a-diphenyl-b-picrylhydrazyl ( dpph )
โซลูชั่น ( 1.0 มิลลิโมล / ลิตรในเมทานอล ) ส่วนผสมจะถูกเก็บไว้ที่
อุณหภูมิประมาณ 30 นาที ก่อนที่จะวัดค่าการดูดกลืนแสงที่
517 nm . bha ใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง ทั้งหมด
วัดเสร็จ ทั้งสามใบ ไล่ต่อ
ได้มาโดยสมการต่อไปนี้