Excessive fibrinolysis that threate

Excessive fibrinolysis that threatens clot integrity
is known as hyperfibrinolysis.41 Abnormal fibrinolytic
activity may be overlooked as a cause of
bleeding, particularly in liver disease, and the
condition is difficult to diagnose because of the
absence of a specific routine assay. Clinical suspicion
should be high in cases in which bleeding
continues despite hemostatic replacement therapy,
platelet levels are relatively conserved but fibrinogen
levels are disproportionately low, and d-dimer
levels are disproportionately high for disseminated
intravascular coagulation. Thromboelastography,
which may help differentiate fibrinolytic activation
from coagulation factor deficiency, is a
crude tool, since it detects only the most marked
changes.42 Fibrinolytic bleeding should be considered
particularly in patients with liver disease
and disseminated cancers. The use of tranexamic
acid, either by infusion or orally (depending on
the severity of the problem and the state of the
patient), is beneficial in controlling bleeding.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Fibrinolysis มากเกินไปที่คุกของ clotเรียกว่า hyperfibrinolysis.41 ผิดปกติ fibrinolyticอาจมองข้ามกิจกรรมเป็นสาเหตุของมีเลือดออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรคตับ และเงื่อนไขไม่ยากที่จะวินิจฉัยเนื่องจากการการขาดงานของการทดสอบประจำเฉพาะ ความสงสัยทางคลินิกควรจะสูงในกรณีที่อยู่ที่เลือดยังคงมีอยู่แม้ มีการบำบัดทดแทน hemostaticระดับเกล็ดเลือดค่อนข้างมีอยู่แต่ไฟบริโนเจนระดับจะสลายต่ำ และผลิตของ dimer dระดับจะสูงสลายสำหรับเผยแพร่เฟน intravascular Thromboelastographyซึ่งอาจช่วยแยกแยะ fibrinolytic เปิดใช้งานจากการแข็งตัวของเลือดตัวขาด มีการมือหยาบ เนื่องจากตรวจพบเฉพาะสุดค้างchanges.42 Fibrinolytic เลือดควรโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่มีโรคตับและมะเร็งเผยแพร่ ใช้ของ tranexamicกรด โดยคอนกรีต หรือเนื้อหา (ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาและสถานะของการผู้ป่วย), เป็นประโยชน์ในการควบคุมเลือดออก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การละลายลิ่มเลือดมากเกินไปที่คุกคามความสมบูรณ์ก้อนเป็นที่รู้จักกัน hyperfibrinolysis.41 ละลายลิ่มเลือดผิดปกติกิจกรรมอาจจะมองข้ามเป็นสาเหตุของเลือดออกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยโรคตับและสภาพเป็นเรื่องยากที่จะวินิจฉัยเพราะกรณีที่ไม่มีการทดสอบประจำที่เฉพาะเจาะจง สงสัยคลินิกควรจะสูงในกรณีที่มีเลือดออกอย่างต่อเนื่องแม้จะมีการบำบัดทดแทนห้ามเลือดระดับเกล็ดเลือดที่ได้รับการอนุรักษ์ค่อนข้างแต่ fibrinogen ระดับต่ำอย่างไม่เป็นสัดส่วนและ D-dimer ระดับสัดส่วนสูงสำหรับการเผยแพร่การแข็งตัวของหลอดเลือด Thromboelastography, ซึ่งอาจช่วยยืนยันการใช้งานแตกต่างละลายลิ่มเลือดจากการขาดปัจจัยการแข็งตัวเป็นเครื่องมือน้ำมันดิบเนื่องจากตรวจพบเพียงที่มีเครื่องหมายที่สุดchanges.42 เลือดออกละลายลิ่มเลือดควรได้รับการพิจารณาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่มีโรคตับและโรคมะเร็งเผยแพร่ การใช้งานของ tranexamic กรดทั้งโดยการฉีดหรือรับประทาน (ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาและสถานะของผู้ป่วย) จะเป็นประโยชน์ในการควบคุมการมีเลือดออก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มากเกินไปที่คุกคามความสมบูรณ์ของ
ก้อนเรียกว่า hyperfibrinolysis.41 ผิดปกติขาด
กิจกรรมอาจถูกมองข้าม เป็นสาเหตุของ
เลือดออก โดยเฉพาะในโรคตับ , และ
สภาพยากที่จะวินิจฉัยเพราะ
ขาดเฉพาะขั้นตอนการทดสอบ
สงสัยทางคลินิกควรจะสูงในรายที่เลือดออกอย่างต่อเนื่องแม้จะมีการห้ามเลือดแทน

,เกล็ดเลือดเป็นระดับที่ค่อนข้างอนุรักษ์ แต่ฟาม
ระดับต่ำเกิน และ d-dimer
ระดับจะสูงเกินสำหรับการเผยแพร่
แนวที่ห้า . thromboelastography

, ซึ่งอาจช่วยแยกขาดจากการขาดปัจจัยการแข็งตัวของเลือดเป็น
เครื่องมือดิบ เนื่องจากตรวจพบเพียงการเปลี่ยนแปลงเครื่องหมาย
ที่สุด42 ขาดเลือดควรพิจารณา

โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีโรคตับและเผยแพร่โรคมะเร็ง การใช้กรด Tranexamic
ทั้งโดยการฉีดหรือรับประทาน ( ขึ้นอยู่กับ
ความรุนแรงของปัญหาและสภาพของ
คนไข้ ) จะเป็นประโยชน์ในการควบคุมเลือด