Generally my guideline is:- Always

Generally my guideline is:

- Always ask for the PO before the service.

- With some customers they take time and it may be urgent. So there we can help one time without PO, but I want the guarantee in writing that they pay promptly after the Service.

- If this then does not happen, then we only go after we have received a PO.

- If customers pay late (more than 30 days after the invoice due date) despite a valid PO before the Service, then we will ask for payment in advance.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โดยทั่วไปเป็นผลงานของฉัน:

-สอบถาม PO ก่อนบริการ

- มีลูกค้าบางราย ใช้เวลา และอาจเป็นการเร่งด่วน จึงมีเราสามารถช่วยให้ครั้งเดียว โดย PO แต่ต้องรับประกันในการเขียนที่พวกเขาจ่ายทันทีหลังบริการ

- ถ้านี้แล้วไม่เกิด ขึ้น แล้วเราไปเท่านั้นหลังจากเราได้รับ PO

-ถ้าลูกค้าชำระล่าช้า (มากกว่า 30 วันหลังจากใบแจ้งหนี้วันครบกำหนด) แม้ มี PO ที่ถูกต้องก่อนที่จะให้บริการ แล้วเราจะขอชำระเงินล่วงหน้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โดยทั่วไปแนวทางของฉันคือ: - ควรขอ PO ก่อนที่จะบริการ- มีลูกค้าบางส่วนที่พวกเขาต้องใช้เวลาและมันอาจจะเป็นเรื่องเร่งด่วน จึงมีเราสามารถช่วยครั้งเดียวโดยไม่ต้อง PO แต่ฉันต้องการการรับประกันเป็นลายลักษณ์อักษรว่าพวกเขาจ่ายทันทีหลังจากบริการ- หากนี้แล้วไม่ได้เกิดขึ้นแล้วเราจะไปหลังจากที่เราได้รับ PO - หากลูกค้าจ่ายปลาย ( กว่า 30 วันหลังจากที่ใบแจ้งหนี้วันครบกำหนด) แม้จะมี PO ถูกต้องก่อนที่บริการแล้วเราจะขอชำระเงินล่วงหน้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โดยทั่วไปแนวทางของฉัน :

- เสมอ ขอปอก่อนที่จะให้บริการ .

- กับลูกค้าที่พวกเขาใช้เวลาและอาจจะเร่งด่วน ดังนั้นเราสามารถช่วยให้หนึ่งครั้ง โดยไม่มีโพ แต่ผมต้องการหลักประกันในการเขียนที่พวกเขาจ่ายทันทีหลังจากที่บริการ

- ถ้านี้ไม่ได้เกิดขึ้น แล้วเราเพิ่งไปหลังจากเราได้รับ PO .

- ถ้าลูกค้าจ่ายเงินช้า ( มากกว่า 30 วัน หลังจากใบแจ้งหนี้ถึงกำหนด ) แม้จะมีโปที่ถูกต้องก่อนที่จะให้บริการ เราก็จะถามสำหรับการชำระเงินล่วงหน้า