To sustain intimacy for any length

To sustain intimacy for any length of time requires well-developed emotional and interpersonal awareness. Intimacy requires an ability to be both separate and together participants in an intimate relationship. Murray Bowen called this "self-differentiation". It results in a connection in which there is an emotional range involving both robust conflict, and intense loyalty.[7] Lacking the ability to differentiate oneself from the other is a form of symbiosis, a state that is different from intimacy, even if feelings of closeness are similar.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เพื่อให้มีระดับสำหรับเวลาต้องการรับรู้อารมณ์ และมนุษยสัมพันธ์ดีพัฒนา เป็นกันเองต้องมีความสามารถที่จะแยกจากกัน และกันร่วมในความสัมพันธ์ใกล้ชิด Murray Bowen เรียกนี้ "ตนเองสร้างความแตกต่าง" จะส่งผลในการเชื่อมต่อซึ่งมีช่วงอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งที่แข็งแกร่ง และความจงรักภักดีที่รุนแรง [7] ขาดความสามารถในการแตกตัวจากกันเป็นรูปแบบของ symbiosis รัฐที่แตกต่างจากโรแมนติค แม้ว่าความรู้สึกของความใกล้เคียงจะคล้ายกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เพื่อรักษาความใกล้ชิดสำหรับระยะเวลาใด ๆ ต้องมีการพัฒนาที่ดีการรับรู้อารมณ์และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ความใกล้ชิดจะต้องมีความสามารถในการเป็นทั้งที่แยกจากกันและร่วมกันมีส่วนร่วมในความสัมพันธ์ใกล้ชิด เมอร์เรเวนนี้เรียกว่า "ความแตกต่างของตัวเอง" มันจะส่งผลในการเชื่อมต่อที่มีอยู่ในช่วงอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับทั้งความขัดแย้งที่แข็งแกร่งและความจงรักภักดีที่รุนแรง. [7] ขาดความสามารถในการแยกความแตกต่างตัวเองจากที่อื่น ๆ เป็นรูปแบบของ symbiosis รัฐที่แตกต่างจากความใกล้ชิดแม้ว่าความรู้สึก ความใกล้ชิดที่มีความคล้ายคลึง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การรักษาความใกล้ชิดสำหรับระยะเวลาใด ๆต้องมีการพัฒนาทางอารมณ์และมีความตระหนัก ความใกล้ชิดที่ต้องมีความสามารถเป็นทั้งแยกและร่วมกันมีส่วนร่วมในความสัมพันธ์ที่สนิทสนม เมอร์เรย์ โบเวน เรียกส่วนนี้ว่า " ความแตกต่าง " ของตนเอง ผลลัพธ์ในการเชื่อมต่อซึ่งมีช่วงอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับทั้งสองมีความขัดแย้งและรุนแรงภักดี[ 7 ] ขาดความสามารถในการแยกความแตกต่างตัวเองจากอื่น ๆเป็นรูปแบบของ symbiosis , รัฐแตกต่างจากความใกล้ชิด แม้ว่าความรู้สึกของความสนิทสนมกันเลย