The second function of diplomacy in

The second function of diplomacy involves “the gathering of information and subsequent identification and evaluation of the receiving state’s foreign policy goals” (Ameri 1). Diplomatic posts are concerned with gathering information; however when the information is sent back to their native country a Foreign Ministry analyzes the data and determines what foreign policy should be enacted. Political leaders choose what path is right for their country then. The third major function of diplomacy is expansion of political, economic, and cultural ties between two countries (Ameri 2). For example, after WWII countries such as the United States and Britain aimed their foreign policy at the extermination of communism. In present day, the United States State Department engages international audiences to speak about politics, security, and their values to help create an environment receptive to US national interests. In addition, “the State Department annually sponsors more than 40,000 educational and cultural exchanges” (Diplomacy). Finally, the fourth function of diplomacy is that “diplomacy is the facilitating or enforcing vehicle for the observation of international law” (Ameri 2). It is the diplomat’s job to promote the country’s national interests and keep ties with other countries open. The emphasis put on diplomacy is not just dominant in today’s world, however it was a developing concept in the Renaissance as well.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฟังก์ชั่นที่สองของการทูตเกี่ยวข้องกับ "การรวบรวมข้อมูล และรหัสตามมา" และประเมินเป้าหมายนโยบายต่างประเทศของรัฐรับ (Ameri 1) บทความทางการทูตจะเกี่ยวข้องกับการรวบรวมข้อมูล อย่างไรก็ตามเมื่อข้อมูลถูกส่งกลับไปประเทศบ้านเกิด กระทรวงต่างประเทศวิเคราะห์ข้อมูล และกำหนดนโยบายต่างประเทศว่าควรจะประกาศใช้กฎหมาย ผู้นำทางการเมืองเลือกเส้นทางใดเหมาะสมกับประเทศของตนแล้ว ฟังก์ชันหลักที่สามของการทูตเป็นการขยายตัวทางการเมือง เศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมระหว่างทั้งสองประเทศ (Ameri 2) ตัวอย่าง หลัง WWII ประเทศเช่นสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรมุ่งกำจัดคอมมิวนิสต์นโยบายต่างประเทศของพวกเขา ในวันที่ปัจจุบัน สหรัฐอเมริกากระทรวงเกี่ยวผู้ชมนานาชาติพูดเกี่ยวกับการเมือง ความปลอดภัย และค่าเพื่อช่วยสร้างสภาพแวดล้อมครอบครัวเพื่อผลประโยชน์ของชาติเรา นอกจากนี้ "กระทรวงปีให้สนับสนุนการแลกเปลี่ยนทางการศึกษา และวัฒนธรรมมากกว่า 40000" (การทูต) สุดท้าย การทำงานที่สี่ของการทูตคือ "การทูตอำนวยความสะดวกหรือการบังคับยานพาหนะสำหรับการเก็บข้อมูลของกฎหมายระหว่างประเทศ " (Ameri 2) มันเป็นงานของทูตเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์แห่งชาติของประเทศ และเปิดให้ความสัมพันธ์กับประเทศอื่น ๆ เน้นใส่การทูตไม่เพียงโดดเด่นในโลกปัจจุบัน แต่มันเป็นแนวคิดที่พัฒนาในเรอเนสซองซ์เช่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฟังก์ชั่นที่สองของการเจรจาต่อรองที่เกี่ยวข้องกับ "การชุมนุมของข้อมูลและบัตรประจำตัวที่ตามมาและการประเมินผลที่ได้รับเป้าหมายนโยบายต่างประเทศของรัฐ" (Ameri 1) โพสต์ทูตที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมข้อมูล; อย่างไรก็ตามเมื่อข้อมูลจะถูกส่งกลับไปยังประเทศบ้านเกิดของพวกเขากระทรวงต่างประเทศวิเคราะห์ข้อมูลและกำหนดนโยบายต่างประเทศของสิ่งที่ควรจะตรา ผู้นำทางการเมืองเลือกสิ่งที่เส้นทางที่เหมาะสมสำหรับประเทศของพวกเขาแล้ว ฟังก์ชั่นใหญ่เป็นอันดับสามของการทูตคือการขยายตัวของความสัมพันธ์ทางการเมืองเศรษฐกิจและวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศ (Ameri 2) ตัวอย่างเช่นหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองประเทศเช่นสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรที่มุ่งดำเนินนโยบายต่างประเทศของพวกเขาที่ขุดรากถอนโคนของลัทธิคอมมิวนิสต์ ในปัจจุบันการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาประกอบกับผู้ชมต่างประเทศที่จะพูดคุยเกี่ยวกับการเมืองการรักษาความปลอดภัยและค่านิยมของพวกเขาที่จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้างให้สหรัฐผลประโยชน์ของชาติ นอกจากนี้ "กระทรวงการต่างประเทศเป็นประจำทุกปีสปอนเซอร์มากกว่า 40,000 การแลกเปลี่ยนการศึกษาและวัฒนธรรม" (ทูต) สุดท้ายฟังก์ชั่นที่สี่ของการเจรจาต่อรองก็คือ "การเจรจาต่อรองเป็นอำนวยความสะดวกหรือยานพาหนะสำหรับการสังเกตการบังคับใช้กฎหมายต่างประเทศ" (Ameri 2) มันเป็นงานของนักการทูตที่จะส่งเสริมให้ประเทศผลประโยชน์ของชาติและให้ความสัมพันธ์กับประเทศอื่น ๆ ที่เปิด เน้นวางอยู่บนการเจรจาต่อรองไม่ได้เป็นเพียงโดดเด่นในโลกของวันนี้ แต่มันเป็นแนวความคิดการพัฒนาในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาเช่นกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฟังก์ชันที่สองของการเจรจาที่เกี่ยวข้องกับ " การรวบรวมข้อมูลและระบุตามมาและการประเมินผลที่ได้รับนโยบายของรัฐต่างประเทศเป้าหมาย " ( มริ 1 ) สถานทูตจะเกี่ยวข้องกับการรวบรวมข้อมูล อย่างไรก็ตาม เมื่อข้อมูลถูกส่งตัวกลับประเทศบ้านเกิด กระทรวงต่างประเทศวิเคราะห์ข้อมูลและกำหนดนโยบายต่างประเทศเป็นไป . ผู้นำทางการเมืองที่เลือกเส้นทางที่เหมาะสำหรับประเทศของพวกเขา ฟังก์ชันหลักที่สามของการทูตคือการขยายตัวของการเมือง เศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ด้านวัฒนธรรมระหว่าง 2 ประเทศ ( มริ 2 ) ตัวอย่างเช่นหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองประเทศเช่นสหรัฐอเมริกาและอังกฤษมีนโยบายต่างประเทศที่การทำลายล้างของลัทธิคอมมิวนิสต์ ใน ปัจจุบัน สหรัฐอเมริกา รัฐเกี่ยวผู้ชมระหว่างประเทศเพื่อพูดเรื่องการเมือง ความมั่นคง และค่าของพวกเขาเพื่อช่วยในการสร้างสภาพแวดล้อมที่อ่อนไหวกับเรา ผลประโยชน์ของชาติ นอกจากนี้ " รัฐเป็นรายปี ผู้สนับสนุนมากกว่า 100 , 000 คน การศึกษา และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม " ( การทูต ) สุดท้ายฟังก์ชันที่สี่ของการทูตว่า " การทูตเป็นสกรีน หรือ บังคับรถสำหรับการสังเกตของกฎหมายระหว่างประเทศ " ( มริ 2 ) เป็นทูตงานเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์แห่งชาติของประเทศและรักษาความสัมพันธ์กับประเทศอื่น ๆ เปิด เน้นใส่ในการทูต ไม่ใช่แค่เด่นในโลกของวันนี้ อย่างไรก็ตาม มันพัฒนาแนวคิดในยุคกลางได้เป็นอย่างดี