A study was conducted in a long-ter

A study was conducted in a long-term field
experiment initiated in 1939 at the University of Pretoria,
South Africa. The aim was to assess the long-term
effect of direct N and K and residual P fertilizers on
chemical and microbial properties of soil and grain yield
of maize in rotation with field pea. Long-term fertilization
resulted in decreased total organic C (TOC) and basic
cation contents, and had an acidifying effect on soil.
The decrease in TOC was greater in simple fertilizer
treatments (N, P, or K) whereas basic cation contents and
pH declined more in balanced fertilizer treatments
(NPK). Levels of total N were higher in the balanced
than in simple fertilizer treatments. Soil microbial biomass
and numbers of bacteria, actinomycetes and fungi
were influenced by, and exhibited qualitative changes in
response to, long-term fertilization. Crop rotation also
exerted effects on chemical and microbial properties of
the soil. Maize grain yield showed significant increases
due to balanced fertilizer treatments. Responses of maize
to simple fertilizer applications were not beneficial in
terms of yield returns. The results suggested that judicious
use of inorganic fertilizers may, in the long-term,
maintain soil quality and productive capacity

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษาดำเนินการในเขตข้อมูลระยะยาวการทดลองเริ่มต้นในปีพ.ศ. 2482 ที่มหาวิทยาลัยพะเยาแอฟริกาใต้ จุดประสงค์คือเพื่อ ประเมินระยะยาวผลโดยตรง N และ K และปุ๋ย P เหลือบนคุณสมบัติทางเคมี และจุลินทรีย์ดินและเมล็ดผลของข้าวโพดหมุนกับถั่ว ใส่ปุ๋ยระยะยาวในลดลงรวมอินทรีย์ C (TOC) และพื้นฐานเนื้อหาไอออน และมีผลต่อดิน acidifyingการลดลงของ TOC ได้มากขึ้นในปุ๋ยอย่างง่ายการรักษา (N, P หรือ K) ในขณะที่เนื้อหาพื้นฐานไอออน และค่า pH ลดลงเพิ่มเติมในการรักษาสมดุลปุ๋ย(NPK) ระดับ N ทั้งหมดสูงกว่าในสมดุลกว่าปุ๋ยง่ายรักษา ชีวมวลจุลินทรีย์ดินและหมายเลขของแบคทีเรีย actinomycetes และเชื้อราได้รับอิทธิพลจาก และการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพในการจัดแสดงตอบสนองการ ปฏิสนธิระยะยาว ครอบตัดหมุนยังคุณสมบัติทางเคมี และจุลินทรีย์ของผลนั่นเองดิน ผลผลิตเมล็ดข้าวโพดแสดงให้เห็นว่าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากการรักษาสมดุลปุ๋ย การตอบสนองของข้าวโพดให้ปุ๋ยอย่างง่าย ใช้งานไม่ได้ประโยชน์ในเงื่อนไขการคืนผลตอบแทน ผลลัพธ์แนะนำส่วนที่การใช้ปุ๋ยอนินทรีย์อาจ ในระยะยาวรักษาคุณภาพของดินและการผลิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ศึกษาในด้านยาวการทดลองที่ริเริ่มขึ้นในปี 1939 ที่มหาวิทยาลัยพริทอเรียแอฟริกาใต้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาระยะยาวผลของ N และ K และ P โดยใส่ปุ๋ยตกค้างเคมีและสมบัติของดินและผลผลิตจากจุลินทรีย์ข้าวโพดในการหมุนด้วยทุ่งถั่ว การใช้ในระยะยาวมีผลทำให้ปริมาณอินทรีย์ C ( TOC ) และพื้นฐานในเนื้อหา และมีอิทธิพลในดินที่มีฤทธิ์เป็นกรด .ลดลงใน TOC ได้มากขึ้น ในปุ๋ยง่ายๆการรักษา ( N , P , K ) ส่วนเนื้อหาการขั้นพื้นฐานการรักษาสมดุล pH ลดลงมากในปุ๋ย( NPK ) ระดับไนโตรเจนสูงขึ้นในสมดุลในการรักษากว่าปุ๋ยอย่างง่าย มวลชีวภาพจุลินทรีย์ดินและจำนวนของแบคทีเรีย แอคติโนมัยซีท และเชื้อราได้รับอิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลง และมีคุณภาพการตอบสนองต่อ การใส่ปุ๋ยในระยะยาว การปลูกพืชหมุนเวียนยังนั่นเอง ผลทางเคมี และคุณสมบัติของจุลินทรีย์ดิน ข้าวโพดผลผลิตเพิ่มขึ้นเนื่องจากปุ๋ยเพื่อรักษาสมดุล การตอบสนองของข้าวโพดใช้งานง่ายไม่ต้องใส่ปุ๋ยที่เป็นประโยชน์ในแง่ของผลตอบแทนของผลผลิต ผลการศึกษาพบว่า สุขุมรอบคอบการใช้ปุ๋ยเคมี อาจ ใน ระยะยาวรักษาคุณภาพของดิน และผลผลิตศักยภาพ