To find the second 4, you must incr

To find the second 4, you must increment the position of the first 4. However, incrementing the
end() of a collection results in undefined behavior. Thus, if you are not sure, you should check the
return value of find() before you increment it. The program has the following output:
coll: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 1 2 3 4 5 6 7 8 9
4 5 6 7 8 9 1 2 3 4
You can call find() twice for the same range but with two different values. However, you have to
be careful to use the results as the beginning and the end of a subrange of elements; otherwise, the
subrange might not be valid. See Section 6.4.1, page 203, for a discussion of possible problems and
for an example.
The following example demonstrates how to use find_if() and find_if_not() to find elements
according to very different search criteria

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พบ 4 ที่สอง คุณต้องเพิ่มตำแหน่งของ 4 ครั้งแรก อย่างไรก็ตาม เพิ่ม the
end() ผลเรียกเก็บในลักษณะที่ไม่ได้กำหนด ดังนั้น ถ้าคุณไม่แน่ใจ คุณควรตรวจสอบการ
ส่งกลับค่าของ find() ก่อนที่คุณเพิ่มขึ้น โปรแกรมมีผลลัพธ์ต่อไปนี้:
coll: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 1 2 3 4 5 6 7 8 9
4 5 6 7 8 9 1 2 3 4
คุณสามารถโทรหา find() สองครั้ง สำหรับช่วงเดียวกัน แต่ มีค่าแตกต่างกันสอง อย่างไรก็ตาม คุณต้อง
ระมัดระวังการใช้ผลลัพธ์ที่เป็นจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของ subrange ขององค์ประกอบ มิฉะนั้น
subrange อาจไม่ถูกต้องได้ ดูส่วน 6.4.1 หน้า 203 สนทนาปัญหาไป และ
สำหรับตัวอย่างการ
ตัวอย่างต่อไปนี้สาธิตวิธีการใช้ find_if() และ find_if_not() เพื่อค้นหาองค์ประกอบ
ตามเงื่อนไขการค้นหาแตกต่างกันมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เพื่อหาที่สอง 4 คุณจะต้องเพิ่มตำแหน่งของแรก 4 แต่เพิ่มขึ้น
ในตอนท้าย () ผลการจัดเก็บในพฤติกรรมที่ไม่ได้กำหนด ดังนั้นหากคุณไม่แน่ใจว่าคุณควรตรวจสอบ
ค่าที่ส่งกลับของหา () ก่อนที่คุณจะเพิ่มขึ้นของมัน โปรแกรมที่มีการส่งออกต่อไปนี้
Coll: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 1 2 3 4 5 6 7 8 9
4 5 6 7 8 9 1 2 3 4
คุณสามารถโทรหา () สองครั้งสำหรับช่วงเดียวกัน แต่มี สองค่าที่แตกต่างกัน แต่คุณจะต้อง
ระมัดระวังในการใช้ผลเป็นจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของ subrange ขององค์ประกอบมิฉะนั้น
subrange อาจจะไม่ถูกต้อง ดูมาตรา 6.4.1, หน้า 203, สำหรับการอภิปรายของปัญหาที่เป็นไปและ
ตัวอย่างเช่น
ตัวอย่างต่อไปนี้แสดงให้เห็นถึงวิธีการใช้ find_if () และ find_if_not () เพื่อหาองค์ประกอบ
ตามเกณฑ์การค้นหาที่แตกต่างกันมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ค้นหาที่สอง 4 , คุณจะต้องเพิ่มตำแหน่งของแรก 4 อย่างไรก็ตาม incrementing
end() ของชุดผลลัพธ์ในพฤติกรรมไม่ได้กำหนด . ดังนั้น หากคุณไม่แน่ใจว่าคุณควรตรวจสอบ
คืนค่าของ find() ก่อนที่คุณเพิ่มมัน โปรแกรมการส่งออกต่อไปนี้ :
coll : 1 2 3 4 5 6 7 8 9 1 2 3 4 5 6 7 8 9
4 5 6 7 8 9 1 2 3 4
คุณสามารถเรียก find() สองครั้งในช่วงเดียวกัน แต่สองค่าที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม คุณต้อง
ระมัดระวังการใช้ผลเป็นจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของ subrange ขององค์ประกอบ ; อย่างอื่น ,
subrange อาจไม่สามารถใช้ได้ ดูส่วน 6.4.1 , หน้า 203 สำหรับการสนทนาของปัญหาที่เป็นไปได้และ

สำหรับตัวอย่างตัวอย่างต่อไปนี้แสดงให้เห็นถึงวิธีการใช้และ find_if() find_if_not() เพื่อค้นหาองค์ประกอบ
ตามเกณฑ์การค้นหาที่แตกต่างกันมาก