The first stage of Erik Erikson's t

The first stage of Erik Erikson's theory centers around the infant's basic needs being met by the parents and this interaction leading to trust or mistrust. Trust as defined by Erikson is "an essential truthfulness of others as well as a fundamental sense of one's own trustworthiness."[4] The infant depends on the parents, especially the mother, for sustenance and comfort. The child's relative understanding of world and society come from the parents and their interaction with the child. If the parents expose the child to warmth, regularity, and dependable affection, the infant's view of the world will be one of trust. Should the parents fail to provide a secure environment and to meet the child's basic needs; a sense of mistrust will result.[5] Development of mistrust can lead to feelings of frustration, suspicion, withdrawal, and a lack of confidence.[4]

According to Erik Erikson, the major developmental task in infancy is to learn whether or not other people, especially primary caregivers, regularly satisfy basic needs. If caregivers are consistent sources of food, comfort, and affection, an infant learns trust- that others are dependable and reliable. If they are neglectful, or perhaps even abusive, the infant instead learns mistrust- that the world is in an undependable, unpredictable, and possibly a dangerous place. While negative, having some experience with mistrust allows the infant to gain an understanding of what constitutes dangerous situations later in life.[5]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขั้นตอนแรกของ Erik Erikson ทฤษฎีศูนย์สถานของทารกความต้องพื้นฐานที่ตรงกับผู้ปกครองและการโต้ตอบนี้นำไปสู่ความน่าเชื่อถือหรือ mistrust ความน่าเชื่อถือตามที่กำหนด โดย Erikson เป็น "ความจำเป็นความของผู้อื่น" เป็นความรู้สึกพื้นฐานของตนเองน่าเชื่อถือ[4] เด็กทารกขึ้นอยู่กับผู้ปกครอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่ บวงสรวงและความสะดวกสบาย เด็กญาติเข้าใจโลกและสังคมมาจากการปฏิสัมพันธ์กับเด็กและผู้ปกครอง ถ้าผู้ปกครองเปิดเผยเด็กความอบอุ่น ความ และจิตที่เชื่อถือได้ มองโลกของเด็กจะเชื่อถืออย่างใดอย่างหนึ่ง ควรผู้ปกครองไม่ให้สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย และตอบสนองความต้องพื้นฐานของเด็ก; ความรู้สึกของ mistrust จะส่งผล[5] พัฒนา mistrust สามารถนำไปสู่ความรู้สึกของแห้ว ความสงสัย เพิกถอน การขาดความเชื่อมั่น และ[4]ตาม Erik Erikson งานพัฒนาสำคัญในวัยเด็กจะเรียนรู้ว่า คนอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักเรื้อรัง สนองความต้องการพื้นฐานเป็นประจำ ถ้าเรื้อรังเป็นแหล่งอาหาร สะดวกสบาย และจิตสอดคล้อง ทารกเรียนรู้ความน่าเชื่อถือ-ว่า คนอื่นจะเชื่อถือได้ และเชื่อถือได้ ถ้าพวกเขาละเลย หรือบางทีแม้แต่คำผรุสวาท เด็กทารกแทนรู้ mistrust-ที่โลกในการ undependable จึง และอาจเกิดอันตราย ขณะลบ มีประสบการณ์กับ mistrust ให้ทารกได้รับความเข้าใจถึงองค์ประกอบของสถานการณ์ในชีวิต[5]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เวทีแรกของศูนย์อีริค ริคสัน ๆทฤษฎีความต้องการพื้นฐานของทารกที่ถูกพบโดยพ่อแม่และปฏิสัมพันธ์นำไปสู่ความไว้วางใจหรือความไม่ไว้วางใจ . ความไว้วางใจเป็น กําหนดโดย อีริคสัน คือ " ความจริงของผู้อื่น ตลอดจนความรู้สึกพื้นฐานของหนึ่งของความน่าเชื่อถือ . " [ 4 ] ทารกขึ้นอยู่กับพ่อแม่ โดยเฉพาะแม่ เพื่อการยังชีพและความสะดวกสบายของเด็กเทียบความเข้าใจของโลกและสังคม ได้มาจากพ่อแม่ และการโต้ตอบกับเด็ก ถ้าพ่อแม่ให้เด็กไอ ความสม่ำเสมอ และความเชื่อถือของทารก มุมมองของโลกจะเป็นหนึ่งของความไว้วางใจ หากพ่อแม่ล้มเหลวเพื่อให้สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเพื่อตอบสนองความต้องการพื้นฐานของเด็ก ; ความรู้สึกของความหวาดระแวง จะส่งผลให้[ 5 ] การพัฒนาความสามารถนำไปสู่ความรู้สึกของแห้ว , สงสัย , ถอนเงิน และขาดความเชื่อมั่น . [ 4 ]

ตามเอริค อีริคสัน พัฒนกิจหลักในวัยทารกคือการเรียนรู้หรือไม่คนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ดูแลเป็นประจำตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐาน ถ้าผู้ดูแลมีแหล่งที่มาที่สอดคล้องกันของอาหาร ความสะดวกสบาย และความรักทารกเรียนรู้เชื่อ - ว่าคนอื่นจะเชื่อถือได้และเชื่อถือได้ ถ้าพวกเขาไม่สนใจ หรือบางทีอาจจะไม่เหมาะสม เด็กทารกแทนเรียนรู้ความ - ว่า โลกในการพึ่งพาไม่ได้ คาดเดาไม่ได้ และอาจเป็นสถานที่อันตราย ในขณะที่ลบ มีประสบการณ์กับความหวาดระแวง ช่วยให้ทารกที่จะได้รับความเข้าใจในสิ่งที่ถือว่าสถานการณ์อันตรายในภายหลังในชีวิต [ 5 ]