Buddhism for peaceThe vast WisaloIn

Buddhism for peace
The vast Wisalo
International Buddhist lectures in the seminar titled "Searching for a Bridge of Peace" held in Kyoto, Japan on August 3, 2548.
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -.

Peace is the dream of mankind for ages. However, the world is almost never free from war. When World War II finished first believed that the "war to end all wars" would bring peace. But then, just over two decades, World War 2, it occurred to washout of Germany and Japan, and the United Nations 60 years ago. Has generated hope throughout the world that peace is firmly established in the world. But then after a few years the world was faced with the Cold War. That lead to war and violence, large and small around the world. The Korean War Vietnam War And the war in Afghanistan The collectors are the nuclear weapons that could destroy the world several times. The collapse of the Soviet Union and the Berlin Wall. Create a new glimmer of hope in the peace and democracy. It is said that until the "End of History" was near, but just two years later only. It happened in the Yugoslav wars Followed by civil war in several countries. Yes, but only in the form of new violence has occurred. Terrorism is borderless. Which led to the war on terror. Afghanistan and Iraq is a battlefield full. Not the violence that caused the loss of many casualties in the world.

A century ago, the world seemed to lose thousands. Estimated that since 1900-1989, the year the war ended it. Deaths due to the war up to 86 million people, if the specifications after World War 2 (1945) till the year 1990 people died because of the war, 22 million people will still not count the dead because the hands of the self-48. million people (as happened in the days of Stalin's Russia and Mao China under the reign of Pol Pot in Cambodia) is most worrisome is that a hundred years ago a genocide occur. Jewish atrocities And the genocide in Rwanda Are just a few of the tragedy only in the 20th century.

Despite the new century War is not likely to abate. Currently, there are about one in eight of the countries involved in the war. Noted that while the war when most of the last century, wars between nations. But today, almost all wars are civil wars. This is the major reason why 90 percent of the victims in today's wars are civilians. As the casualties in the war, when 90 percent a century ago as a soldier.

The nature of war and victims of the war will change. A pattern discernible in the present war is. A story of conflict, ethnicity, religion, language and skin color to be more relevant. (As in opposition to the ideology has less influence) that at Rwanda, Somalia, Bosnia, Serbia, Croatia, Chechnya, Kashmir, Burma, Indonesia, Sri Lanka drugs such conflicts often lead to attempts to split the country. The consequences are severe retaliation from the party that dominates the state.

Conflicts on ethnic, religious, language and skin color have made the so-called identity politics that raise issues (politics of identity) became more prominent today. But that occur concurrently, it is making a "culture of hatred" has been very active up until now a large flow throughout the world. Such cultures are prevalent in many countries. And influence people at all levels, even the middle class and those who are illiterate.

Such cultures can be differences of ethnicity, religion, language and skin color, a line of people in the same country into two factions (the "us" versus "them") if the images to people on the other side. The line is a bad, selfish or unpatriotic despicable backwardness is less than human. There are behaviors that threaten "us" Often such cultures have relied on nationalism as a tool to motivate us to achieve integration, to resist and fight with one another when the two sides were encouraging a culture of hate. weigh more The result is more of enmity. And fall into the whirlpool of the conflict, which escalated the violence even more.

Culture of Peace
Peace is not in any degree. Not occur If the culture of hate spread widely. And penetrate deeply into the minds of people. Buddhism is a bridge of peace had remonstrated with the fight against the culture of hate. Whether any Buddhist sect (actually be said to be characteristic of all religions as well), focusing on the benevolence are not around. The kind that go beyond the boundaries of race, color, language, religion, and in view of Buddhism are all fellow human world. The co-occurrence of pain and death, yes, but only in the infinite round of existences we may never be parents, relatives are not a nation one already. (So to the ties of friendship and fraternity, this extends to animals too).

In addition, Clement then Buddhism also emphasizes the wit to reach the truth. The fact that the opposing hatred. Because hatred is based on misrepresentation. If you want to make people hate someone. You must render that person is bad as giant devil. The hatred then. We did not see him a

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พระพุทธศาสนาเพื่อสันติภาพWisalo มากมายชาวพุทธนานาชาติบรรยายในงานสัมมนาชื่อ "ค้นหาสำหรับตัวสะพานของสันติภาพ" จัดขึ้นในเกียวโต ญี่ปุ่นบน 3 สิงหาคม 2548- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -.สันติภาพเป็นความฝันของมนุษย์ทุกเพศทุกวัย อย่างไรก็ตาม โลกได้เกือบจะไม่ปลอดจากสงคราม เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองเสร็จก่อนเชื่อกันว่า "สงครามเพื่อยุติสงครามทั้งหมด" จะนำความสงบสุข แต่แล้ว เพียงสองทศวรรษ สงครามโลกที่ 2 ล้วนแล้วไปกวาดออกของเยอรมนี และญี่ปุ่น และสหประชาชาติเมื่อ 60 ปีที่ผ่านมา ได้สร้างความหวังทั่วโลกที่ได้สร้างสันติภาพอย่างมั่นคงในโลก แต่แล้ว หลังจากไม่กี่ปี โลกได้ประสบกับสงครามเย็น ที่นำไปสู่สงครามและความรุนแรง ขนาดใหญ่ และขนาดเล็กทั่วโลก ในสงครามเกาหลีสงครามเวียดนามและสงครามในอัฟกานิสถาน ที่สะสมกำลังอาวุธนิวเคลียร์ที่สามารถทำลายโลกได้หลายครั้ง การล่มสลายของสหภาพโซเวียตและกำแพงเบอร์ลิน สร้างประกายแห่งความหวังใหม่ในสันติภาพและประชาธิปไตย กล่าวถึง "จุดสิ้นสุดของประวัติศาสตร์" ที่ถูกใกล้ แต่เพียงสองปีเท่านั้นในภายหลัง จะเกิดขึ้นในสงครามยูโกสลาเวียเดิม Followed โดยสงครามกลางเมืองในหลายประเทศ ใช่ แต่เฉพาะในรูปแบบของความรุนแรงใหม่เกิด การก่อการร้ายแบบไร้ขอบได้ ซึ่งนำไปสู่สงครามการก่อการร้าย อัฟกานิสถานและอิรักเป็นสนามรบเต็มรูปแบบ ไม่ความรุนแรงที่เกิดจากการสูญเสียของคนจำนวนมากในโลก นี้ศตวรรษ โลกดูเหมือนจะ สูญเสียมากมาย ประเมินที่ตั้งแต่ 1900-1989 ปีที่สงครามสิ้นสุด เสียชีวิตจากสงครามค่า 86 ล้านคน ถ้าข้อกำหนดหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 (1945) จนถึงปี 1990 คนเสียชีวิตเนื่องจากสงคราม 22 ล้านคนจะยังไม่นับคนตายเพราะมือของตนเอง-48 ล้านคน (ตามที่เกิดขึ้นในสมัยของสตาลินของประเทศรัสเซียและจีนเหมาแห่งกรุง Pol หม้อในกัมพูชา) น่าวิตกอย่างยิ่งก็คือที่ เป็นร้อยปีที่ผ่านมาเกิดการพันธุฆาต ในยามสงครามยิวและพันธุฆาตในรวันดา ของโศกนาฎกรรมในศตวรรษ 20 เท่านั้นศตวรรษใหม่แม้มี สงครามไม่น่าร้า มีประมาณหนึ่งในแปดของประเทศเกี่ยวข้องในสงคราม สังเกตที่ในขณะที่สงครามเมื่อส่วนใหญ่ของศตวรรษที่ผ่านมา สงครามระหว่างประเทศ แต่วันนี้ สงครามเกือบทั้งหมดเป็นสงครามกลางเมือง นี่คือเหตุผลหลักที่ทำไม 90 เปอร์เซ็นต์ของผู้ประสบภัยสงครามวันนี้เป็นพลเรือน เป็นจำนวนคนตายในสงคราม เมื่อ 90 เปอร์เซ็นต์ศตวรรษเป็นทหารลักษณะของสงครามและผู้ประสบภัยของสงครามจะเปลี่ยนแปลง รูปแบบ discernible ในสงครามปัจจุบันได้ เรื่องราวของความขัดแย้ง เชื้อชาติ ศาสนา ภาษา และผิวสีให้มาก (ตามในอุดมการณ์มีอิทธิพลน้อย) ว่า ที่รวันดา โซมาเลีย เซอร์เบีย บอสเนีย โครเอเชีย Chechnya แคชเมียร์ พม่า อินโดนีเซีย ศรีลังกา drugs ความขัดแย้งดังกล่าวมักนำไปสู่ความพยายามที่จะแยกประเทศกัน ผลต่างอย่างรุนแรงจากฝ่ายที่กุมอำนาจรัฐได้ความขัดแย้งในชาติพันธุ์ ศาสนา ภาษา และผิวสีทำเมืองเรียกตัวที่เพิ่มปัญหา (ทางการเมืองของตน) กลายเป็นโดดเด่นมากวันนี้ แต่ที่เกิดขึ้นพร้อม มันคือการทำให้ "วัฒนธรรมของความเกลียดชัง" ได้ถูกใช้งานมากขึ้นจนถึงขณะนี้กระแสขนาดใหญ่ทั่วโลก วัฒนธรรมดังกล่าวจะแพร่หลายในหลายประเทศ และมีอิทธิพลต่อคนทุกระดับ แม้แต่ชนชั้นกลางและคน illiterateวัฒนธรรมเช่นความแตกต่างของเชื้อชาติ ศาสนา ภาษาและผิวสี สายของคนในประเทศเดียวกันเป็นสองฝ่าย ("เรา" กับ "พวกเขา") ถ้าเป็นรูปคนในด้านอื่น ๆ ได้ แผนร้าย เห็นแก่ตัว หรือ backwardness unpatriotic น่าชังเป็นมนุษย์น้อยกว่า มีลักษณะการทำงานว่า "เรา" Often วัฒนธรรมดังกล่าวได้อาศัยในชาตินิยมเป็นเครื่องมือในการจูงใจเพื่อให้การรวม การต่อต้าน และต่อสู้กันเมื่อทั้งสองฝั่งได้ส่งเสริมวัฒนธรรมของเกลียด น้ำหนักมากผลได้มากกว่าความเป็นปฏิปักษ์ และตกวนความขัดแย้ง การเลื่อนระดับความรุนแรงมากยิ่งขึ้นวัฒนธรรมของสันติภาพPeace is not in any degree. Not occur If the culture of hate spread widely. And penetrate deeply into the minds of people. Buddhism is a bridge of peace had remonstrated with the fight against the culture of hate. Whether any Buddhist sect (actually be said to be characteristic of all religions as well), focusing on the benevolence are not around. The kind that go beyond the boundaries of race, color, language, religion, and in view of Buddhism are all fellow human world. The co-occurrence of pain and death, yes, but only in the infinite round of existences we may never be parents, relatives are not a nation one already. (So to the ties of friendship and fraternity, this extends to animals too).In addition, Clement then Buddhism also emphasizes the wit to reach the truth. The fact that the opposing hatred. Because hatred is based on misrepresentation. If you want to make people hate someone. You must render that person is bad as giant devil. The hatred then. We did not see him a

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พุทธศาสนาเพื่อสันติภาพกว้างใหญ่ Wisalo นานาชาติพุทธบรรยายในการสัมมนาเรื่อง "การค้นหาสำหรับสะพานแห่งสันติภาพ" ที่จัดขึ้นในเกียวโตประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2548 - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -. สันติภาพเป็นความฝันของมนุษย์สำหรับทุกวัย แต่โลกที่แทบจะไม่เคยได้ฟรีจากสงคราม เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองเสร็จสิ้นเชื่อแรกที่ "สงครามที่จะยุติสงครามทั้งหมด" จะนำความสงบสุข แต่แล้วเพียงกว่าสองทศวรรษที่ผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 มันเกิดขึ้นกับการชะล้างของเยอรมนีและญี่ปุ่นและสหประชาชาติ 60 ปีที่ผ่านมา ได้สร้างความหวังทั่วโลกที่สงบสุขสถิตย์ในโลก แต่แล้วหลังจากนั้นไม่กี่ปีที่ผ่านมาโลกต้องเผชิญกับสงครามเย็น นำไปสู่สงครามและความรุนแรงขนาดใหญ่และเล็กทั่วโลก สงครามเกาหลีสงครามเวียดนามและสงครามในอัฟกานิสถานที่มีการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ที่สามารถทำลายโลกหลายต่อหลายครั้ง การล่มสลายของสหภาพโซเวียตและกำแพงเบอร์ลิน สร้างริบหรี่ใหม่แห่งความหวังในความสงบและความเป็นประชาธิปไตย มันบอกว่าจน "จุดจบของประวัติศาสตร์" อยู่ใกล้ แต่เพียงสองปีต่อมาเท่านั้น มันเกิดขึ้นในสงครามยูโกสลาเวียตามด้วยสงครามกลางเมืองในหลายประเทศ ใช่ แต่เฉพาะในรูปแบบของความรุนแรงใหม่ได้เกิดขึ้น การก่อการร้ายที่ไร้พรมแดน ซึ่งนำไปสู่สงครามที่น่ากลัว อัฟกานิสถานและอิรักเป็นสนามรบเต็ม ไม่ใช้ความรุนแรงที่ก่อให้เกิดการสูญเสียของการบาดเจ็บล้มตายจำนวนมากในโลก. ศตวรรษที่ผ่านมาโลกดูเหมือนจะสูญเสียอย่างมากมาย ประมาณว่าตั้งแต่ 1900-1989 ปีสงครามสิ้นสุดลงมัน เสียชีวิตเนื่องจากสงครามขึ้นถึง 86 ล้านคนถ้าข้อกำหนดหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 (1945) จนถึงปี 1990 คนตายเพราะสงคราม 22 ล้านคนจะยังคงไม่นับคนตายเพราะมือของตัวเอง 48 ล้านคน (ที่เกิดขึ้นในสมัยของสตาลินของรัสเซียและเหมาจีนภายใต้การปกครองของซ้ำร้ายในประเทศกัมพูชา) เป็นที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือร้อยปีที่ผ่านมาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เกิดขึ้น สังหารโหดชาวยิวและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในรวันดาเป็นเพียงไม่กี่ของโศกนาฏกรรมเฉพาะในศตวรรษที่ 20. แม้จะมีสงครามศตวรรษใหม่ไม่น่าจะลดน้อยลง ปัจจุบันมีประมาณหนึ่งในแปดของประเทศมีส่วนร่วมในสงคราม ตั้งข้อสังเกตว่าในขณะที่สงครามเมื่อที่สุดของศตวรรษที่ผ่านมาสงครามระหว่างประเทศ แต่วันนี้สงครามเกือบทั้งหมดเป็นสงครามกลางเมือง นี่คือเหตุผลสำคัญว่าทำไมร้อยละ 90 ของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อในสงครามในวันนี้เป็นพลเรือน ในฐานะที่เป็นผู้เสียชีวิตในสงครามเมื่อ 90 เปอร์เซ็นต์ศตวรรษที่ผ่านมาเป็นทหาร. ธรรมชาติของสงครามและตกเป็นเหยื่อของสงครามจะมีการเปลี่ยนแปลง รูปแบบที่มองเห็นได้ในสงครามในปัจจุบันคือ เรื่องราวของความขัดแย้งเชื้อชาติศาสนาภาษาและสีผิวที่จะเป็นที่เกี่ยวข้องมากขึ้น (ในขณะที่ความขัดแย้งกับอุดมการณ์มีอิทธิพลน้อยกว่า) ว่าในรวันดาโซมาเลีย, บอสเนีย, เซอร์เบีย, โครเอเชีย, เชชเนียแคชเมียร์พม่าอินโดนีเซียศรีลังกายาเสพติดความขัดแย้งดังกล่าวมักจะนำไปสู่ความพยายามที่จะแยกประเทศ ผลที่ตามมาจะมีการตอบโต้อย่างรุนแรงจากบุคคลที่กุมอำนาจรัฐ. the ความขัดแย้งในเชื้อชาติศาสนาภาษาและสีผิวได้ทำเอกลักษณ์การเมืองที่เรียกว่าที่ยกประเด็น (การเมืองของตัวตน) กลายเป็นที่โดดเด่นมากขึ้นในปัจจุบัน แต่ที่เกิดขึ้นควบคู่กันไปก็คือการทำให้ "วัฒนธรรมของความเกลียดชัง" ได้รับการใช้งานมากขึ้นจนถึงขณะนี้การไหลขนาดใหญ่ทั่วโลก วัฒนธรรมดังกล่าวเป็นที่แพร่หลายในหลายประเทศ และมีอิทธิพลต่อคนในทุกระดับแม้แต่ระดับกลางและผู้ที่มีการศึกษา. วัฒนธรรมดังกล่าวสามารถมีความแตกต่างของเชื้อชาติศาสนาภาษาและสีผิวของเส้นของผู้คนในประเทศเดียวกันออกเป็นสองฝ่าย (ที่ "เรา" กับ " พวกเขา ") ถ้าภาพกับคนในด้านอื่น ๆ สายเป็นที่ไม่ดีล้าหลังเห็นแก่ตัวน่ารังเกียจหรือไม่รักชาติน้อยกว่ามนุษย์ มีพฤติกรรมที่เป็นภัยคุกคามต่อ "พวกเรา" บ่อยครั้งที่วัฒนธรรมดังกล่าวได้อาศัยชาตินิยมเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นให้เราเพื่อให้บรรลุบูรณาการที่จะต่อต้านและต่อสู้กับอีกคนหนึ่งเมื่อทั้งสองฝ่ายได้รับการส่งเสริมให้วัฒนธรรมของความเกลียดชังเป็น น้ำหนักมากขึ้นผลที่มีมากขึ้นของความเป็นปฏิปักษ์ และตกอยู่ในวังวนของความขัดแย้งที่เพิ่มความรุนแรงมากยิ่งขึ้น. วัฒนธรรมแห่งสันติภาพสันติภาพไม่ได้อยู่ในระดับใด ไม่เกิดขึ้นถ้าวัฒนธรรมของความเกลียดชังแพร่กระจายอย่างกว้างขวาง และเจาะลึกลงไปในจิตใจของคน พุทธศาสนาเป็นสะพานของความสงบสุขได้ทัดทานกับการต่อสู้กับวัฒนธรรมของความเกลียดชังที่ ไม่ว่าจะเป็นศาสนาพุทธนิกายใด ๆ (ที่จริงจะกล่าวว่าเป็นลักษณะของทุกศาสนาเช่นกัน) โดยมุ่งเน้นที่ความเมตตากรุณาที่มีไม่ได้รอบ ชนิดที่นอกเหนือไปจากขอบเขตของเชื้อชาติสีผิวภาษาศาสนาและในมุมมองของพุทธศาสนาโลกมนุษย์ทั้งหมดเพื่อน ร่วมเกิดความเจ็บปวดและความตายใช่ แต่เพียงในรอบไม่มีที่สิ้นสุดของการดำรงชีวิตของเราอาจจะไม่เคยเป็นพ่อแม่ญาติไม่ได้หนึ่งในประเทศแล้ว (ดังนั้นเพื่อความสัมพันธ์ของมิตรภาพและความเป็นพี่น้องนี้ขยายไปถึงสัตว์ด้วย). นอกจากนี้ผ่อนผันแล้วพุทธศาสนายังเน้นปัญญาที่จะเข้าถึงความจริง ความจริงที่ว่าความเกลียดชังฝ่ายตรงข้าม เพราะความเกลียดชังจะขึ้นอยู่กับการบิดเบือนความจริง ถ้าคุณต้องการที่จะทำให้คนเกลียดคน คุณต้องทำให้คนที่ไม่ดีเป็นยักษ์มาร ความเกลียดชังนั้น เราไม่เห็นเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พระพุทธศาสนาเพื่อสันติภาพ

มากมาย wisalo ชาวพุทธนานาชาติ บรรยายในงานสัมมนา เรื่อง " การค้นหาสะพานแห่งสันติภาพ " ที่จัดขึ้นที่ เกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2548 .
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

สันติภาพเป็นความฝันของมนุษย์ทุกเพศทุกวัย อย่างไรก็ตาม โลกแทบจะไม่เคยว่างจากสงครามเมื่อสงครามโลกครั้งที่สองเสร็จสิ้นก่อน เชื่อว่า " สงครามเพื่อยุติสงคราม " จะนำมาซึ่งสันติภาพ แต่แล้วเพียงกว่าสองทศวรรษ สงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เกิดขึ้นกับความล้มเหลวโดยสิ้นเชิงของเยอรมนีและญี่ปุ่น และสหประชาชาติ 60 ปีที่ผ่านมา ได้สร้างความหวังทั่วโลกที่สงบ มั่นคง ใน โลก แต่หลังจากนั้นไม่กี่ปี โลกได้เผชิญกับสงครามเย็นที่นำไปสู่สงครามและความรุนแรง ขนาดใหญ่ และขนาดเล็กทั่วโลก สงครามเกาหลีสงครามเวียดนาม และสงครามในอัฟกานิสถาน สะสมเป็นอาวุธที่สามารถทำลายโลกได้หลายๆ ครั้ง การล่มสลายของสหภาพโซเวียต และกำแพงเบอร์ลิน สร้างชาติใหม่แห่งความหวังในสันติภาพและประชาธิปไตย มันบอกว่า จนกว่า " สิ้นสุดของประวัติศาสตร์ " อยู่แค่เอื้อม แต่เพียงสองปีเท่านั้นมันเกิดขึ้นในสงครามยูโกสลาเวียตามด้วยสงครามกลางเมืองในหลายประเทศ ใช่ แต่เพียงในรูปแบบของความรุนแรงใหม่เกิดขึ้น การก่อการร้ายแบบไร้ขอบ ซึ่งนำไปสู่สงครามกับการก่อการร้าย อัฟกานิสถานและอิรักเป็นสนามรบเต็ม ไม่ใช้ความรุนแรงที่ทำให้เกิดการสูญเสียมากมายล้มตายในโลก

ศตวรรษที่ผ่านมา โลกดูเหมือนจะสูญพัน ประมาณว่า ตั้งแต่ 1900-1989 ,ปีสงครามสิ้นสุดแล้ว เสียชีวิตเนื่องจากสงครามได้ถึง 86 ล้านคน ถ้ากำหนดหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ( ค.ศ. 1945 ) จนถึงปี 1990 คนเสียชีวิตเพราะสงคราม 22 ล้านคน ยังไม่นับศพ เพราะมือของ self-48 .ล้านคน ( เกิดขึ้นในสมัยสตาลินรัสเซียและจีนภายใต้การปกครองของเหมาพตในกัมพูชา ) น่าเป็นห่วงที่สุด คือ เมื่อร้อยปีก่อนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เกิดขึ้น คนยิวและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในรวันดาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของโศกนาฏกรรมในศตวรรษที่ 20 .

แม้จะมีสงครามศตวรรษใหม่ที่ไม่อาจบรรเทา ในปัจจุบันมีประมาณหนึ่งในแปดของประเทศที่เกี่ยวข้องกับสงคราม กล่าวว่าในขณะที่ส่วนใหญ่ของสงครามเมื่อศตวรรษที่แล้ว สงครามระหว่างประชาชาติ แต่ในวันนี้สงครามเกือบทั้งหมดเป็นสงครามกลางเมือง นี้เป็นเหตุผลหลักที่ทำไมถึง 90 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อในสงครามของวันนี้เป็นพลเรือน เป็นผู้เสียชีวิตในสงครามเมื่อศตวรรษที่ผ่านมา 90 เปอร์เซ็นต์เป็นทหาร . . .

ธรรมชาติของสงครามและเหยื่อของสงครามจะเปลี่ยนไป ลวดลาย discernible ในสงครามปัจจุบันคืออะไร เรื่องราวของความขัดแย้งของเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา และสีผิวจะเกี่ยวข้องมากขึ้น ( เช่นในการต่อต้านลัทธิที่มีอิทธิพลน้อยกว่า ) ว่าในรวันดา , โซมาเลีย , บอสเนีย , เซอร์เบีย , โครเอเชีย , เชชเนีย , แคชเมียร์ , พม่า , อินโดนีเซียศรีลังกายาเสพติดความขัดแย้งดังกล่าวมักจะทำให้ความพยายามที่จะแยกประเทศ ผลที่ตามมาจะรุนแรงตอบโต้จากพรรคที่ครอบงำรัฐ

ความขัดแย้งในเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา และสีผิวได้เรียกว่าเอกลักษณ์การเมือง ที่ยกประเด็นการเมืองของตน ) กลายเป็นที่โดดเด่นมากขึ้นในวันนี้ แต่ที่เกิดขึ้นขณะนี้มันคือการสร้าง " วัฒนธรรมแห่งความเกลียดชัง " ได้ถูกใช้งานมากจนตอนนี้ไหลขนาดใหญ่ทั่วโลก วัฒนธรรมดังกล่าวแพร่หลายในหลายประเทศ และคนอิทธิพลในทุกระดับ แม้แต่ชนชั้นกลางและผู้ที่ไม่รู้หนังสือ

เช่นวัฒนธรรมสามารถความแตกต่างของเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา และสีผิวสายของคนในประเทศเดียวกันออกเป็นสองกลุ่ม ( " เรา " กับ " เขา " ) ถ้าภาพบุคคลในด้านอื่น ๆ บรรทัดเป็นเลว เห็นแก่ตัว หรือ ไม่รักชาติเลวทรามความล้าหลังน้อยกว่ามนุษย์ มีพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อเรา เช่น วัฒนธรรมมักจะมี relied บนชาตินิยม เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นให้เราเพื่อให้บรรลุการรวมในการต่อต้านและต่อสู้กับคนอื่น เมื่อทั้งสองฝ่ายมีการส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความเกลียดชัง หนักมากขึ้นผลของความเป็นศัตรู และตกอยู่ในวังวนของความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น


วัฒนธรรมแห่งสันติภาพ สันติภาพไม่ใช่ในระดับ ไม่เกิดขึ้นถ้าวัฒนธรรมแห่งความเกลียดชังแพร่กระจายอย่างกว้างขวาง และเจาะลึกลงไปในจิตใจของคนพระพุทธศาสนาเป็นสะพานแห่งสันติภาพได้ remonstrated กับการต่อสู้กับวัฒนธรรมแห่งความเกลียดชัง ไม่ว่าจะเป็นพุทธนิกายใด ๆ ( ที่จริงต้องบอกว่าเป็นลักษณะของทุกศาสนาเช่นกัน ) โดยมุ่งเน้นที่ความเมตตากรุณาไม่ประมาณ ประเภทที่ไปเกินขอบเขตของเชื้อชาติ สีผิว ภาษา ศาสนา และในมุมมองของพุทธศาสนามีเพื่อนในโลกมนุษย์ ส่วนการเจ็บและตาย ครับแต่ในรอบอนันต์ของไม่ตั้งใจเราอาจไม่เคยเป็นพ่อแม่ ญาติพี่น้อง เป็นชาติหนึ่งแล้ว ( ดังนั้น ความผูกพัน มิตรภาพ และสมาคมนี้ขยายไปถึงสัตว์ด้วย )

นอกจากนี้ คลีเมนต์ ศาสนาพุทธเน้นปัญญาเข้าถึงความจริง ความจริงที่ว่าฝ่ายตรงข้ามความเกลียดชัง เพราะความเกลียดชังจะขึ้นอยู่กับการเป็นตัวอย่างที่ผิด ถ้าคุณต้องการที่จะทำให้คนเกลียดใครบางคนคุณต้องให้เขาเป็นเลวเป็นปีศาจยักษ์ ความเกลียดชังแล้ว เราไม่ได้เจอเขา