Japanese Non-Verbal CommunicationSi

Japanese Non-Verbal Communication

Since the Japanese strive for harmony and are group dependent, they rely on facial expression, tone of voice and posture to tell them what someone feels.
They often trust non-verbal messages more than the spoken word as words can have several meanings.
The context in which something is said affects the meaning of the words. Therefore, it is imperative to understand the situation to fully appreciate the response.
Frowning while someone is speaking is interpreted as a sign of disagreement.
Most Japanese maintain an impassive expression when speaking.
Expressions to watch out for include inhaling through clenched teeth, tilting the head, scratching the back of the head, and scratching the eyebrow.
Non-verbal communication is so vital that there is a book for 'gaijins' (foreigners) on how to interpret the signs!
It is considered disrespectful to stare into another person's eyes, particularly those of a person who is senior to you because of age or status.
In crowded situations the Japanese avoid eye contact to give themselves privacy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ญี่ปุ่นไม่ใช่คำพูดสื่อสารเนื่องจากญี่ปุ่นมุ่งมั่นในความสามัคคี และจะขึ้นอยู่กับกลุ่ม พวกเขาพึ่งสีหน้า โทนเสียงและท่าทางเพื่อบอกให้คนรู้สึกพวกเขามักจะเชื่อถือมากกว่าคำพูดเป็นคำได้ความหมายหลายข้อไม่ใช่คำพูดบริบทซึ่งสิ่งที่จะกล่าวว่า มีผลต่อความหมายของคำ ดังนั้น จึงเป็นความจำเป็นเพื่อให้เข้าใจสถานการณ์เพื่อชื่นชมการตอบสนองFrowning ในขณะที่คนพูดจะถูกแปลงเป็นความกันญี่ปุ่นส่วนใหญ่รักษานิพจน์เฉย ๆ เมื่อพูดนิพจน์จ้องมีดมผ่านฟันกัด เอียงหัว เกาหลังของหัว และเกาคิ้วไม่ใช่คำพูดสื่อสารเป็นสำคัญนั้นว่า มีหนังสือสำหรับ 'gaijins' (ชาวต่างชาติ) วิธีการแปลสัญญาณก็ถือว่าหยาบคายของจ้องเข้าไปในตาของผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาผู้อาวุโสคุณเนื่องจากอายุหรือสถานะการในสถานการณ์ที่คน ญี่ปุ่นหลีกเลี่ยงตาให้ตัวเองความเป็นส่วนตัว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ญี่ปุ่นที่ไม่ใช่คำพูดการสื่อสารตั้งแต่ญี่ปุ่นมุ่งมั่นเพื่อความสามัคคีและเป็นกลุ่มขึ้นอยู่กับพวกเขาพึ่งพาการแสดงออกทางสีหน้าน้ำเสียงและท่าทางจะบอกพวกเขาสิ่งที่คนรู้สึก. พวกเขามักจะไว้วางใจข้อความที่ไม่ใช่คำพูดมากกว่าคำพูดเป็นคำที่มีความสามารถ หลายความหมาย. บริบทที่บางสิ่งบางอย่างที่จะกล่าวว่ามีผลกระทบต่อความหมายของคำ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่ขอบคุณการตอบสนอง. มุ่ยในขณะที่มีคนพูดถูกตีความว่าเป็นสัญญาณของความขัดแย้ง. ญี่ปุ่นส่วนใหญ่รักษาแสดงออกเฉย ๆ เมื่อพูด. นิพจน์ที่ต้องระวัง ได้แก่ การสูดดมผ่านฟัน clenched เอียง หัวเกาหลังของศีรษะและเกาคิ้ว. การสื่อสารที่ไม่ใช่คำพูดจึงมีความสำคัญที่มีหนังสือสำหรับ 'Gaijins' (ชาวต่างชาติ) เกี่ยวกับวิธีการที่จะตีความสัญญาณ! ก็ถือว่าไม่สุภาพกับจ้องมองเข้าไปในดวงตาของบุคคลอื่น โดยเฉพาะคนที่เป็นผู้บริหารระดับสูงให้กับคุณเพราะอายุหรือสถานะ. ในสถานการณ์ที่แออัดหลีกเลี่ยงการสัมผัสตาญี่ปุ่นที่จะให้ตัวเองเป็นส่วนตัว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ภาษาญี่ปุ่นสื่อสารด้วยวาจา

ตั้งแต่ญี่ปุ่นมุ่งมั่นสามัคคีและกลุ่มตัวแปรที่พวกเขาพึ่งพาสีหน้า น้ำเสียง และท่าทางเพื่อบอกสิ่งที่คนอื่นรู้สึก .
พวกเขามักจะเชื่ออวัจนข้อความมากกว่าคำพูดเป็นคำที่สามารถมีความหมายหลาย
บริบทที่เป็นสิ่งที่บอกว่ามีผลต่อความหมาย ของคำ ดังนั้นมันเป็นสิ่งจำเป็นที่จะเข้าใจสถานการณ์อย่างเต็มที่ขอบคุณการตอบสนอง ในขณะที่บางคนพูด
มุ่ยตีความเป็นสัญญาณของความขัดแย้ง คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่รักษาสีหน้าเฉยๆ

เวลาพูด สีหน้าดูออกรวมถึงสูดดมผ่านฟันแน่น เอียงหัว เกาหัวและเกาคิ้ว .
สื่อสารด้วยวาจาเป็นสำคัญว่ามีหนังสือ ' gaijins ' ( ชาวต่างชาติ ) ในการตีความสัญลักษณ์
ก็ถือว่าไม่สุภาพที่จะจ้องมองเข้าไปในดวงตาของบุคคลอื่น โดยเฉพาะของคนที่อายุมากกว่าคุณ เพราะอายุหรือสถานะ .
ในสถานการณ์ที่แออัด ญี่ปุ่น หลีกเลี่ยงการสบตา เพื่อให้ตนเองมีความเป็นส่วนตัว