In keeping with the plan of the fir

In keeping with the plan of the first edition, the more difficult subjects are segregated at the terminations
of each chapter, so that they need not be assigned if the book is to be used for a beginning course.
The writer is pleased to acknowledge his indebtedness to a large number of friends for valuable
suggestions as to improvements in exposition grammar, arithmetic, and algebra. Some of the most
obvious errors in the first edition have been corrected.
Especial thanks are owing J. R. Pellam, who has expended much time and effort in checking the
manuscript and mathematics, and to Dr. Cyril Harris for his many helpful suggestions concerning subject
matter.
Philip M. Morse
Upton, N.Y., January, 1948
Preface to the First Edition
The following book on the theory of vibrations and sound is intended primarily as a textbook for students
of physics and of communications engineering. After teaching the introductory course in this subject at
the Massachusetts Institute of Technology for several years, the author has become persuaded that
there is need for a new textbook in the field.
There are, of course, many other books on the theory of sound. The author's excuse for adding another
to the list is that in the past ten years the rapid growth of atomic physics has induced a complete
reorganization of the science of acoustics. The vacuum tube and the other applications of electronics
have provided immensely powerful tools for the measurement, recording, and reproduction of sound;
tools which have revolutionized acoustic technique. Another useful tool, perhaps not so obvious, is the
new mathematical technique which has been developed for the working out of quantum mechanics, and
which is capable of throwing light on all problems of wave theory. The last chapter of this book is an
example of the utility o these methods. In it the mathematical methods developed for the study of the
radiation of light from an atom are applied to the theory of the acoustic properties of rooms.
During the recent rapid change in the science of sound, certain parts of the subject have gained and
other parts have lost importance. The present book attempts to follow this change in emphasis and to
discuss the new development as well as those portions of the older theory which are still important.
The book has been planned as a textbook with a twofold aim in view. The first aim, of course, is to give
the student a general introduction to the theory of vibration and sound. An introductory course in this
subject must of necessity be more theoretical than practical. In no other branch of physics are the
fundamental measurements so hard to perform, and the theory relatively so simple; and in few other
branches are the experimental methods so dependent on a thorough knowledge of theory. Since this is
so, the student must first be given a physical picture of the fundamental theory of the vibration of solid
bodies and the propagation of sound waves before he can appreciate the techniques used in the
measurements of sound, and before he can begin to design acoustical apparatus.
The second aim is to give the student a series of examples of the method of theoretical physics; the way
a theoretical physicist attacks a problem and how he finds its solution. This subject is too often
neglected, especially in engineering courses. The student is usually given a series of formulas to use in
standardized cases, the formulas sometimes introduced by a cursory derivation and sometimes with no
derivation at all. After such a course the student is capable of using the formulas on standard problems,
but he is unable to devise a new formula to use in unusual cases.
In this book the author has tried to derive every formula from the fundamental laws of physics (there are
a few exceptions to this procedure) and to show in some detail the steps in these derivations and their
logical necessity. This does not mean that the mathematical machinery is given in excessive detail, but
that the steps in the physical reasoning are brought out. Often generality and mathematical rigor have
been sacrificed to make the chain of logic more distinct. It has been the author's experience that once
the student can grasp the physical picture behind a mathematical derivation, he can himself add what
extra generality and rigor he may need. Often, too, the author has supplemented or replaced the rigid
and esoteric technical vocabulary by more colloquial phrases, in order to make vivid a concept, or to
suggest a new point of view.
It is assumed that the student ha a thorough knowledge of calculus, and some acquaintance with the
fundamental laws of mechanics. A knowledge of differential equations is helpful but is not necessary, for
the solutions of the various differential equations encountered are worked out in the text. Tables of the
functions used are given in the back of the book.
Although the book is designed primarily as a textbook, a certain amount of material of an advanced
nature has been introduced. In this way, it is hoped, the volume will be useful as a fairly complete
reference work for those parts of the theory of sound which seem at present to be most important for the
acoustical scientist. The advanced material has been included in the form of extra sections placed at the
end of various chapters. The instructor may assign the first few sections of these chapters for the
introductory course, ad the student may refer to the other sections for further details when he needs
them.
The author wishes to express his gratitude to Professor R.D. Fay and to Dr. W. M. Hall, whose help in
choosing subject matter and methods of presentation has been invaluable. He is also indebted to Dr. J.B.
Fisk for his willing and painstaking aid in correcting proof, and to many other colleagues in the
Department of Physics at the Massachusetts Institute of Technology, for their many helpful suggestions.
Philip M. Morse
Cambridge, Mass., August, 1936

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เพื่อแผนของรุ่นแรก แยกเรื่องยากที่จะเลิกจ้างของแต่ละบท เพื่อให้พวกเขาต้องไม่กำหนดว่าหนังสือที่จะใช้สำหรับหลักสูตรเริ่มต้นผู้เขียนมีความยินดีที่จะยอมรับข้าวแดงแกงร้อนของเขากับของเพื่อนค่ะคำแนะนำเพื่อปรับปรุงในนิทรรศการไวยากรณ์ คณิตศาสตร์ และพีชคณิต บางสุดได้รับการแก้ไขข้อผิดพลาดที่เห็นได้ชัดในรุ่นแรกขอบคุณเฉพาะกระทู้ owing J. R. Pellam ที่มีการใช้จ่ายมากเวลาและความพยายามในการตรวจสอบการฉบับและคณิตศาสตร์ และดร. Cyril แฮสำหรับเขามากประโยชน์คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องเรื่องฟิลิปม.มอร์สUpton, N.Y. มกราคม 1948Preface รุ่นแรกหนังสือต่อไปนี้ในทฤษฎีของเสียงและการสั่นสะเทือนมีไว้เป็นหนังสือเป็นหลักสำหรับนักเรียนฟิสิกส์ และวิศวกรรมสื่อสาร หลังจากการสอนหลักสูตรภาษาในเรื่องนี้ที่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์หลายปี ผู้เขียนได้กลายเป็นเกลี้ยกล่อมที่หนังสือใหม่ในฟิลด์จำเป็นได้ แน่นอน หนังสืออื่น ๆ ในทฤษฎีของเสียง ของผู้เขียนแก้เพิ่มอีกในรายการไม่ว่า ในช่วงสิบปี การเติบโตอย่างรวดเร็วของอะตอมฟิสิกส์ได้เกิดความสมบูรณ์ลูกจ้างของศาสตร์เปลือง โปรแกรมประยุกต์อื่นของอิเล็กทรอนิกส์และหลอดสุญญากาศได้จัดเตรียมเครื่องมือประสิทธิภาพอย่างกว้างขวางการประเมิน บันทึก และการผลิตซ้ำเสียงเครื่องมือที่มี revolutionized เทคนิคอะคูสติก ประโยชน์เครื่องมืออื่น บางทีอาจให้ชัดเจน มีการเทคนิคทางคณิตศาสตร์ใหม่ที่ได้รับการพัฒนาสำหรับการทำงานจากควอนตัม และซึ่งมีความสามารถในการขว้างปาแสงในทุกปัญหาของทฤษฎีคลื่น บทสุดท้ายของหนังสือเล่มนี้เป็นการตัวอย่างของโอยูทิลิตี้วิธีการเหล่านี้ ใน วิธีการทางคณิตศาสตร์ที่พัฒนาสำหรับการศึกษารังสีของแสงจากอะตอมใช้กับทฤษฎีของคุณสมบัติระดับของห้องในระหว่างการเปลี่ยนอย่างรวดเร็วล่าสุดในวิทยาศาสตร์เสียง บางส่วนของเรื่องได้รับ และส่วนอื่น ๆ ได้สูญเสียความสำคัญ หนังสือปัจจุบันพยายามทำตามนี้การเปลี่ยนแปลง ในความสำคัญ และหารือเกี่ยวกับการพัฒนาใหม่เป็นเหล่านั้นบางส่วนของทฤษฎีเก่าซึ่งยังหนังสือมีการวางแผนเป็นหนังสือที่มีจุดมุ่งหมายเป็นสองเท่าในมุมมอง จุดมุ่งหมายแรก แน่นอน เป็นการ ให้นักเรียนแนะนำทั่วไปทฤษฎีการสั่นสะเทือนและเสียง มีหลักสูตรภาษาในเรื่องของความจำเป็นต้องมากกว่าทฤษฎีมากกว่าทางปฏิบัติ ในสาขาอื่น ๆ ไม่มีฟิสิกส์ดังนั้นยากที่จะทำการประเมินพื้นฐาน และทฤษฎีค่อนข้างง่ายมาก และ ในไม่กี่อื่น ๆสาขาดังนั้นขึ้นอยู่กับความรู้อย่างละเอียดในทฤษฎีวิธีการทดลอง เนื่องจากเป็นดังนั้น นักเรียนครั้งแรกให้ภาพจริงของทฤษฎีพื้นฐานของการสั่นสะเทือนของของแข็งร่างกายและการแพร่กระจายของคลื่นเสียงก่อนที่เขาสามารถชื่นชมเทคนิคที่ใช้ในการการวัดเสียง และ ก่อนที่เขาจะเริ่มการออกแบบเครื่อง acousticalจุดมุ่งหมายที่สองคือการ ให้นักเรียนของตัวอย่างของวิธีการทฤษฎีฟิสิกส์ วิธีการphysicist ทฤษฎีโจมตีปัญหาและวิธีที่เขาค้นหาโซลูชันของ เรื่องนี้เป็นบ่อยเกินไปที่ไม่มีกิจกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวิศวกรรมหลักสูตร นักเรียนมักจะได้รับชุดของสูตรที่ใช้ในกรณีมาตรฐาน สูตรบางครั้งนำมาเผิน ๆ และบางครั้งมีมาทั้งหมด หลังจากหลักสูตรนักเรียนมีความสามารถในการใช้สูตรในปัญหามาตรฐานแต่เขาไม่สามารถประดิษฐ์สูตรใหม่เพื่อใช้ในกรณีที่ผิดปกติในหนังสือเล่มนี้ ผู้เขียนได้พยายามมาทุกสูตรจากกฎหมายพื้นฐานของฟิสิกส์ (มีกี่ข้อยกเว้นขั้นตอนนี้) และ จะแสดงในรายละเอียดบางตอนในรากศัพท์เหล่านี้ และของพวกเขาความจำเป็นทางตรรกะ นี้ไม่ได้หมายความ ว่า เครื่องจักรทางคณิตศาสตร์ได้ในรายละเอียดมากเกินไป แต่ว่า ขั้นตอนในการใช้เหตุผลทางกายภาพที่นำออก มัก generality rigor คณิตศาสตร์มีการเสียสละการทำห่วงโซ่ของตรรกะที่แตกต่างกันมาก แล้วครั้งที่ประสบการณ์ของผู้เขียนนักเรียนสามารถเข้าใจภาพจริงหลังมาทางคณิตศาสตร์ เขาสามารถเองเพิ่มอะไรgenerality เสริมและ rigor เขาอาจจำเป็น มักจะ เกินไป ผู้เขียนเสริม หรือแทนจะแข็งและลึกลับศัพท์ วลีภาษามากขึ้น เพื่อให้สดใสแนวคิด หรือการแนะนำมุมมองของจุดใหม่จะถือว่าเป็นที่นักเรียนหา ความรู้แคลคูลัสอย่างละเอียด และบางความใกล้ชิดกับกฎพื้นฐานของกลศาสตร์ สมการเชิงอนุพันธ์ความรู้เป็นประโยชน์ แต่ไม่จำเป็นต้องการแก้สมการเชิงอนุพันธ์ต่าง ๆ ที่พบจะทำงานออกในข้อ ตารางฟังก์ชันที่ใช้ได้ด้านหลังของหนังสือแม้ว่าหนังสือเล่มนี้ถูกออกแบบมาเป็นหนังสือ ปริมาณวัสดุของขั้นสูงเป็นหลักธรรมชาติได้รับการแนะนำ ด้วยวิธีนี้ หวัง ไดรฟ์ข้อมูลจะเป็นประโยชน์เป็นที่ค่อนข้างสมบูรณ์งานในส่วนดังกล่าวของทฤษฎีของเสียงซึ่งดูเหมือนปัจจุบันจะสำคัญที่สุดสำหรับการอ้างอิงวิทยาศาสตร์ acoustical วัสดุขั้นสูงถูกรวมไว้ในแบบฟอร์มส่วนเพิ่มอยู่ที่การตอนท้ายของบทต่าง ๆ ผู้สอนอาจกำหนดสองสามส่วนแรกของบทนี้สำหรับการหลักสูตรภาษา โฆษณานักเรียนอาจหมายถึงส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมเมื่อต้องพวกเขาผู้เขียนประสงค์จะแสดงความกตัญญูของเขาศาสตราจารย์ R.D. Fay และดร. W. M. Hall ซึ่งช่วยในการเลือกเรื่องและวิธีนำเสนอมีประโยชน์อย่างยิ่ง เขาเป็นถึงดร.หรรษาFisk เขารอบคอบ และเต็มใจช่วย ในการแก้ไขหลักฐาน และหลายอื่น ๆ ร่วมในการภาควิชาฟิสิกส์ที่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ คำแนะนำประโยชน์ของพวกเขามากขึ้นฟิลิปม.มอร์สเคมบริดจ์ มวล. เดือนสิงหาคม ค.ศ. 1936

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในการรักษาด้วยแผนของรุ่นแรกวิชาที่ยากขึ้นเป็นแยกที่จุดเชื่อมต่อของแต่ละบทเพื่อให้พวกเขาไม่จำเป็นต้องได้รับการกำหนดถ้าหนังสือเล่มนี้จะนำมาใช้สำหรับการเรียนการสอนเริ่มต้น.
ผู้เขียนมีความยินดีที่จะยอมรับภาระหนี้ของเขา
เป็นจำนวนมากของเพื่อนที่มีคุณค่าสำหรับข้อเสนอแนะที่จะปรับปรุงในไวยากรณ์นิทรรศการคณิตศาสตร์และพีชคณิต
บางส่วนของข้อผิดพลาดที่เห็นได้ชัดในรุ่นแรกได้รับการแก้ไข.
โดยเฉพาะจะขอบคุณเนื่องจาก JR Pellam
ที่ได้ใช้จ่ายเวลาและความพยายามในการตรวจสอบต้นฉบับและคณิตศาสตร์และดร.
ไซริลแฮร์ริสแนะนำที่เป็นประโยชน์ของเขามากมายเกี่ยวกับเรื่องที่ว่า
ฟิลิปมอร์สเอ็มอัพตัน, นิวยอร์ก, มกราคม 1948 คำนำกับฉบับพิมพ์ครั้งแรกหนังสือเล่มต่อไปนี้ในทฤษฎีของการสั่นสะเทือนและเสียงที่มีวัตถุประสงค์หลักเป็นตำราเรียนสำหรับนักเรียนของฟิสิกส์และวิศวกรรมการสื่อสาร หลังจากที่การเรียนการสอนหลักสูตรเบื้องต้นในเรื่องนี้สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตของเป็นเวลาหลายปีที่ผู้เขียนได้กลายเป็นชักชวนที่มีความจำเป็นสำหรับตำราเรียนใหม่ในฟิลด์. มีแน่นอนหนังสืออื่น ๆ อีกมากมายในทฤษฎีของเสียง ข้ออ้างของผู้เขียนสำหรับการเพิ่มอีกในรายการที่อยู่ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาเติบโตอย่างรวดเร็วของฟิสิกส์อะตอมได้เหนี่ยวนำที่สมบูรณ์การปฏิรูปของวิทยาศาสตร์ของอะคูสติก หลอดสูญญากาศและโปรแกรมอื่น ๆ ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ให้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพอย่างมากสำหรับการวัดการบันทึกและการสืบพันธุ์ของเสียงเครื่องมือที่มีการปฏิวัติเทคนิคอะคูสติก เครื่องมืออื่นที่มีประโยชน์อาจจะไม่ชัดเจนดังนั้นเป็นเทคนิคทางคณิตศาสตร์ใหม่ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นสำหรับการทำงานออกจากกลศาสตร์ควอนตัและที่มีความสามารถในการขว้างปาแสงในทุกปัญหาของทฤษฎีคลื่น บทสุดท้ายของหนังสือเล่มนี้เป็นตัวอย่างของยูทิลิตี้ o วิธีการเหล่านี้ ในนั้นวิธีการทางคณิตศาสตร์ที่พัฒนาขึ้นสำหรับการศึกษาของรังสีของแสงจากอะตอมจะนำไปใช้ทฤษฎีของคุณสมบัติอะคูสติกของห้อง. ในช่วงการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วล่าสุดในวิทยาศาสตร์ของเสียงบางส่วนของเรื่องที่ได้รับและส่วนอื่น ๆ ได้สูญเสียความสำคัญ หนังสือเล่มนี้นำเสนอความพยายามที่จะทำตามการเปลี่ยนแปลงในความสำคัญและเพื่อหารือเกี่ยวกับการพัฒนาใหม่เช่นเดียวกับส่วนบรรดาของทฤษฎีเก่าที่ยังคงมีความสำคัญ. หนังสือเล่มนี้ได้รับการวางแผนเป็นตำราเรียนที่มีจุดมุ่งหมายในสองมุมมอง จุดมุ่งหมายแรกของหลักสูตรคือการให้นักเรียนแนะนำทั่วไปทฤษฎีของการสั่นสะเทือนและเสียง หลักสูตรเบื้องต้นในเรื่องที่มีความจำเป็นจะต้องเป็นทฤษฎีมากกว่าปฏิบัติ ไม่ว่าในสาขาอื่น ๆ ของฟิสิกส์เป็นวัดพื้นฐานจึงยากที่จะดำเนินการและทฤษฎีที่ค่อนข้างง่ายดังนั้น; และอื่น ๆ ไม่กี่สาขาเป็นวิธีการทดลองจึงขึ้นอยู่กับความรู้อย่างละเอียดของทฤษฎี ตั้งแต่นี้เป็นเช่นนั้นนักเรียนจะต้องได้รับภาพทางกายภาพของทฤษฎีพื้นฐานของการสั่นสะเทือนของของแข็งร่างกายและการขยายพันธุ์ของคลื่นเสียงก่อนที่เขาจะสามารถชื่นชมเทคนิคที่ใช้ในการตรวจวัดเสียงและก่อนที่เขาจะเริ่มต้นในการออกแบบ. เครื่องเสียงโดยมีจุดมุ่งหมายที่สองคือการให้นักเรียนชุดของตัวอย่างของวิธีการของฟิสิกส์ทฤษฎี; วิธีที่นักฟิสิกส์ทฤษฎีโจมตีปัญหาและวิธีการที่เขาพบว่าวิธีการแก้ปัญหาของ เรื่องนี้ก็มักจะถูกละเลยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหลักสูตรวิศวกรรม นักเรียนจะได้รับมักจะเป็นชุดของสูตรที่จะใช้ในกรณีที่ได้มาตรฐานสูตรที่นำมาใช้บางครั้งโดยรากศัพท์คร่าวๆและบางครั้งก็ไม่มีมาเลย หลังจากที่หลักสูตรดังกล่าวเป็นนักเรียนที่มีความสามารถในการใช้สูตรเกี่ยวกับปัญหามาตรฐานแต่เขาไม่สามารถที่จะประดิษฐ์สูตรใหม่ที่จะใช้ในกรณีที่ผิดปกติ. ในหนังสือเล่มนี้ผู้เขียนได้พยายามที่จะได้รับมาทุกสูตรจากกฎพื้นฐานของฟิสิกส์ (มี มีข้อยกเว้นบางขั้นตอนนี้) และเพื่อแสดงในรายละเอียดบางขั้นตอนในการพิสูจน์เหล่านี้และพวกเขาจำเป็นตรรกะ นี้ไม่ได้หมายความว่าเครื่องจักรทางคณิตศาสตร์ที่จะได้รับในรายละเอียดมากเกินไป แต่ที่ขั้นตอนในการให้เหตุผลทางกายภาพจะถูกนำออกมา ทั่วไปและบ่อยครั้งที่ความรุนแรงทางคณิตศาสตร์ได้รับการเสียสละที่จะทำให้ห่วงโซ่ของตรรกะที่แตกต่างกันมากขึ้น จะได้รับประสบการณ์ของผู้เขียนว่าเมื่อนักเรียนสามารถเข้าใจภาพทางกายภาพหลังรากศัพท์ทางคณิตศาสตร์ที่ตัวเขาเองสามารถเพิ่มสิ่งที่ทั่วไปพิเศษและความรุนแรงที่เขาอาจต้อง บ่อยครั้งเกินไปผู้เขียนได้เสริมหรือแทนที่แข็งคำศัพท์ทางเทคนิคและความลับโดยวลีภาษาพูดเพื่อที่จะทำให้สดใสแนวคิดหรือแนะนำมุมมองใหม่. มันจะสันนิษฐานว่านักเรียน ha ความรู้อย่างละเอียดของแคลคูลัส และความใกล้ชิดบางคนที่มีกฎพื้นฐานของกลศาสตร์ ความรู้สมการเชิงอนุพันธ์ที่เป็นประโยชน์ แต่ไม่จำเป็นสำหรับการแก้ปัญหาของสมการเชิงอนุพันธ์ต่างๆที่พบจะทำงานออกมาในข้อความ ตารางของฟังก์ชั่นที่ใช้จะได้รับในด้านหลังของหนังสือเล่มนี้. แม้ว่าหนังสือเล่มนี้ได้รับการออกแบบเป็นหลักเป็นตำราเรียนจำนวนหนึ่งของวัสดุขั้นสูงธรรมชาติได้รับการแนะนำ ด้วยวิธีนี้ก็หวังปริมาณจะเป็นประโยชน์เป็นที่ค่อนข้างสมบูรณ์งานอ้างอิงสำหรับส่วนของทฤษฎีของเสียงที่ดูเหมือนในปัจจุบันจะมีความสำคัญมากที่สุดสำหรับนักวิทยาศาสตร์เสียง วัสดุขั้นสูงได้รับการรวมอยู่ในรูปแบบของส่วนพิเศษอยู่ที่ส่วนท้ายของบทต่างๆ ผู้สอนอาจมอบหมายให้ส่วนแรก ๆ ของบทเหล่านี้สำหรับหลักสูตรเบื้องต้นโฆษณานักเรียนอาจจะหมายถึงส่วนอื่นๆ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเมื่อเขาต้องการพวกเขา. ผู้เขียนมีความประสงค์ที่จะแสดงความขอบคุณของเขากับศาสตราจารย์ RD เฟย์และดร. ฮอลล์ WM ซึ่งช่วยในการเลือกเรื่องและนำเสนอวิธีการของการได้รับล้ำค่า เขายังเป็นหนี้บุญคุณดร. เจบีฟิสก์สำหรับความช่วยเหลือเต็มใจและมีความพยายามของเขาในการแก้ไขหลักฐานและให้เพื่อนร่วมงานอื่นๆ อีกมากมายในภาควิชาฟิสิกส์ที่Massachusetts Institute of Technology สำหรับการแนะนำที่เป็นประโยชน์ของพวกเขาจำนวนมาก. ฟิลลิปมอร์เอ็มเคมบริดจ์, แมส สิงหาคม 1936

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในการรักษาด้วยแผนของรุ่นแรก วิชาที่ยากจะแยกที่ terminations
ของแต่ละบท เพื่อให้พวกเขาไม่ต้องมอบหมาย ถ้าเป็นหนังสือที่จะใช้สำหรับการเริ่มต้นแน่นอน .
นักเขียนมีความยินดีที่จะยอมรับการของเขาไปเป็นจำนวนมากจากเพื่อนที่มีค่า
คําแนะนําเป็น การปรับปรุงในการแสดงออกไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ และพีชคณิตบางส่วนของข้อผิดพลาดที่ชัดเจนที่สุด
ในรุ่นแรกที่ได้รับการแก้ไข .
พิเศษขอบคุณจากเจ. อาร์. pellam ที่มีการใช้จ่ายมากเวลาและความพยายามในการตรวจสอบ
ต้นฉบับและคณิตศาสตร์ และ ดร. ไซริลแฮร์ริสสำหรับ หลาย ประโยชน์ ข้อเสนอแนะ เกี่ยวกับเรื่อง


เรื่อง ฟิลิปเอ็ม. มอร์ส Upton , นิวยอร์ก , มกราคม คำนำ , 1948

รุ่นแรกตามหนังสือ ตามทฤษฎีของการสั่นสะเทือนและเสียงมีวัตถุประสงค์หลักเป็นหนังสือเรียนสำหรับนักเรียน
ของฟิสิกส์และวิศวกรรมสื่อสาร หลังจากการสอนในรายวิชาหัวข้อนี้ใน
Massachusetts Institute of Technology หลายปี ผู้เขียนได้กลายเป็นถูก
มีต้องการสำหรับหนังสือใหม่ในฟิลด์ .
มี แน่นอนหนังสือเล่มอื่นๆในทฤษฎีเสียง ของผู้เขียนแก้ตัวเพิ่มอีก
ในรายการว่า ใน 10 ปีที่ผ่านมา การเติบโตอย่างรวดเร็วของฟิสิกส์อะตอมมีการทำให้สมบูรณ์
ของวิทยาศาสตร์ของอะคูสติก . หลอดสุญญากาศและโปรแกรมประยุกต์อื่น ๆของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ได้ให้พลังสุดฤทธิ์สุดเดช เครื่องมือสำหรับการวัด การบันทึก และการทำซ้ำเสียง ;
เครื่องมือซึ่งมี revolutionized วิธีอะคูสติก อีกหนึ่งเครื่องมือที่มีประโยชน์ อาจจะไม่ชัดมาก เป็นเทคนิคทางคณิตศาสตร์
ใหม่ซึ่งได้รับการพัฒนาสำหรับการทำงานของกลศาสตร์ควอนตัมและ
ซึ่งมีความสามารถในการขว้างปาแสงปัญหาของทฤษฎีคลื่น บทสุดท้ายของหนังสือเล่มนี้คือ ตัวอย่างของโปรแกรมอรรถประโยชน์ O
วิธีการเหล่านี้ในวิธีการทางคณิตศาสตร์ที่พัฒนาขึ้นสำหรับการวิเคราะห์
รังสีของแสงจากอะตอมจะใช้ทฤษฎีคุณสมบัติอะคูสติกของห้อง
ในระหว่างการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วล่าสุดในศาสตร์แห่งเสียง บางส่วนของเรื่องได้รับและ
ส่วนอื่นได้สูญเสียความสำคัญ หนังสือปัจจุบันพยายามที่จะติดตามการเปลี่ยนแปลงนี้ในการเน้นและ

หารือเกี่ยวกับการพัฒนาใหม่เช่นเดียวกับบางส่วนของทฤษฎีเก่าที่ยังคงสำคัญ
หนังสือได้รับการวางแผนตามตำรา ด้วยจุดประสงค์สองเท่าในมุมมอง จุดมุ่งหมายแรกของหลักสูตรคือให้
นักเรียนความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับทฤษฎีของการสั่นสะเทือนและเสียง เป็นหลักสูตรเบื้องต้นในเรื่องนี้
ต้องจำเป็นเป็นเชิงทฤษฎีมากกว่าปฏิบัติในสาขาอื่น ๆของฟิสิกส์
การวัดพื้นฐานดังนั้นยากที่จะปฏิบัติ และทฤษฎีที่ค่อนข้างง่าย ; และในสาขาอื่น ๆไม่กี่วิธีการทดลอง
ดังนั้นขึ้นอยู่กับความรู้อย่างละเอียดของทฤษฎี ตั้งแต่นี้เป็น
ดังนั้นนักเรียนจะต้องได้รับภาพทางกายภาพของทฤษฎีพื้นฐานของการสั่นสะเทือนของของแข็ง
ศพ และการแพร่ของคลื่นเสียง ก่อนที่เขาจะชื่นชม เทคนิคที่ใช้ในการวัด
เสียง และก่อนที่เขาจะเริ่มออกแบบเครื่องเสียง .
เป้าหมายที่สอง คือ ให้นักเรียนเป็นชุดของตัวอย่างของวิธีการของทฤษฎีฟิสิกส์ ; วิธี
นักฟิสิกส์ทฤษฎี การโจมตีของปัญหาและวิธีการที่เขาพบ โซลูชั่นของ เรื่องนี้มีบ่อยเกินไป
หลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิศวกรรมหลักสูตร นักเรียนมักจะได้รับชุดของสูตรที่จะใช้ใน
กรณีมาตรฐานสูตรบางครั้งแนะนำโดยรากศัพท์คร่าวๆและบางครั้งไม่มี
% ทั้งหมด ตามหลักสูตรดังกล่าว นักเรียนมีความสามารถในการใช้สูตรปัญหามาตรฐาน
แต่เขาไม่สามารถที่จะคิดสูตรใหม่จะใช้ในกรณีที่ผิดปกติ
ในหนังสือเล่มนี้ผู้เขียนได้พยายามมาทุกสูตรจากกฎหมายพื้นฐานของฟิสิกส์ ( มี
ข้อยกเว้นเพียงไม่กี่ขั้นตอนนี้ ) และจะแสดงในรายละเอียดขั้นตอนในการหาเหล่านี้และความจำเป็นเชิงตรรกะของพวกเขา

นี้ไม่ได้หมายความว่าเครื่องจักรทางคณิตศาสตร์จะได้รับในรายละเอียดมากเกินไป แต่
ว่าขั้นตอนในการให้เหตุผลทางกายภาพจะถูกนำออกไป