Clinical scenarioA rural hospital h

Clinical scenario
A rural hospital hires a new infection control professional, EL,
who has just received her master’s degree and trained in infection
control departments that were up to date on the best
evidence. EL reviews the infection control policies and learns
that traditional central line catheters are used. Where she
trained, a new, more expensive, antiseptic catheter was used. The
new catheter is impregnated with chlorhexidine and silver
sulfadiazine and costs $25 more than the traditional catheter.
Because the new catheter is designed to reduce the incidence
of hospital associated infections, particularly blood stream
infections that are catheter related, EL recommends that the
hospital begin using it in place of the traditional central line
catheter. However, hospital administration and the purchasing
department question the value of this new, more expensive,
antiseptic impregnated catheter. Issues related to both cost and
the possibility of improved outcomes are discussed at a meeting
with intensive care nurses, physicians, and representatives from
hospital administration and the purchasing department. Specifically,
the questions are: (1) is the antiseptic impregnated
catheter economically efficient? In other words, are the
additional costs of the catheter offset by potential cost savings in
reduced number of infections, which will affect length of stay?
(2) Is the antiseptic impregnated catheter more cost effective
when used in certain types of patients (eg, patients at high risk
of catheter related infections, such as immunosuppressed
patients)? An interdisciplinary team is asked to conduct a literature
search and make an evidence-based recommendation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สถานการณ์ทางคลินิกโรงพยาบาลชนบท hires ใหม่ติดเชื้อควบคุมมืออาชีพ เอลนอกจากนี้ที่เพียงได้รับปริญญาของเธอ และฝึกในเชื้อแผนกควบคุมที่ทันสมัยในสุดหลักฐานการ เอลคิดนโยบายการควบคุมการติดเชื้อ และการเรียนรู้ว่า มีใช้บรรทัดดั้งเดิมกลาง catheters ที่เธอการฝึกอบรม พัฒนาโปรแกรมฐานข้อมูลแบบใหม่ ราคาแพงมากขึ้น ยาฆ่าเชื้อใช้ ที่พัฒนาโปรแกรมฐานข้อมูลใหม่เป็น impregnated กับ chlorhexidine และเงินซัลฟาไดอะซีนและค่าใช้จ่าย $25 มากกว่าพัฒนาโปรแกรมฐานข้อมูลดั้งเดิมเนื่องจากการพัฒนาโปรแกรมฐานข้อมูลใหม่ถูกออกแบบมาเพื่อลดการเกิดของโรงพยาบาลติดเชื้อ กระแสเลือดโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องการติดเชื้อที่พัฒนาโปรแกรมฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เอลแนะนำที่โรงพยาบาลเริ่มใช้แทนบรรทัดกลางดั้งเดิมพัฒนาโปรแกรมฐานข้อมูล อย่างไรก็ตาม บริหารโรงพยาบาลและซื้อถามแผนกค่านี้ใหม่ แพงกว่ายาฆ่าเชื้อ impregnated พัฒนาโปรแกรมฐานข้อมูล ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับต้นทุนทั้งสอง และสามารถปรับปรุงผลลัพธ์ได้กล่าวถึงการประชุมเร่งรัดดูแลพยาบาล แพทย์ และตัวแทนจากบริหารโรงพยาบาลและแผนกจัดซื้อ โดยเฉพาะคำถามคือ: (1) มีตัวยาฆ่าเชื้อ impregnatedพัฒนาโปรแกรมฐานข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ ในคำอื่น ๆ มีการค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมของออฟเซ็ตพัฒนาโปรแกรมฐานข้อมูลโดยประหยัดต้นทุนในจำนวนการติดเชื้อ ซึ่งจะมีผลต่อการเข้าพักลดลง(2) ได้พัฒนาโปรแกรมฐานข้อมูล impregnated ยาฆ่าเชื้อมีต้นทุนประสิทธิภาพเมื่อใช้ในผู้ป่วย (เช่น ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงบางชนิดของการพัฒนาโปรแกรมฐานข้อมูลเกี่ยวกับการติดเชื้อ เช่น immunosuppressedผู้ป่วย) หรือไม่ ถามมีทีมงานที่อาศัยการดำเนินการประกอบการค้นหา และแนะนำการใช้หลักฐาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สถานการณ์ทางคลินิกโรงพยาบาลในชนบทได้รับการว่าจ้างควบคุมการติดเชื้อใหม่มืออาชีพ EL, ที่ได้เพิ่งได้รับปริญญาโทของเธอและการฝึกอบรมในการติดเชื้อแผนกควบคุมที่มีถึงวันที่ดีที่สุดหลักฐาน ความคิดเห็น EL นโยบายการควบคุมการติดเชื้อและเรียนรู้ที่สวนสายกลางแบบดั้งเดิมที่มีการใช้ ที่เธอผ่านการฝึกอบรมใหม่ที่มีราคาแพงกว่าสายสวนน้ำยาฆ่าเชื้อที่ใช้ สวนใหม่จะถูกชุบด้วย chlorhexidine และเงินซัลฟาไดอะซีนและค่าใช้จ่าย$ 25 กว่าสายสวนแบบดั้งเดิม. เนื่องจากสายสวนใหม่ถูกออกแบบมาเพื่อลดอุบัติการณ์ของโรงพยาบาลติดเชื้อที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระแสเลือดติดเชื้อที่มีสายสวนที่เกี่ยวข้องกับEL แนะนำว่าโรงพยาบาลที่เริ่มใช้ไว้ในสถานที่ของสายกลางแบบดั้งเดิมสายสวน อย่างไรก็ตามการบริหารโรงพยาบาลและการจัดซื้อคำถามแผนกค่าของใหม่นี้มีราคาแพงกว่าสายสวนชุบน้ำยาฆ่าเชื้อ ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายและความเป็นไปได้ของผลลัพธ์ที่ดีขึ้นจะมีการหารือในที่ประชุมมีพยาบาลดูแลผู้ป่วยหนักแพทย์และผู้แทนจากการบริหารโรงพยาบาลและแผนกจัดซื้อ โดยเฉพาะคำถามคือ (1) เป็นชุบน้ำยาฆ่าเชื้อสายสวนที่มีประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ? ในคำอื่น ๆ ที่มีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของสายสวนชดเชยด้วยการประหยัดค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในจำนวนที่ลดลงของการติดเชื้อซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความยาวของอยู่? (2) เป็นสายสวนชุบน้ำยาฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อใช้ในบางประเภทของผู้ป่วย(เช่น ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงของการติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับสายสวนเช่นimmunosuppressed ผู้ป่วย) ทีมสหสาขาถามว่าจะดำเนินวรรณกรรมการค้นหาและให้คำแนะนำตามหลักฐาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สถานการณ์ทางคลินิก
โรงพยาบาลชนบทจ้างใหม่การควบคุมการติดเชื้อมืออาชีพ เอล
ที่ได้รับเพียงแค่เธอปริญญาโทและฝึกในแผนก
การควบคุมการติดเชื้อที่ทันสมัยบนหลักฐานที่ดีที่สุด

เอลรีวิวการติดเชื้อการควบคุมนโยบาย และเรียนรู้ว่า เส้นกลาง catheters
แบบดั้งเดิมที่ใช้ ที่เธอ
ฝึกใหม่ แพงกว่า ยาฆ่าเชื้อโรค สายสวนที่ใช้
สายสวนก็ชุบใหม่ก่อน และเงิน
ซัลฟาไดอะซีนและค่าใช้จ่าย $ 25 กว่าใช้แบบดั้งเดิม .
เพราะสายสวนใหม่ถูกออกแบบมาเพื่อลดอุบัติการณ์ของการติดเชื้อ
โรงพยาบาลที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระแสเลือด
เชื้อที่มีสวนเกี่ยวข้อง เอล แนะนําว่า
โรงพยาบาลเริ่มใช้ในสถานที่ของสายสวนหัวใจเส้น
แบบดั้งเดิม อย่างไรก็ตามการบริหารโรงพยาบาลและซื้อ
แผนกคำถามมูลค่าของใหม่ราคาแพงมากขึ้น
ยาฆ่าเชื้อโรคชุบสายสวน ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับต้นทุนและความเป็นไปได้ของผลลัพธ์ดีขึ้น

มีการกล่าวถึงในการประชุมกับดูแลเข้ม พยาบาล แพทย์ และตัวแทนจาก
การบริหารโรงพยาบาลและฝ่ายจัดซื้อ โดย
คำถามคือ :( 1 ) เป็นยาฆ่าเชื้อชุบ
สายสวนมีประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ ? ในคำอื่น ๆที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมของ
สายสวนชดเชยโดยประหยัดค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นใน
ลดจำนวนของเชื้อ ซึ่งจะมีผลต่อความยาวของการเข้าพัก ?
( 2 ) เป็นยาฆ่าเชื้อชุบสายสวนต้นทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เมื่อใช้ในบางประเภทของผู้ป่วย เช่น ผู้ป่วยที่ความเสี่ยงสูงที่เกี่ยวข้องกับสายสวน
เชื้อเช่น immunosuppressed
ผู้ป่วย ) ทีมสหวิทยาการขอให้นำวรรณกรรม
ค้นหาและให้คำแนะนำตามหลักฐาน .