SectorsSkyline of Singapore's Centr

Sectors

Skyline of Singapore's Central Business District from the Esplanade
Singapore is a world leader in several economic areas: The country is the world's fourth leading financial centre,[83] the world's second largest casino gambling market,[84] one of the world's top three oil-refining centres, the world's largest oil-rig producer, and a major hub for ship repair services.[85][86][87] The port is one of the five busiest ports in the world.[84] The World Bank has named Singapore as the easiest place in the world to do business,[84] and ranks Singapore the world's top logistics hub.[88]

In April 2013, for the first time, Singapore surpassed Japan in average daily foreign-exchange trading volume with $383 billion per day. So the rank became: the United Kingdom (41%), the United States (19%), Singapore (5.7)%, Japan (5.6%) and Hong Kong (4.1%).[89]

Singapore's economy depends heavily on exports and refining imported goods, especially in manufacturing,[90] which constituted 27% of the country's GDP in 2010, and includes significant electronics, petroleum refining, chemicals, mechanical engineering and biomedical sciences sectors. In 2006, Singapore produced about 10% of the world's foundry wafer output.[91] Singapore has a diversified economy, a strategy that the government considers vital for its growth and stability despite its size.[92]


Jurong Island hosts the bulk of Singapore's petrochemical industry
Tourism also forms a large part of the economy, with 15.5 million tourists visiting the city-state in 2013.[93] To attract more tourists, the government legalised gambling in 2005 and allowed two casino resorts (called Integrated Resorts) to be developed.[94] Singapore also promotes itself as a medical tourism hub: about 200,000 foreigners seek medical care there each year. Singapore medical services aim to serve at least one million foreign patients annually and generate USD 3 billion in revenue.[95]

Singapore is an education hub, and many foreign students study in Singapore. More than 80,000 international students studied in Singapore in 2006.[96] Every morning, more than 5,000 Malaysian students cross the Johor–Singapore Causeway for education in Singapore.[97] In 2009, 20% of all students in Singaporean universities were international students. The students were mainly from ASEAN, China and India.[98]

As a result of the recession in the early 2000s and a slump in the technology sector, Singapore's GDP contracted by 2.2% in 2001. The Economic Review Committee was set up in December 2001 and recommended several policy changes to revitalise the economy. Singapore has since recovered, due largely to improvements in the world economy; the economy grew by 8.3% in 2004, 6.4% in 2005,[99] and 7.9% in 2006.[100] After a contraction of 0.8% in 2009, the economy recovered in 2010, with GDP growth of 14.5%. Most work in Singapore is in the service sector, which employed 2,151,400 people out of 3,102,500 jobs in December 2010. The percentage of unemployed economically active people above age 15 is about 2%.[101]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ภาคเส้นขอบฟ้าของสิงคโปร์ย่านธุรกิจจากเอสพลานาดสิงคโปร์เป็นผู้นำโลกในทางเศรษฐกิจ: เป็นประเทศสี่ชั้นนำของโลกการเงินศูนย์, [83] คาสิโนใหญ่เป็นอันดับสองของโลกการพนันตลาด, [84] หนึ่งของโลกด้านบนสามกลั่นน้ำมันศูนย์ ผู้ผลิตเสื้อผ้าน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของโลก และฮับหลักบริการซ่อมแซมเรือ[85][86][87] พอร์ตเป็นหนึ่งพอร์ตอันดับ 5 โลก[84] ธนาคารโลกมีชื่อว่าสิงคโปร์เป็นง่ายที่สุดในโลกการทำธุรกิจ, [84] และอันดับสิงคโปร์ฮับโลจิสติกส์สูงสุดของโลก[88]ในเดือน 2013 เมษายน ครั้งแรก สิงคโปร์แล้วญี่ปุ่นในเฉลี่ยประเทศค้าปริมาณกับ $383 ล้านต่อวัน เพื่อกลายเป็นลำดับ: สหราชอาณาจักร (41%), สหรัฐอเมริกา (19%) สิงคโปร์ (5.7) %, Hong Kong (4.1%) และญี่ปุ่น (5.6%) . [89]เศรษฐกิจของสิงคโปร์ขึ้นอยู่อย่างมากในการส่งออกและการปรับสินค้านำเข้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการผลิต, [90] ที่ทะลัก 27% ของ GDP ของประเทศในปี 2553 และรวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำคัญ โรงกลั่น เคมี วิศวกรรมเครื่องกล และศาสตร์ทางชีวการแพทย์ภาคปิโตรเลียม ในปี 2006 สิงคโปร์ผลิตประมาณ 10% ของผลผลิตโลกโรงหล่อแผ่นเวเฟอร์[91] สิงคโปร์มีเศรษฐกิจที่หลากหลาย กลยุทธ์ซึ่งรัฐบาลถือว่ามีความสำคัญสำหรับการเจริญเติบโตและความมั่นคงแม้ มีขนาด[92]จูร่งเกาะโฮสต์จำนวนมากอุตสาหกรรมปิโตรเคมีของสิงคโปร์ท่องเที่ยวรูปแบบส่วนใหญ่ของเศรษฐกิจ 15.5 ล้านคนล้านนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนนครรัฐที่ในปี 2013 ยัง[93] เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มเติม รัฐบาล legalised การพนันในปี 2005 และอนุญาตรีสอร์ทคาสิโนทั้งสองที่ (เรียกว่ารีสอร์ทรวม) ให้ได้รับการพัฒนา[94] สิงคโปร์ยังส่งเสริมตัวเองเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวทางการแพทย์: ชาวต่างชาติประมาณ 200000 แต่ละปีมีแพทย์ดูแลหา บริการทางการแพทย์สิงคโปร์จุดมุ่งหมายเพื่อให้บริการผู้ป่วยต่างประเทศอย่างน้อยหนึ่งล้านปี และสร้างรายได้ 3 พันล้าน USD[95]สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางการศึกษา และนักเรียนต่างชาติหลายคนเรียนในสิงคโปร์ นักเรียนต่างชาติมากกว่า 80000 ศึกษาในสิงคโปร์ในปี 2006[96] ทุกเช้า นักเรียนมาเลเซียมากกว่า 5000 ข้ามคอสเวย์ยะโฮร์สิงคโปร์เพื่อการศึกษาในสิงคโปร์[97] ในปี 2009, 20% ของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยในสิงคโปร์มีนักเรียนต่างชาติ นักเรียนส่วนใหญ่มาจากอาเซียน จีน และอินเดียได้[98]จากภาวะถดถอยใน 2000s ก่อนและตกต่ำในภาคเทคโนโลยี สิงคโปร์ของ GDP ตีบ 2.2% ในปี 2544 คณะกรรมการตรวจสอบเศรษฐกิจตั้งในเดือน 2001 ธันวาคม และแนะนำการเปลี่ยนแปลงนโยบายหลาย revitalise เศรษฐกิจ สิงคโปร์มีตั้งแต่กู้ ครบกำหนดส่วนใหญ่จะปรับปรุงในเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 8.3% ในปี 2004, 6.4% ในปี 2005 [99] และ 7.9% ในปี 2549[100] หลังตัว 0.8% ในปี 2009 เศรษฐกิจกู้ใน 2010 กับเศรษฐกิจ 14.5% งานส่วนใหญ่ในสิงคโปร์อยู่ในภาคบริการ ซึ่งจ้างคน 2,151,400 ออกจากงาน 3,102,500 ในเดือน 2553 ธันวาคม เปอร์เซ็นต์ของคนตกงานคนงานอย่างข้างต้นอายุ 15 มีประมาณ 2%[101]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภาคSkyline สิงคโปร์กลางย่านธุรกิจจาก Esplanade สิงคโปร์เป็นผู้นำระดับโลกในด้านเศรษฐกิจหลายประเทศที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สี่ชั้นนำของโลก [83] ตลาดคาสิโนที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกการเล่นการพนัน [84] แห่งหนึ่งของโลกด้านบนสาม ศูนย์น้ำมันกลั่นของโลกผู้ผลิตน้ำมันแท่นขุดเจาะที่ใหญ่ที่สุดและเป็นศูนย์กลางที่สำคัญสำหรับการให้บริการซ่อมเรือ. [85] [86] [87] พอร์ตเป็นหนึ่งในห้าพอร์ตคึกคักที่สุดในโลก. [84] ธนาคารโลก มีชื่อสิงคโปร์เป็นสถานที่ที่ง่ายที่สุดในโลกในการทำธุรกิจ [84] และอันดับที่สิงคโปร์ศูนย์กลางโลจิสติกชั้นนำของโลก. [88] ในเดือนเมษายน 2013 เป็นครั้งแรกที่ประเทศสิงคโปร์แซงญี่ปุ่นในวันเฉลี่ยแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมีปริมาณการซื้อขายด้วย 383,000,000,000 $ ต่อวัน ดังนั้นอันดับกลายเป็น. สหราชอาณาจักร (41%) สหรัฐอเมริกา (19%), สิงคโปร์ (5.7%), ญี่ปุ่น (5.6%) และฮ่องกง (4.1%) [89] เศรษฐกิจของสิงคโปร์ขึ้นอยู่กับการส่งออกและ กลั่นสินค้านำเข้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการผลิต [90] ซึ่งประกอบด้วย 27% ของจีดีพีของประเทศในปี 2010 และรวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม, สารเคมี, วิศวกรรมเครื่องกลและภาควิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ ในปี 2006 ประเทศสิงคโปร์ผลิตประมาณ 10% ของการส่งออกเวเฟอร์หล่อของโลก. [91] สิงคโปร์มีเศรษฐกิจที่หลากหลายกลยุทธ์ที่รัฐบาลจะพิจารณาที่สำคัญสำหรับการเจริญเติบโตและความมั่นคงแม้จะมีขนาดของมัน. [92] เกาะจูร่งเป็นเจ้าภาพจัดงานใหญ่ของสิงคโปร์ อุตสาหกรรมปิโตรเคมีการท่องเที่ยวยังเป็นส่วนใหญ่ของเศรษฐกิจที่มี 15,500,000 นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองรัฐในปี 2013 [93] เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้นรัฐบาลการพนันในปี 2005 และได้รับอนุญาตสองรีสอร์ทคาสิโน (ที่เรียกว่ารีสอร์ทแบบบูรณาการ) จะเป็น . การพัฒนา [94] สิงคโปร์นอกจากนี้ยังส่งเสริมตัวเองเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์: ประมาณ 200,000 ชาวต่างชาติที่แสวงหาการรักษาพยาบาลที่มีในแต่ละปี บริการทางการแพทย์สิงคโปร์มุ่งมั่นที่จะให้บริการอย่างน้อยหนึ่งล้านผู้ป่วยต่างชาติเป็นประจำทุกปีและสร้างเหรียญสหรัฐ 3 พันล้านในรายได้. [95] สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางการศึกษาและนักเรียนต่างชาติจำนวนมากการศึกษาในสิงคโปร์ มากกว่า 80,000 นักเรียนต่างชาติที่ศึกษาในประเทศสิงคโปร์ในปี 2006 [96] ทุกเช้ากว่า 5,000 นักเรียนมาเลเซียข้าม Causeway ยะโฮร์สิงคโปร์เพื่อการศึกษาในสิงคโปร์. [97] ในปี 2009, 20% ของนักเรียนทุกคนในมหาวิทยาลัยของสิงคโปร์เป็นนักเรียนต่างชาติ . นักเรียนส่วนใหญ่จากอาเซียนจีนและอินเดีย. [98] อันเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงต้นยุค 2000 และตกต่ำในภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจีดีพีของสิงคโปร์หดตัว 2.2% ในปี 2001 คณะกรรมการพิจารณาเศรษฐกิจได้ถูกจัดตั้งขึ้นในเดือนธันวาคม ปี 2001 และแนะนำการเปลี่ยนแปลงนโยบายหลายอย่างเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ สิงคโปร์ได้ตั้งแต่หายเนื่องจากส่วนใหญ่จะปรับปรุงในเศรษฐกิจโลก; เศรษฐกิจขยายตัว 8.3% ในปี 2004 6.4% ในปี 2005 [99] และ 7.9% ในปี 2006 [100] หลังจากที่หดตัว 0.8% ในปี 2009 เศรษฐกิจฟื้นตัวในปี 2010 มีอัตราการเติบโตของจีดีพี 14.5% ส่วนใหญ่ทำงานในสิงคโปร์อยู่ในภาคบริการซึ่งลูกจ้าง 2,151,400 คนออกจากงาน 3,102,500 ในเดือนธันวาคม 2010 ร้อยละของผู้ว่างงานที่ใช้งานทางเศรษฐกิจดังกล่าวข้างต้นอายุ 15 ปีอยู่ที่ประมาณ 2%. [101]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ภาค

เส้นขอบฟ้าของสิงคโปร์เป็นศูนย์กลางธุรกิจจาก Esplanade
สิงคโปร์เป็นผู้นำในพื้นที่เศรษฐกิจหลายประเทศของโลกที่สี่นำระบบศูนย์ [ 83 ] ที่สองของโลกที่ใหญ่ที่สุดคาสิโนการพนันตลาด [ 84 ] หนึ่งของโลกด้านบนสามผู้ผลิตน้ำมันแท่นขุดเจาะน้ำมันกลั่นศูนย์ ที่ใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นศูนย์กลางที่สำคัญสำหรับการบริการซ่อมเรือ[ 85 ] [ 86 ] [ 87 ] พอร์ตเป็นหนึ่งในพอร์ตที่คึกคักที่สุดในห้าโลก [ 84 ] ธนาคารโลกมีชื่อว่าสิงคโปร์เป็นสถานที่ที่ง่ายที่สุดในโลก เพื่อทำธุรกิจ [ 84 ] และอันดับที่สิงคโปร์สุดยอดศูนย์กลางโลจิสติกส์ [ 88 ]

ในเดือนเมษายน 2556 เป็นครั้งแรก ที่สิงคโปร์ แซงหน้าญี่ปุ่นในต่างประเทศมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยรายวัน $ 383 พันล้านต่อวัน ดังนั้นอันดับกลายเป็น :สหราชอาณาจักร ( ร้อยละ 41 ) , สหรัฐอเมริกา ( 19% ) สิงคโปร์ ( ร้อยละ 5.7 ) ญี่ปุ่น ( 5.6% ) และฮ่องกง ( 4.1% ) [ 89 ]

สิงคโปร์เศรษฐกิจพึ่งพาการส่งออกและนำเข้าสินค้าลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการผลิต [ 90 ] ที่ตั้งขึ้น 27 % GDP ของประเทศในปี 2010 และรวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญกลั่นปิโตรเลียมเคมี วิศวกรรมเครื่องกล และวิทยาศาสตร์ภาคใน 2549 , สิงคโปร์ผลิตประมาณ 10% ของโลกที่โรงหล่อเวเฟอร์ออก [ 91 ] สิงคโปร์มีเศรษฐกิจที่หลากหลาย เป็นกลยุทธ์ที่รัฐบาลจะพิจารณาที่สำคัญสำหรับการเจริญเติบโตและความมั่นคงที่แม้จะมีขนาดของมัน [ 92 ]


จูร่งเกาะสิงคโปร์เป็นเจ้าภาพ กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี
การท่องเที่ยวยังเป็นรูปแบบขนาดใหญ่ส่วนหนึ่ง ของเศรษฐกิจ กับ 15.5 ล้านนักท่องเที่ยวที่มาเยือนนครรัฐใน 2013[ 93 ] เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้น รัฐบาล legalized การพนันในปี 2005 และอนุญาตให้สองคาสิโนรีสอร์ท ( เรียกว่ารีสอร์ทแบบบูรณาการเพื่อพัฒนา [ 94 ] สิงคโปร์ยังส่งเสริมตัวเองเป็นแพทย์ท่องเที่ยวฮับ : ชาวต่างชาติ เกี่ยวกับ 200000 แสวงหาการดูแลทางการแพทย์นั้น ในแต่ละปี บริการทางการแพทย์ในสิงคโปร์ มุ่งให้บริการอย่างน้อยหนึ่งล้านผู้ป่วยต่างชาติปีละ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ และสร้างรายได้[ 95 ]

สิงคโปร์เป็นฮับการศึกษา และมีนักศึกษาต่างชาติศึกษาในสิงคโปร์ มากกว่า 80 , 000 นักศึกษาต่างชาติศึกษาในสิงคโปร์ในปี 2006 [ 96 ] ทุกๆเช้า กว่า 5 , 000 นักเรียนมาเลเซีย Johor Causeway ข้าม–สิงคโปร์เพื่อการศึกษาในสิงคโปร์ [ 97 ] ใน 2009 , 20% ของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยของสิงคโปร์ คือ นักศึกษานานาชาติ นักเรียนส่วนใหญ่มาจากอาเซียนจีนและอินเดีย [ 98 ]

ผลของภาวะถดถอยในช่วงต้นยุค 2000 และตกต่ำในภาคเทคโนโลยี , GDP ของสิงคโปร์หดตัว 2.2% ในปี 2001 คณะกรรมการทบทวนเศรษฐกิจถูกจัดตั้งขึ้นในเดือนธันวาคมปี 2001 และแนะนำหลายการเปลี่ยนแปลงนโยบายเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ สิงคโปร์ได้ตั้งแต่คืน , เนื่องจากส่วนใหญ่เพื่อการปรับปรุงในเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจขยายตัว 8.3% ในปี 2004 64 เปอร์เซ็นต์ในปี 2005 [ 99 ] และ 7.9% ในปี 2549 [ 100 ] หลังจากที่หดตัว 0.8% ใน 2009 , เศรษฐกิจฟื้นตัวในปี 2010 กับการเจริญเติบโตของ GDP 14.5 % ทำงานมากที่สุดในสิงคโปร์อยู่ในภาคบริการ ซึ่งใช้ 2151400 คนออกจาก 3102500 งานในเดือนธันวาคม 2553 ร้อยละของประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไปใช้งานทางเศรษฐกิจว่างงานประมาณ 2% [ 101 ]