What Facebook and corresponding com

What Facebook and corresponding commercial companies that use this data are doing is stereotyping the users. Apply this to offline life. How would you like it if you just met someone and told them you once read the book, Fifty Shades of Grey, and naturally they assume you are into S&M, and probably into the Twilight series? Is that a fair assumption that should be made? It’s ludicrous right? People shouldn’t do that. So why should Facebook and other data mining companies? Your Facebook profile, and other online personal profiles for that matter, should be the information that you post and want others to see. It should reflect you solely because well, you put that information out there. Your profiles should not be a wealth of information for companies to use and make out of context assumptions about you. The user should be able to control their online presence and not have it be constructed by some impersonal logarithm that assumes that IF a user ‘likes’ X, THEN they must be Y and act accordingly.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Facebook และบริษัทการค้าที่เกี่ยวข้องที่ใช้ข้อมูลนี้จะทำอะไรมีทัศนคติทั่วไปต่อผู้ใช้ ใช้นี้ชีวิตแบบออฟไลน์ ว่าคุณต้องการถ้าคุณเพียงพบคน และบอกว่า พวกคุณเคยอ่านหนังสือ 50 เฉดสีของสีเทา และธรรมชาติและคิดว่า จะ เป็น S และ M และอาจจะ เป็นชุดทไวไลท์ คืออัสสัมชัญเป็นธรรมที่ควรทำหรือไม่ มันคือ ludicrous ขวา คนที่ไม่ควรทำเช่นนั้น ดังนั้น ทำไมควร Facebook และบริษัททำเหมืองข้อมูลอื่น ๆ หรือไม่ Facebook โปรไฟล์ของคุณ และอื่น ๆ ส่วนกำหนดค่าส่วนบุคคลออนไลน์สำหรับเรื่องที่ ควรเป็นข้อมูลที่คุณลงรายการบัญชี และต้องการให้เห็น มันควรสะท้อนถึงคุณแต่เพียงผู้เดียวเนื่องจากดี คุณนำข้อมูลออก โพรไฟล์ของคุณควรมีข้อมูลสำหรับบริษัทที่จะใช้ และจากบริบทสมมติฐานเกี่ยวกับคุณมากมาย ผู้ใช้ควรสามารถควบคุมสถานะการออนไลน์ของพวกเขา และไม่มีมันจะถูกสร้างขึ้น โดยลอการิทึมบางไม้มีสมมติว่า ถ้าเป็นผู้ใช้ 'ชอบ' X แล้วพวกเขาต้อง Y และดำเนินการตาม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สิ่งที่ Facebook และ บริษัท การค้าที่ตรงกันกับที่ใช้ข้อมูลนี้กำลังทำคือ stereotyping ผู้ใช้ สมัครนี้เพื่อชีวิตออฟไลน์ วิธีที่คุณจะชอบมันถ้าคุณเพิ่งพบใครสักคนและบอกพวกเขาที่คุณเคยอ่านหนังสือเล่มนี้ห้าสิบ Shades of Grey และธรรมชาติที่พวกเขาคิดว่าคุณจะเป็น S & M และอาจจะเป็นชุด Twilight? นั่นคือสมมติฐานยุติธรรมที่ควรจะทำ? มันเป็นเรื่องน่าหัวเราะขวา? คนไม่ควรทำอย่างนั้น เหตุใดจึงควร Facebook และข้อมูลอื่น ๆ ที่ บริษัท ทำเหมือง? โปรไฟล์ Facebook ของคุณและอื่น ๆ ที่โปรไฟล์ส่วนตัวออนไลน์สำหรับเรื่องที่ควรจะเป็นข้อมูลที่คุณโพสต์และต้องการให้คนอื่นเห็น มันควรจะสะท้อนให้เห็นถึงคุณเพียงเพราะดีที่คุณใส่ข้อมูลที่ออกมี โปรไฟล์ของคุณไม่ควรจะเป็นความมั่งคั่งของข้อมูลสำหรับ บริษัท ที่จะใช้และให้ออกจากสมมติฐานบริบทเกี่ยวกับคุณ ผู้ใช้ควรจะสามารถควบคุมการแสดงตนออนไลน์ของพวกเขาและไม่ได้มันถูกสร้างขึ้นโดยบางลอการิทึมตัวตนที่ถือว่าว่าถ้าผู้ใช้ 'ชอบ' X แล้วพวกเขาก็จะต้อง Y และดำเนินการตาม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สิ่งที่ Facebook และ บริษัท การค้าที่เกี่ยวข้องที่ใช้ข้อมูลนี้ทำ stereotyping ผู้ใช้ ใช้กับชีวิตครับ วิธีที่คุณจะชอบมันถ้าคุณเพิ่งเจอคนและบอกพวกเขาว่าคุณเคยอ่านหนังสือ ห้าสิบเฉดสีเทา และพวกเขาคิดว่าคุณเป็น S & M , และอาจจะในชุด Twilight ? นั่นยุติธรรมสมมติว่าควรจะทำ ตลกดีใช่มั้ย ?คนไม่ควรทำอย่างนั้น ทำไม Facebook และ บริษัท เหมืองแร่ข้อมูลอื่น ๆ โปรไฟล์ Facebook ของคุณและโปรไฟล์ส่วนบุคคลออนไลน์อื่น ๆสำหรับเรื่องที่ควรเป็นข้อมูลที่คุณโพส และอยากให้คนอื่นได้เห็น มันควรจะสะท้อนให้เห็นถึงคุณเพราะงั้นคุณใส่ข้อมูลที่ออกมี Your profiles should not be a wealth of information for companies to use and make out of context assumptions about you. The user should be able to control their online presence and not have it be constructed by some impersonal logarithm that assumes that IF a user ‘likes’ X, THEN they must be Y and act accordingly.