The latency test measures the time

The latency test measures the time required for a frame to travel from the originating device through the network to the destination device (also known as end-to-end testing). This test can also be configured to measure the round-trip time; i.e., the time required for a frame to travel from the originating device to the destination device and then back to the originating device.
When the latency time varies from frame to frame, it causes issues with real-time services. For example, latency variation in VoIP applications would degrade the voice quality and create pops or clicks on the line. Long latency can also degrade Ethernet service quality. In client-server applications, the server might time out or poor application performance can occur. For VoIP, this would translate into long delays in the conversation, producing a “satellite call feeling”.
The test procedure begins by measuring and benchmarking the throughput for each frame size to ensure the frames are transmitted without being discarded (i.e., the throughout test). This fills all device buffers, therefore measuring latency in the worst conditions. The second step is for the test instrument to send traffic for 120 seconds. At mid-point in the transmission, a frame must be tagged with a time-stamp and when it is received back at the test instrument, the latency is measured. The transmission should continue for the rest of the time period. This measurement must be taken 20 times for each frame size, and the results should be reported as an average.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แฝงทดสอบหน่วยวัดเวลาที่ใช้ในกรอบเพื่อเดินทางจากอุปกรณ์ต้นทางผ่านเครือข่ายไปยังอุปกรณ์ปลายทาง (หรือที่เรียกว่าสิ้นสุดเพื่อสิ้นสุดการทดสอบ) การทดสอบนี้ยังสามารถกำหนดค่าในการวัดเวลาประมาณ เช่น เวลาที่ใช้ในกรอบเพื่อเดินทางจากอุปกรณ์ต้นทางกับอุปกรณ์ปลายทาง และกลับไปยังอุปกรณ์เริ่มต้น เมื่อเวลาแฝงแตกต่างกันไปจากเฟรมเฟรม จะเกิดปัญหากับบริการแบบเรียลไทม์ ตัวอย่าง ความผันแปรแฝงใน VoIP โปรแกรมประยุกต์จะลดทอนคุณภาพเสียง และสร้างปรากฏ หรือคลิกที่บรรทัด แฝงยาวสามารถลดทอนคุณภาพบริการอีเทอร์เน็ต ในโปรแกรมประยุกต์ของไคลเอ็นต์-เซิร์ฟเวอร์ เซิร์ฟเวอร์อาจหมดเวลา หรือประสิทธิภาพการทำงานของโปรแกรมประยุกต์ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ สำหรับ VoIP นี้จะแปลเป็นนานในการสนทนา ผลิตเป็น "โทรผ่านดาวเทียมความรู้สึก"ขั้นตอนการทดสอบเริ่มต้น โดยวัด และ benchmarking สามารถประมวลผลได้สำหรับแต่ละขนาดกรอบให้ส่งเฟรม โดยไม่มีการยกเลิก (เช่น ที่ตลอดการทดสอบ) นี้กรอกข้อมูลอุปกรณ์ทั้งหมด ดังนั้น การวัดเวลาแฝงในสภาพเลวร้ายที่สุด ขั้นตอนสองเป็นการทดสอบการส่งจราจร 120 วินาที จุดกลางในการส่งผ่าน เฟรมต้องติดแท็ก ด้วยการบันทึกเวลา และเมื่อได้รับกลับมาที่เครื่องมือทดสอบ การแฝงวัด ส่งที่ควรทำสำหรับส่วนเหลือของรอบระยะเวลา วัดนี้ต้องดำเนินการ 20 ครั้งสำหรับแต่ละขนาดเฟรม และควรจะรายงานผลเป็นค่าเฉลี่ย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทดสอบวัดความล่าช้าเวลาที่จำเป็นสำหรับกรอบที่จะเดินทางจากอุปกรณ์ที่มีต้นกำเนิดผ่านทางเครือข่ายไปยังอุปกรณ์ปลายทาง (หรือเรียกว่าแบบ end-to-end การทดสอบ) การทดสอบนี้ยังสามารถกำหนดค่าการวัดเวลาเดินทางรอบ; คือเวลาที่จำเป็นสำหรับกรอบที่จะเดินทางจากอุปกรณ์ที่มีต้นกำเนิดไปยังอุปกรณ์ปลายทางแล้วกลับไปยังอุปกรณ์ที่มีต้นกำเนิด.
เมื่อเวลาแฝงแตกต่างไปจากกรอบที่กรอบก็ทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการให้บริการเรียลไทม์ ยกตัวอย่างเช่นการเปลี่ยนแปลงความล่าช้าในการใช้งาน VoIP จะลดคุณภาพเสียงและสร้างปรากฏหรือคลิกบนเส้น แฝงยาวนอกจากนี้ยังสามารถลดคุณภาพการให้บริการอีเธอร์เน็ต ในการใช้งานของลูกค้าเซิร์ฟเวอร์เซิร์ฟเวอร์อาจหมดเวลาหรือประสิทธิภาพของโปรแกรมที่ไม่ดีสามารถเกิดขึ้นได้ สำหรับ VoIP นี้จะแปลเป็นความล่าช้าในการสนทนา, การผลิต "สายดาวเทียมรู้สึก".
ขั้นตอนการทดสอบเริ่มต้นด้วยการวัดและเปรียบเทียบผ่านสำหรับแต่ละขนาดของกรอบเฟรมเพื่อให้แน่ใจว่าจะถูกส่งโดยไม่ต้องถูกทิ้ง (กล่าวคือตลอดการทดสอบ ) นี้เติมบัฟเฟอร์อุปกรณ์ทั้งหมดดังนั้นการวัดความล่าช้าในสภาพที่เลวร้ายที่สุด ขั้นที่สองคือสำหรับตราสารการทดสอบเพื่อส่งเข้าชม 120 วินาที ที่จุดกลางในการส่งกรอบจะต้องมีการติดแท็กด้วยการประทับเวลาและเมื่อมันได้รับกลับมาที่ที่ใช้ในการทดสอบความล่าช้าเป็นวัด ส่งควรดำเนินต่อไปส่วนที่เหลือของช่วงเวลา วัดนี้จะต้องดำเนินการ 20 ครั้งสำหรับแต่ละขนาดของกรอบและผลที่ควรจะรายงานเป็นค่าเฉลี่ย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มาตรการเวลาที่จําเป็นสําหรับกรอบที่จะเดินทางจากต้นทางไปยังปลายทางผ่านอุปกรณ์เครือข่ายอุปกรณ์ ( ทดสอบ ( หรือที่เรียกว่าการทดสอบแบบ end - to - end ) การทดสอบนี้ยังสามารถกําหนดค่าเพื่อวัดเวลาการเดินทาง เช่น เวลาที่ต้องใช้ในกรอบที่จะเดินทางจากต้นทางไปยังปลายทางอุปกรณ์อุปกรณ์และจากนั้นกลับไปที่อุปกรณ์
เมื่อ ( เวลาที่แตกต่างจากกรอบที่กรอบ จะทำให้ปัญหาต่างๆ แบบเรียลไทม์ ตัวอย่างเช่น เวลาในการใช้งาน VoIP การจะลดคุณภาพเสียงและสร้างปรากฏหรือคลิกที่บรรทัด ยาวแฝงยังสามารถลดคุณภาพของบริการ Ethernet ในโปรแกรมประยุกต์ของไคลเอ็นต์เซิร์ฟเวอร์ เซิร์ฟเวอร์อาจจะหมดเวลาหรือโปรแกรมการไม่ดีสามารถเกิดขึ้นได้ . สำหรับ VoIP ,นี้จะแปลเป็นล่าช้านานในการสนทนาการผลิต " ดาวเทียมเรียกความรู้สึก " .
ขั้นตอนการทดสอบเริ่มต้นด้วยการวัดและการเปรียบเทียบอัตราความเร็วขนาดกรอบแต่ละเพื่อให้แน่ใจว่าเฟรมจะถูกส่งโดยไม่ต้องทิ้ง ( เช่น ตลอดการทดสอบ ) นี้เติมบัฟเฟอร์อุปกรณ์ทั้งหมด ดังนั้น การวัดศักยภาพในเงื่อนไขที่เลวร้ายที่สุดขั้นที่สองคือเพื่อทดสอบอุปกรณ์เพื่อส่งการเข้าชม 120 วินาที ที่กลางจุดในการส่งผ่าน เฟรมต้องแท็กด้วยการประทับเวลา และเมื่อได้รับกลับไปที่เครื่องมือทดสอบ , ( วัด . การส่งจะยังคงสำหรับส่วนที่เหลือของระยะเวลา วัดนี้ต้องถ่าย 20 ครั้งสำหรับแต่ละเฟรมขนาดและผลลัพธ์ที่ควรจะถูกรายงานเป็นค่าเฉลี่ย .