People who possess a concealable st

People who possess a concealable stigmatized identity (e.g., minority sexual orientation; history of mental illness)often hide this identity from others in order to avoid bias. Despite the possible benefits of this identity management strategy, we propose that instead of increasing acceptance, hiding a stigmatized identity can result in a lowered sense of belonging and even actual social rejection. Across four studies, we show that although individuals living with concealable stigmatized identities report a preference for hiding (vs. revealing) the identity during social interactions,hiding in fact reduces feelings of belonging an effect that is mediated by felt in authenticity and reduced general self-disclosure (i.e., disclosure of self-relevant information not limited to the stigmatized identity). Furthermore,the detrimental interpersonal effects of hiding (vs. revealing) a stigmatized identity are detected by external
observers and non-stigmatized interaction partners. Implications for understanding the predicament of people living with stigmatized social identities are discussed.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คนที่มีตัวตน stigmatized concealable (เช่น ชนกลุ่มน้อยเพศ ประวัติโรคจิต) มักจะ ซ่อนตัวนี้จากผู้อื่นเพื่อหลีกเลี่ยงความโน้มเอียง แม้ มีประโยชน์เป็นไปได้ของกลยุทธ์การบริหารตัวนี้ เราเสนอว่า แทนที่จะยอมรับเพิ่มขึ้น ซ่อนตัว stigmatized สามารถส่งผลให้ความเป็นสมาชิกลดลง และแม้การปฏิเสธสังคมจริง ในการศึกษา 4 เราแสดงว่า แม้บุคคลที่อาศัยอยู่กับ concealable stigmatized รหัสประจำตัวสำหรับซ่อน (เทียบกับการเปิดเผย) รายงานตัวในระหว่างการโต้ตอบทางสังคม ที่ซ่อนในความเป็นจริงลดความรู้สึกเป็นสมาชิกผลที่ mediated โดยรู้สึกในความถูกต้อง และลดตนเองทั่วไป-เปิดเผย (เช่น การเปิดเผยข้อมูลที่ตนเองเกี่ยวข้องไม่จำกัดรหัสประจำตัว stigmatized) นอกจากนี้ ผลมนุษยสัมพันธ์อนุซ่อน (เทียบกับการเปิดเผย) พบตัว stigmatized โดยภายนอกผู้สังเกตการณ์และคู่ stigmatized ไม่โต้ตอบ ผลการทำความเข้าใจสภาพของสังคมประจำ stigmatized ผู้กล่าวถึง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คนที่มีความเป็นเอกลักษณ์ stigmatized ปกปิด (เช่นชนกลุ่มน้อยรสนิยมทางเพศ; ประวัติศาสตร์ของความเจ็บป่วยทางจิต) มักจะซ่อนตัวจากคนอื่น ๆ นี้เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงอคติ แม้จะมีผลประโยชน์ที่เป็นไปได้ของกลยุทธ์การจัดการตัวนี้เราเสนอว่าแทนที่จะเพิ่มขึ้นได้รับการยอมรับซ่อนตัวตน stigmatized สามารถทำให้ความรู้สึกที่ลดลงของการเป็นเจ้าของและที่เกิดขึ้นจริงแม้กระทั่งการปฏิเสธสังคม ข้ามสี่การศึกษาเราแสดงให้เห็นว่าถึงแม้ว่าบุคคลที่มีชีวิตอยู่กับตัวตน stigmatized ปกปิดรายงานการตั้งค่าสำหรับการซ่อน (เทียบกับเปิดเผย) ตัวตนในระหว่างการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมซ่อนตัวอยู่ในความเป็นจริงจะช่วยลดความรู้สึกของการเป็นเจ้าของผลกระทบที่มีการไกล่เกลี่ยโดยความรู้สึกในความถูกต้องและลดตัวเองทั่วไป -disclosure (เช่นการเปิดเผยข้อมูลของตนเองที่เกี่ยวข้องไม่ จำกัด ตัวตน stigmatized) นอกจากนี้ผลกระทบความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลอันตรายที่ซ่อน (เทียบกับเปิดเผย) ตัวตน stigmatized มีการตรวจพบโดยภายนอก
สังเกตการณ์และไม่ stigmatized พันธมิตรปฏิสัมพันธ์ ผลกระทบสำหรับการทำความเข้าใจสถานการณ์ของผู้คนที่อาศัยอยู่กับอัตลักษณ์ทางสังคม Stigmatized จะกล่าวถึง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ใครมี concealable stigmatized ตัวตน ( เช่น ชนกลุ่มน้อยทางเพศ ; ประวัติอาการป่วยทางจิต ) มักจะปกปิดตัวตนนี้จากผู้อื่นเพื่อหลีกเลี่ยงอคติ . แม้จะมีประโยชน์ที่สุดของตน กลยุทธ์ การจัดการ เราเสนอว่า แทนที่จะเพิ่มการยอมรับซ่อน stigmatized ตัวตนได้ผลในการลดความรู้สึกของการเป็นสมาชิกและแม้จริงสังคมปฏิเสธ ในการศึกษา เราแสดงให้เห็นว่าแม้ว่าบุคคลที่อาศัยอยู่กับ concealable stigmatized เอกลักษณ์รายงานการปิดบัง ( vs . เปิดเผย ) เอกลักษณ์ในการโต้ตอบทางสังคมซ่อนในความเป็นจริงลดความรู้สึกผูกพันมีผลกระทบที่เป็นคนกลาง โดยรู้สึกว่าในความถูกต้องและลดการเปิดเผยตนเองทั่วไป ( เช่น การเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลไม่ จำกัด ตัวเองเพื่อ stigmatized ตัวตน ) นอกจากนี้ บุคคลผลเสียซ่อน ( และเปิดเผยตัวตน ) เป็น stigmatized ตรวจพบโดยผู้สังเกตการณ์ภายนอก
และไม่ใช่ stigmatized คู่ปฏิสัมพันธ์สำหรับความเข้าใจสถานการณ์ของผู้ติดเชื้อ stigmatized สังคมเอกลักษณ์ว่า