เป็นกรรมบุคคลคิดแล้วจึงกระทำกรรมด้ว

เป็นกรรมบุคคลคิดแล้วจึงกระทำกรรมด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ก็เหตุเกิดแห่งกรรมเป็นไฉนคือผัสสะ (การกระทบกันระหว่างตากับรูป หูกับเสียง เป็นต้น) เป็นเหตุเกิดแห่งกรรม ก็ความต่างแห่งกรรมเป็นไฉน คือกรรมที่ให้วิบากในนรกก็มี ทำให้วิบากในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉานก็มี ที่ให้วิบากในเปรตวิสัยก็มี ที่ให้วิบากในมนุษยโลกก็มี ที่ให้วิบากในเทวโลกก็มี นี้เรียกว่าความต่างแห่งกรรม
“ก็วิบากแห่งกรรมเป็นไฉน คือ เราย่อมกล่าววิบากแห่งกรรม ว่ามี ๓ ประการ คือ กรรมที่ให้ผลในปัจจุบัน ๑ กรรมที่ให้ผลในภพที่เกิด ๑ กรรมที่ให้ผลในภพต่อๆ ไป ๑ นี้เรียกว่า วิบากแห่งกรรม
“ความดับแห่งกรรมเป็นไฉน คือ ความดับแห่งกรรมย่อมเกิดขึ้นเพราะความดับแห่งผัสสะ อริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการนี้แล คือ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ... สัมมาสติ สัมมาสมาธิ เป็นปฏิปทาให้ถึงความดับแห่งกรรม
“ก็เมื่อใด อริยสาวกย่อมทราบชัด กรรม เหตุเกิดแห่งกรรม ความต่างแห่งกรรม วิบากแห่งกรรม ความดับแห่งกรรม ปฏิปทาที่ให้ถึงความดับแห่งกรรมอย่างนี้ ๆ เมื่อนั้น อริยสาวกนั้นย่อมทราบชัดพรหมจรรย์ อันเป็นไปในส่วนแห่งความชำแรกกิเลสเป็นที่ดับกรรมนี้”

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ด้วยวาจาด้วยใจก็เหตุเกิดแห่งกรรมเป็นไฉนคือผัสสะ (การกระทบกันระหว่างตากับรูปหูกับเสียงเป็นต้น) เป็นเหตุเกิดแห่งกรรมก็ความต่างแห่งกรรมเป็นไฉนคือกรรมที่ให้วิบากในนรกก็มี ที่ให้วิบากในเปรตวิสัยก็มีที่ให้วิบากในมนุษยโลกก็มีที่ให้วิบากในเทวโลกก็มี
คือเราย่อมกล่าววิบากแห่งกรรมว่ามี 3 ประการคือกรรมที่ให้ผลในปัจจุบัน 1 กรรมที่ให้ผลในภพที่เกิด 1 กรรมที่ให้ผลในภพต่อ ๆ ไป 1 นี้เรียกว่า
คือ อริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ 8 ประการนี้แลคือสัมมาทิฏฐิสัมมาสังกัปปะสัมมาวาจาสัมมากัมมันตะสัมมาอาชีวะสัมมาวายามะสัมมาสติสัมมาสมาธิ ...
อริยสาวกย่อมทราบชัดกรรมเหตุเกิดแห่งกรรมความต่างแห่งกรรมวิบากแห่งกรรมความดับแห่งกรรม ๆ เมื่อนั้นอริยสาวกนั้นย่อมทราบชัดพรหมจรรย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นกรรมบุคคลคิดแล้วจึงกระทำกรรมด้วยกายด้วยวาจาด้วยใจก็เหตุเกิดแห่งกรรมเป็นไฉนคือผัสสะ ( การกระทบกันระหว่างตากับรูปหูกับเสียงเป็นต้น ) เป็นเหตุเกิดแห่งกรรมก็ความต่างแห่งกรรมเป็นไฉนทำให้วิบากในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉานก็มีที่ให้วิบากในเปรตวิสัยก็มีที่ให้วิบากในมนุษยโลกก็มีที่ให้วิบากในเทวโลกก็มีนี้เรียกว่าความต่างแห่งกรรม
" ก็วิบากแห่งกรรมเป็นไฉนความเราย่อมกล่าววิบากแห่งกรรมว่ามีกันประการความกรรมที่ให้ผลในปัจจุบัน๑กรรมที่ให้ผลในภพที่เกิด๑กรรมที่ให้ผลในภพต่อๆไป๑นี้เรียกว่าวิบากแห่งกรรม
" ความดับแห่งกรรมเป็นไฉนความความดับแห่งกรรมย่อมเกิดขึ้นเพราะความดับแห่งผัสสะอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์แยกประการนี้แลความสัมมาทิฏฐิสัมมาสังกัปปะสัมมาวาจาสัมมากัมมันตะสัมมาอาชีวะสัมมาวายามะ . . . . . . .สัมมาสติสัมมาสมาธิเป็นปฏิปทาให้ถึงความดับแห่งกรรม
" ก็เมื่อใดอริยสาวกย่อมทราบชัดกรรมเหตุเกิดแห่งกรรมความต่างแห่งกรรมวิบากแห่งกรรมความดับแห่งกรรมปฏิปทาที่ให้ถึงความดับแห่งกรรมอย่างนี้จะเมื่อนั้นอริยสาวกนั้นย่อมทราบชัดพรหมจรรย์