เครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่นลอย
ความเสื่อมโทรมของสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ เป็นผลมาจากภาวะมลพิษของน้ำเน่าเสียที่มีปริมาณสูงขึ้นจนยากแก่การแก้ไขให้บรรเทาเบาบางลงได้ ส่งผลต่อสุขภาพอนามัยของพสกนิกรทั้งหลาย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงห่วงใยในความเดือดร้อนทุกข์ยากที่เกิดขึ้นนี้ ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรสภาพน้ำเน่าเสียในพื้นที่หลายแห่งหลายครั้ง ทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และต่างจังหวัด พร้อมทั้งพระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสีย
การนี้ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิชัยพัฒนาสนับสนุนงบประมาณ เพื่อการศึกษาและวิจัยสิ่งประดิษฐ์ใหม่นี้ โดยดำเนินการจัดสร้างเครื่องมือบำบัดน้ำเสียร่วมกับกรมชลประทาน ซึ่งได้มีการผลิตเครื่องกลเติมอากาศขึ้นในเวลาต่อมา และรู้จักกันแพร่หลายทั่วประเทศในปัจจุบัน คือ "กังหันน้ำชัยพัฒนา"
ในระยะแรกระหว่างปี พ.ศ.2527-2530 ทรงแนะนำให้ใช้น้ำที่มีคุณภาพดีช่วยบรรเทาน้ำเสียและวิธีกรองน้ำเสียด้วยผักตบชวาและพืชน้ำต่างๆ มีอัตราแนวโน้มรุนแรงมากยิ่งขึ้น การใช้วิธีธรรมชาติไม่อาจบรรเทาความเน่าเสียของน้ำอย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จึงพระราชทานพระราชดำริให้ประดิษฐ์เครื่องกลเติมอากาศแบบประหยัดค่าใช้จ่าย สามารถผลิตเองได้ในประเทศ ซึ่งมีรูปแบบ "ไทยทำไทยใช้" โดยทรงได้แนวทางจาก "หลุก" ซึ่งเป็นอุปกรณ์วิดน้ำเข้านาอันเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านเป็นจุดคิดค้นเบื้องต้น และทรงมุ่งหวังที่จะช่วยแบ่งเบาภาระของรัฐบาลในการบรรเทาน้ำเน่าเสียอีกทางหนึ่งด้วย
การนี้ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิชัยพัฒนาสนับสนุนงบประมาณ เพื่อการศึกษาและวิจัยสิ่งประดิษฐ์ใหม่นี้ โดยดำเนินการจัดสร้างเครื่องมือบำบัดน้ำเสียร่วมกับกรมชลประทาน ซึ่งได้มีการผลิตเครื่องกลเติมอากาศขึ้นในเวลาต่อมา และรู้จักกันแพร่หลายทั่วประเทศในปัจจุบัน คือ "กังหันน้ำชัยพัฒนา"
หลักเกณฑ์ วิธีการและขั้นตอนในการขอความอนุเคราะห์การติดตั้งเครื่องกลเติมอากาศ
แนวทางการดำเนินงาน
การดำเนินงานโครงการแก้ไขปัญหาน้ำเสีย ซึ่งมูลนิธิชัยพัฒนาได้ดำเนินการร่วมกับกรมชลประทานนั้น เป็นการปฏิบัติงานโดยการปรับปรุงคุณภาพน้ำด้วยเครื่องกังหันน้ำชัยพัฒนา ซึ่งได้กำหนดแนวทาง การดำเนินงานไว้ ดังนี้
1.หลักเกณฑ์
1.1 การบำบัดน้ำเสียของมูลนิธิชัยพัฒนามุ่งเน้นในการบำบัดน้ำเสียในแหล่งน้ำ สาธารณะ สถานสงเคราะห์ และวัดต่างๆ ที่ มีผลกระทบต่อสุขภาพของชุมชนเมือง และชนบทเป็นหลัก โดยแหล่งน้ำเสียนั้น จะไม่ไปกระทำซ้ำซ้อนกับระบบบำบัดน้ำเสียของรัฐ ซึ่งมีแผนงานและนโยบายที่แน่ชัดอยู่แล้ว
1.2 ในกรณีที่ภาครัฐมีระบบบำบัดน้ำเสียอยู่แล้วมีความประสงค์ที่จะใช้เครื่องกล เติมอากาศของมูลนิธิชัยพัฒนาไปเสริมเพิ่มเติมในกระบวนการเดิมนั้น ย่อมเป็นการไม่บังควรเพราะการมีระบบบำบัดน้ำเสียที่อยู่ภายใต้ข้อบังคับของสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม และกรมควบคุมมลพิษ ที่จะต้องปรับ 1.2 คุณภาพน้ำให้ได้ต่ำกว่ามาตรฐาน คือ ค่า BOD จะต้องน้อยว่า 20 มิลลิกรัมต่อลิตร ทั้งนี้ ถ้ามูลนิธิชัยพัฒนานำเครื่องเติมอากาศเข้าไปเสริมในระบบใหญ่ เมื่อผลการปรับคุณภาพน้ำดีกว่าเดิมย่อมจะเป็นผลดี แต่ถ้าคุณภาพน้ำยังไม่ดีกว่าเดิมย่อมจะเป็นข้ออ้าง และเป็นผลเสียต่อมูลนิธิชัยพัฒนา
1.3 ในกรณีที่ภาครัฐมีระบบบำบัดน้ำเสียอยู่แล้ว แต่มีบ่อหรือสระเก็บน้ำที่ใช้รับน้ำที่ผ่านมาการบำบัดเบื้องต้นแยกไว้ต่างหากจากระบบหลัก และต้องการขอให้มูลนิธิชัยพัฒนาใช้เครื่องกลเติมอากาศเพื่อปรับคุณภาพน้ำใน สระเก็บน้ำเพื่อรักษาคุณภาพน้ำก็ย่อมกระทำได้ แต่ต้องพิจารณาความเหมาะสมแล้วแต่กรณี
1.4 แหล่งน้ำสาธารณะบางแห่งที่อยู่ในความรับผิดชอบของภาครัฐ (เทศบาลสุขาภิบาล ฯลฯ) และหน่วยงานขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิชัยพัฒนาเพื่อวางโครงการย่อมกระทำได้ แต่ต้องใช้งบประมาณของภาครัฐนั้น ๆ เว้นแต่จะมีพระราชดำริไว้
1.5 สำหรับภาคเอกชนบางรายที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่สาธารณะหรือแก่มูลนิธิชัยพัฒนา มีความต้องการช่วยเหลือด้านพิจารณาโครงการบำบัดน้ำเสีย มูลนิธิชัยพัฒนาจะพิจารณาสนับสนุนตามความเหมาะสม
1.6 แหล่งน้ำที่สามารถติดตั้งกังหันน้ำชัยพัฒนา ได้จะต้องมีความลึกไม่น้อยกว่า 1.50 เมตร และมีความกว้างไม่น้อยกว่า3.00 เมตร
2. ขั้นตอนการปฏิบัติ
2.1 หน่วยงานต่าง ๆ ที่มีความประสงค์จะติดตั้งเครื่องกลเติมอากาศของมูลนิธิชัยพัฒนา ให้ทำหนังสือแจ้ง2.1 ความประสงค์ มายังสำนักงานมูลนิชัยพัฒนา เรียนถึง เลขาธิการมูลนิชัยพัฒนา ทั้งนี้ หากมีข้อมูล 2.1 เกี่ยวกับสภาพน้ำและสภาพพื้นที่ ให้จัดส่งข้อมูลแนบมาด้วย เพื่อประกอบการพิจารณาเบื้องต้น โดย 2.1 ข้อมูลดังกล่าวได้แก่
- สภาพพื้นที่แหล่งน้ำและขนาดบ่อ ประกอบด้วย ความลึก ความกว้าง และความยาว พร้อมแผนผัง
ประกอบโดยสังเขป
- ค่าความสกปรกของน้ำ ได้แก่ ค่าบีโอดี ค่า Total Nitrogen (TN) ค่า Total Phosphorus (TP) และ - Total Suspended Solids (TSS หรือ สารแขวนลอย) ซึ่งสามารถของความร่วมมือในการตรวจได้จาก - มหาวิทยาลัยหรือสาธารณสุขจังหวัดใน แต่ละพื้นที่ (ถ้ามี)
2.2 สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา จะประสานไปยังกรมชลประทาน และหน่วยงานเพื่อเข้าร่วมสำรวจสภาพ 2.2 พื้นที่ ศึกษาสภาพปัญหา เพื่อวางแผน วางระบบการติดตั้ง และให้ข้อเสนอแนะแนวทางทางวิชาการ 2.2 รวมทั้งประมาณการค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ เพื่อจัดทำสรุปรายละเอียดแผนงานและงบประมาณ 2.2. โครงการเพื่อจัดส่งให้แก่หน่วย งานประกอบการพิจารณา ซึ่งรายละเอียดค่าใช้จ่าย ประกอบด้วย
2.2.1 ค่าใช้จ่ายในการจัดสร้างเครื่องกลเติมอากาศ ได้แก่
- ค่าจัดสร้างเครื่องกังหันน้ำชัยพัฒนาแบบสแตนเลส มีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวน 400,000 บาท/ชุด
(ยังไม่รวมอุปกรณ์การติดตั้ง)
- ค่าจัดสร้างเครื่องกลเติมอากาศแบบอัดอากาศและดูดน้ำ RX – 5C มีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวน
40,000 บาท/ชุด
ทั้งนี้ จำนวนการติดตั้งเครื่องกลเติมอากาศ ขึ้นอยู่กับขนาดของสระน้ำ ค่าความสกปรกของน้ำ
2.2.2 ค่าจัดสร้างตู้ควบคุมไฟฟ้า
2.2.3 ค่าดำเนินการติดตั้ง
หมายเหตุ มูลนิธิชัยพัฒนา จะให้การสนับสนุนวิธีการดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำเสีย และออก ค่าใช้จ่าย ให้เฉพาะองค์กรสาธารณกุศล และหน่วยงานของรัฐที่ปฎิบัติเพื่อสาธารณกุศล แต่ขาดแคลนงบประมาณ