Conventional wine yeasts produce hi

Conventional wine yeasts produce high concentrations of volatile acidity, mainly acetic acid, during high-sugar fermentation. This alcoholic fermentation by-product is highly detrimental to wine quality and, in some cases, levels may even exceed legal limits. In this study, a non-conventional species, Torulaspora delbrueckii, was used, in pure cultures and mixed with Saccharomyces cerevisiae yeast, to ferment botrytized musts. Fermentation rate, biomass growth, and the formation of volatile acidity, acetaldehyde, and glycerol were considered. This study demonstrated that T. delbrueckii, often described as a low acetic producer under standard conditions, retained this quality even in a high-sugar medium. Unlike S. cerevisiae, this species did not respond to the hyper-osmotic medium by increasing acetic production as soon as it is inoculated into the must. Nevertheless, this yeast produced low ethanol and biomass yields, and the fermentation was sluggish. As a result, T. delbrueckii fermentations do not reach the required ethanol content (14%vol.), although this species can survive at this concentration. A mixed culture of T. delbrueckii and S. cerevisiae was the best combination for improving the analytical profile of sweet wine, particularly volatile acidity and acetaldehyde production. A mixed T. delbrueckii/S. cerevisiae culture at a 20:1 ratio produced 53% less in volatile acidity and 60% less acetaldehyde than a pure culture of S. cerevisiae. Inoculating S. cerevisiae after 5 days' fermentation by T. delbrueckii had less effect on volatile acidity and acetaldehyde production and resulted in stuck fermentation. These results contribute to a better understanding of the behaviour of non-Saccharomyces and their potential application in wine industry.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Yeasts ปกติไวน์ผลิตความเข้มข้นสูงของระเหยว่า ส่วนใหญ่เป็นกรดอะซิติก ระหว่างการหมักที่มีน้ำตาลสูง ผลพลอยได้นี้หมักแอลกอฮอล์เป็นผลดีอย่างมากกับไวน์คุณภาพ และ ในบางกรณี ระดับอาจแม้แต่เกินขีดจำกัดของกฎหมาย ในการศึกษานี้ ชนิดไม่ธรรมดา Torulaspora delbrueckii ถูก ใช้ ในวัฒนธรรมบริสุทธิ์ และผสมกับ Saccharomyces cerevisiae เชื้อยีสต์ หมัก botrytized musts หมักอัตรา ชีวมวลเจริญเติบโต และการก่อตัวของมีระเหย acetaldehyde และกลีเซอรได้ถือ การศึกษานี้แสดงว่า ต. delbrueckii อธิบายมักจะเป็นโปรดิวเซอร์อะซิติกต่ำสุดภายใต้เงื่อนไขมาตรฐาน รักษาคุณภาพนี้แม้ในสื่อที่มีน้ำตาลสูง ซึ่งแตกต่างจาก S. cerevisiae พันธุ์นี้ไม่ตอบสนองปานกลางไฮเปอร์การออสโมติก โดยการเพิ่มการผลิตอะซิติกเป็นมันเป็น inoculated เป็นไป อย่างไรก็ตาม นี้ยีสต์ผลิตเอทานอลที่ต่ำและผลผลิตชีวมวล และหมักซบเซา ดัง ต. delbrueckii หมักแหนมไม่ถึงเนื้อหาที่ต้องการเอทานอล (14 ปี), แม้ว่านกชนิดนี้สามารถอยู่รอดในความเข้มข้นนี้ วัฒนธรรมผสมของ S. cerevisiae และต. delbrueckii เป็นชุดที่ดีที่สุดสำหรับโพรไฟล์การวิเคราะห์ของหวานไวน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระเหยว่า acetaldehyde ผลิตและปรับปรุง วัฒนธรรม delbrueckii/S. cerevisiae ต.ผสมในอัตราส่วน 20:1 การผลิต 53% น้อยมีระเหยและ acetaldehyde 60% น้อยกว่าวัฒนธรรมบริสุทธิ์ของ S. cerevisiae Inoculating S. cerevisiae หลังจากหมัก 5 วัน โดยต. delbrueckii มีน้อยผลผลิตมีและ acetaldehyde ที่ผันผวน และส่งผลให้หมักติด ผลลัพธ์เหล่านี้นำไปสู่ความเข้าใจของพฤติกรรมไม่ใช่ Saccharomyces และสมัครที่มีศักยภาพในอุตสาหกรรมไวน์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ยีสต์ไวน์แบบเดิมความเข้มข้นสูงของความเป็นกรดระเหยส่วนใหญ่เป็นกรดอะซิติกระหว่างการหมักน้ำตาลสูง นี้หมักแอลกอฮอล์โดยผลิตภัณฑ์เป็นอย่างสูงที่เป็นอันตรายต่อคุณภาพไวน์และในบางกรณีอาจมีระดับเกินขีด จำกัด ทางกฎหมาย ในการศึกษานี้เป็นสายพันธุ์ที่ไม่ธรรมดา, Torulaspora delbrueckii ถูกนำมาใช้ในวัฒนธรรมที่บริสุทธิ์และผสมกับยีสต์ Saccharomyces cerevisiae, การหมักน้ำลิ้นจี่ botrytized อัตราการหมักการเจริญเติบโตของชีวมวลและการก่อตัวของความเป็นกรดระเหย acetaldehyde และกลีเซอรอลได้รับการพิจารณา การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าที delbrueckii อธิบายมักจะเป็นผู้ผลิตอะซิติกต่ำภายใต้เงื่อนไขมาตรฐานไว้คุณภาพแม้ในกลางน้ำตาลสูง ซึ่งแตกต่างจากเอส cerevisiae สายพันธุ์นี้ไม่ตอบสนองต่อสื่อไฮเปอร์ออสโมติกโดยการเพิ่มการผลิตอะซิติกเร็วที่สุดเท่าที่มันจะถูกเชื้อเข้าต้อง อย่างไรก็ตามยีสต์ผลิตเอทานอลนี้ต่ำและผลผลิตมวลชีวภาพและการหมักเป็นซบเซา เป็นผลให้ที delbrueckii หมักแหนมไม่ถึงเนื้อหาที่เอทานอลที่ต้องการ (14% โดยปริมาตร.) แม้ว่าสายพันธุ์นี้สามารถอยู่รอดที่มีความเข้มข้นนี้ วัฒนธรรมผสมตัน delbrueckii และ S. cerevisiae เป็นชุดที่ดีที่สุดสำหรับการปรับปรุงรายละเอียดการวิเคราะห์ของไวน์หวานโดยเฉพาะอย่างยิ่งความเป็นกรดที่มีความผันผวนและการผลิต acetaldehyde ผสมตัน delbrueckii / S วัฒนธรรม cerevisiae ที่ 20: 1 อัตราการผลิต 53% น้อยกว่าในความเป็นกรดระเหยและ 60% acetaldehyde น้อยกว่าเชื้อบริสุทธิ์ของ S. cerevisiae ฉีดวัคซีน S. cerevisiae หลังจากการหมัก 5 วันโดย T. delbrueckii มีผลกระทบน้อยลงในความเป็นกรดที่มีความผันผวนและการผลิต acetaldehyde และส่งผลให้เกิดการหมักติด ผลลัพธ์เหล่านี้นำไปสู่​​ความเข้าใจที่ดีของพฤติกรรมที่ไม่ Saccharomyces และการประยุกต์ใช้ศักยภาพของพวกเขาในอุตสาหกรรมไวน์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ยีสต์ผลิตไวน์แบบความเข้มข้นสูงของกรดระเหย ส่วนใหญ่เป็นกรดอะซิติก ในระหว่างการหมักน้ำตาลสูง นี้เป็นอย่างมากเป็นอันตรายต่อการหมักแอลกอฮอล์จากไวน์คุณภาพดี และในบางกรณีอาจถึงระดับเกินขอบเขตกฎหมาย ในการศึกษานี้ ไม่ใช่ธรรมดา ชนิด torulaspora delbrueckii , ใช้ในวัฒนธรรมที่บริสุทธิ์และผสมกับ Saccharomyces cerevisiae ยีสต์ หมัก botrytized ต้อง . อัตราการเจริญเติบโตมวลชีวภาพการหมักและการระเหย กรด อะเซทัลดีไฮด์ และกลีเซอรอลระดับปานกลาง การศึกษานี้พบว่า ต. delbrueckii มักจะอธิบายเป็นกรดต่ำผู้ผลิตภายใต้เงื่อนไขมาตรฐาน รักษาคุณภาพนี้ได้ในอาหารน้ำตาลสูง ซึ่งแตกต่างจาก S . cerevisiae ,ชนิดนี้ไม่ตอบสนองต่อสื่อโดยการเพิ่มการผลิตกรดไฮเปอร์ออสโมติก ทันทีที่มันเป็นเชื้อที่ต้อง อย่างไรก็ตาม ยีสต์ผลิตผลผลิตเอทานอลต่ำและชีวมวล และการหมักก็ซบเซา ผล ต. delbrueckii fermentations ไม่ได้ถึงต้องเนื้อหาเอทานอล ( 14 % Vol . ) แม้ว่าชนิดนี้สามารถอยู่รอดได้ในระดับนี้