From the 1970s to 2000, the Soviet

From the 1970s to 2000, the Soviet Union and Russia focused mainly on "traditional" power sources: thermal-, hydro- and nuclear power.[6] However, in 1986, the Soviet government announced new energy goals, which included further hydroelectric plant construction as well as the start of small-scale solar and wind use for electricity production. Overall, Soviet energy policy focused on nuclear and thermal power, although renewable energy was not completely neglected. The dissolution of the Soviet Union prevented those goals from being fulfilled.[8]

The construction of the large dams prominent in Soviet times largely ended in the 1990s with the creation of the Russian Federation. In addition, due to the post-Soviet recession, much of the country's infrastructure, including dams, fell into disrepair.[7][9] Use of oil and gas for energy took priority in Russia and renewable energy was ignored. This policy lasted until 2008, when Medvedev announced reforms to Russia's energy policies in an attempt to focus more on renewable energy. Since then, there has been rapid development

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จากทศวรรษ 1970 การ 2000 สหภาพโซเวียตและรัสเซียเน้นส่วนใหญ่แหล่ง "ดั้งเดิม" พลังงาน: ความร้อน น้ำ - และนิวเคลียร์[6] อย่างไรก็ตาม ในปี 1986 รัฐบาลโซเวียตประกาศพลังงานเป้าหมายใหม่ ซึ่งรวมการก่อสร้างเพิ่มเติม hydroelectric พืชเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้พลังงานแสงอาทิตย์และลมที่ระบุสำหรับการผลิตไฟฟ้า โดยรวม นโยบายพลังงานโซเวียตเน้นพลังงานนิวเคลียร์ และความร้อน แม้ว่าพลังงานหมุนเวียนไม่สมบูรณ์ที่ไม่มีกิจกรรม การยุบสหภาพโซเวียตไม่ให้เป้าหมายเหล่านั้นจากการตอบสนอง[8]การก่อสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ที่โดดเด่นในโซเวียตส่วนใหญ่สิ้นสุดในปี 1990 ด้วยการสร้างสหพันธรัฐรัสเซีย นอกจากนี้ เนื่องจากภาวะถดถอยหลังโซเวียต ที่มากของโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ รวมทั้งเขื่อน ตกลงไปในทรุดโทรม[7][9] สำคัญในรัสเซียได้การใช้น้ำมันและก๊าซธรรมชาติพลังงาน และพลังงานทดแทนถูกละเว้น นโยบายนี้กินเวลาถึง 2008 เมื่อเมดเวเดฟประกาศการปฏิรูปนโยบายพลังงานของรัสเซียในความพยายามที่จะเน้นเพิ่มเติมเกี่ยวกับพลังงานทดแทน ตั้งแต่นั้น มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จากปี 1970 ถึง 2000 สหภาพโซเวียตและรัสเซียส่วนใหญ่เน้น "ดั้งเดิม" แหล่งพลังงาน: บ่อน้ำพุร้อน, Hydro- และพลังงานนิวเคลียร์ [6] อย่างไรก็ตามในปี 1986 รัฐบาลโซเวียตประกาศเป้าหมายพลังงานใหม่ซึ่งรวมถึงโรงงานไฟฟ้าต่อไป. การก่อสร้างเช่นเดียวกับการเริ่มต้นของการขนาดเล็กที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์และกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้า โดยรวม, นโยบายพลังงานของสหภาพโซเวียตที่มุ่งเน้นการใช้พลังงานนิวเคลียร์และความร้อนแม้ว่าพลังงานทดแทนไม่ได้ถูกทอดทิ้งอย่างสมบูรณ์ การสลายตัวของสหภาพโซเวียตป้องกันเป้าหมายเหล่านั้นจากการถูกเติมเต็ม. [8] การก่อสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ที่โดดเด่นในช่วงเวลาส่วนใหญ่ของสหภาพโซเวียตสิ้นสุดในปี 1990 ด้วยการสร้างของรัสเซีย นอกจากนี้เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยโพสต์โซเวียตมากของโครงสร้างพื้นฐานของประเทศรวมทั้งเขื่อนทรุดโทรมลง. [7] [9] การใช้น้ำมันและก๊าซสำหรับพลังงานเอาความสำคัญในรัสเซียและพลังงานทดแทนก็ไม่สนใจ นโยบายนี้จนถึงปี 2008 เมื่อเมดเวเดฟประกาศการปฏิรูปของรัสเซียนโยบายด้านพลังงานในความพยายามที่จะมุ่งเน้นเพิ่มเติมเกี่ยวกับพลังงานทดแทน ตั้งแต่นั้นมาได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จากปี 1970 ถึงปี สหภาพโซเวียตและรัสเซีย เพื่อเน้น " แหล่งพลังงานแบบดั้งเดิม " : ความร้อน - พลัง - พลังนิวเคลียร์ [ 6 ] แต่ในปี 1986 รัฐบาลโซเวียตประกาศเป้าหมายใหม่ของพลังงาน ซึ่งรวมถึงไฟฟ้าในโรงงานเพิ่มเติม รวมทั้งเริ่มใช้พลังงานแสงอาทิตย์และลมขนาดเล็กสำหรับการผลิต ไฟฟ้า โดยรวมนโยบายพลังงานของสหภาพโซเวียตเน้นพลังงานความร้อนนิวเคลียร์ และถึงแม้ว่าพลังงานทดแทนไม่ทอดทิ้ง . การสลายตัวของสหภาพโซเวียตทำให้เป้าหมายเหล่านั้นถูกเติมเต็ม [ 8 ]

การก่อสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ที่โดดเด่นในสมัยสหภาพโซเวียตส่วนใหญ่สิ้นสุดในปี 1990 ด้วยการสร้างของสหพันธรัฐรัสเซีย นอกจากนี้ เนื่องจากการโพสต์โซเวียต ภาวะถดถอยมากของโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ รวมทั้งเขื่อนล้มลงไปในสภาพทรุดโทรม [ 7 ] [ 9 ] ใช้น้ำมันและก๊าซเป็นพลังงานเอาความสำคัญในรัสเซีย และพลังงานทดแทนถูกละเว้น นโยบายนี้ lasted จนกว่า 2008 เมื่อจีนประกาศการปฏิรูปนโยบายพลังงานของรัสเซีย ในการพยายามที่จะมุ่งเน้นเพิ่มเติมเกี่ยวกับพลังงานทดแทน หลังจากนั้นได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว