3. RESULTS3.1. Environmental DataEf

3. RESULTS
3.1. Environmental Data
Effects of number of rainy days, rainfall, maximum and
minimum temperatures on grain production of upland
rice (Nangdam and Lebnok varieties) grown during the
rainy season (Fig. 1). The results showed that the rainfall
during the July to November, 2010 was found to be
deleterious for upland rice growth, yield and grain
quality. In vegetative, reproductive and grain formation
to ripening stages of rice plants received average monthly
rainfall ranges from 12.40 to 97.10 mm (Fig. 1a) with
average monthly temperatures ranges from 31.40 to
35.00°C (Fig. 1b). The two tested varieties got 12.40-59.20
mm of rainfall during vegetative stage, 57.40 mm in
reproductive stage, 97.10 mm in grain formation stage, with
number of 10, 7 and 12 raining days, respectively.
3.2. Growth Responses
Effect of drought condition on growth of Nangdam and
Lebnok varieties are presented in Fig. 2a. The
Nangdam was the plant high of 95.50 cm, days to
booting of 72 days, days to 50% flowering of 93 days and
days to harvesting of the grain of 122 days, but not
significantly different from those of Lebnok was the
plant high of 92cm, days to booting of 68 days, days
to 50% flowering of 90 days and days to harvesting of
120 days. The number of panicle per tiller was
affected by drought condition. There was no
significant difference in number of panicle per tiller
among the varieties had resembled number of panicle
per tiller of 4 panicle. All varieties had similar panicle
length ranges from 24.22 to 24.45cm.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

3. ผลลัพธ์3.1. ข้อมูลสิ่งแวดล้อมผลของจำนวนวันที่ฝนตก ฝนตก สูงสุด และอุณหภูมิต่ำสุดในการผลิตข้าวของค่อยข้าว (พันธุ์ Nangdam และ Lebnok) ปลูกในฝนฤดูกาล (Fig. 1) ผลพบว่าปริมาณน้ำฝนในระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงพฤศจิกายน 2010 พบจะร้ายค่อยข้าวเจริญเติบโต ผลผลิต และเมล็ดข้าวคุณภาพการ ในการสืบพันธุ์และเมล็ดผักเรื้อรัง ก่อถึง ripening ระยะข้าว พืชเฉลี่ยรายเดือนที่ได้รับปริมาณน้ำฝนตั้งแต่ 12.40 97.10 มม. (Fig. 1a) ด้วยช่วงอุณหภูมิรายเดือนเฉลี่ยจาก 31.40 เพื่อ35.00° C (Fig. 1b) สองสายพันธุ์ทดสอบได้ 12.40 59.20มม.ปริมาณน้ำฝนระหว่างผักเรื้อรังระยะ 57.40 มม.สืบพันธุ์ระยะ 97.10 มม.ในระยะข้าวกำเนิด มีหมายเลข 10, 7 และ 12 ฝนตกวัน ตามลำดับ3.2 การตอบเจริญเติบโตผลของสภาพแล้งเจริญเติบโตของ Nangdam และมีแสดงสายพันธุ์ Lebnok ใน Fig. 2a ที่Nangdam เป็นพืชที่สูงของซม. 95.50 วันเริ่มระบบของ 72 วัน วันดอก 50% 93 วัน และวันเก็บเกี่ยวข้าววัน 122 แต่ไม่ไม่แตกต่างอย่างมากจากบรรดา Lebnokพืชสูง 92 ซม. จำนวนวันที่จะเริ่มระบบของ 68 วัน วันให้ดอก 50% ของ 90 วันและวันที่จะเก็บเกี่ยววัน 120 จำนวน panicle ต่อการเพาะปลูกได้รับผลกระทบจากสภาพภัยแล้ง มีไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญจำนวน panicle ต่อการเพาะปลูกระหว่างพันธุ์มีคล้ายกับจำนวน panicleต่อเสือ 4 panicle พันธุ์ทั้งหมดมี panicle คล้ายความยาวช่วงจาก 24.22 24.45 ซม.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3. ผล
3.1 สิ่งแวดล้อมข้อมูล
ผลกระทบจากจำนวนวันที่ฝนตกปริมาณน้ำฝนสูงสุดและ
อุณหภูมิต่ำสุดในการผลิตเม็ดดอน
ข้าว (Nangdam และ Lebnok พันธุ์) ที่ปลูกในช่วง
ฤดูฝน (รูปที่ 1). ผลการศึกษาพบว่าปริมาณน้ำฝน
ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนพฤศจิกายน 2010 พบว่ามี
อันตรายต่อการเจริญเติบโตข้าวไร่ผลผลิตข้าว
ที่มีคุณภาพ ในพืช, การก่อตัวของระบบสืบพันธุ์และเมล็ดพืช
ที่จะสุกขั้นตอนของต้นข้าวที่ได้รับเฉลี่ยต่อเดือน
ช่วงปริมาณน้ำฝน 12.40-97.10 มม (รูปที่ 1a.) โดยมี
อุณหภูมิเฉลี่ยต่อเดือนตั้งแต่ 31.40 ถึง
35.00 ° C (รูปที่. 1b) สองสายพันธุ์ที่ผ่านการทดสอบได้ 12.40-59.20
มิลลิเมตรปริมาณน้ำฝนในระหว่างขั้นตอนพืช, 57.40 มม
เวทีเจริญพันธุ์ 97.10 มมอยู่ในขั้นตอนการสร้างเมล็ดพืชที่มี
จำนวน 10, 7 และ 12 วันมีฝนตกตามลำดับ
3.2 คำตอบการเจริญเติบโตของ
ผลกระทบจากสภาพความแห้งแล้งในการเจริญเติบโตของ Nangdam และ
Lebnok พันธุ์ถูกนำเสนอในรูป 2a
Nangdam เป็นพืชสูง 95.50 ซม., วันในการ
บูตของ 72 วันวันที่ 50% การออกดอกของ 93 วันและ
วันที่จะเก็บเกี่ยวข้าวจาก 122 วัน แต่ไม่
แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญจากผู้ Lebnok เป็น
พืชสูงของ 92 วันที่จะบูตจาก 68 วัน, วันที่
ถึง 50% การออกดอกของ 90 วันและวันที่จะเก็บเกี่ยว
120 วัน จำนวนรวงต่อไถนาได้
รับผลกระทบจากสภาพความแห้งแล้ง ไม่มีเป็น
ความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในจำนวนรวงต่อไถนา
ระหว่างพันธุ์ได้คล้ายกับจำนวนช่อ
ต่อไถนาจาก 4 ช่อ พันธุ์ทั้งหมดมีช่อคล้ายกัน
ช่วงระยะเวลาจาก 24.22 เพื่อ 24.45cm

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

3 . ผลลัพธ์
3.1 . ข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมผลของจำนวนวันที่ฝนตกปริมาณน้ำฝน อุณหภูมิสูงสุด อุณหภูมิต่ำสุด ในการผลิตข้าว

( nangdam ของข้าวไร่และพันธุ์ lebnok ) ที่ปลูกในช่วงฤดูฝน
( รูปที่ 1 ) ผลการศึกษา พบว่า ปริมาณน้ำฝน
ระหว่างเดือนกรกฎาคม - พฤศจิกายน 2553 พบว่ามี
เป็นอันตรายสำหรับข้าวไร่ การเจริญเติบโต ผลผลิตและคุณภาพเมล็ด

พืชใน ,การสืบพันธุ์และการสุกของเมล็ดการปลูกข้าวระยะ

ได้รับปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยรายเดือนตั้งแต่ 12.40 ถึง 97.10 มม. ( รูปที่ 1A ) อุณหภูมิเฉลี่ยรายเดือน


ทั้งๆที่ช่วงจาก 35.00 ° C ( รูปที่ 1A ) สองทดสอบพันธุ์ได้ 12.40-59.20
มิลลิเมตรของปริมาณน้ำฝนในช่วงระยะการเจริญเติบโตทางลำต้นและใบ , 57.40 mm
ระยะเจริญพันธุ์ 97.10 มม. ขั้นสร้างลายไม้ กับ
จำนวน 107 และ 12 ฝนตกวัน .
2 . การตอบสนอง
ผลกระทบของภาวะแล้งต่อการเจริญเติบโตและ nangdam
พันธุ์ lebnok จะถูกนำเสนอในรูปที่ 2A .
nangdam เป็นพืชสูง 95.50 ซม. วัน

การบูตของ 72 วัน อายุวันออกดอก 50 เปอร์เซ็นต์ของ 93 วัน
วัน การเก็บเกี่ยวเมล็ดของ 122 วัน แต่ไม่ใช่
อย่างมาก แตกต่างจาก lebnok เป็นพืชสูง 92 ซม.
,วันเริ่มของ 68 วัน วัน
ออกดอก 50 เปอร์เซ็นต์ 90 วัน และวันเก็บเกี่ยวของ
120 วัน จำนวนรวงต่อติด รถไถ
ผลกระทบจากสภาพความแห้งแล้ง ไม่มีความแตกต่างในจํานวน

ระหว่างช่อต่อตะกูพันธุ์ได้มีจำนวนรวงต่อตะกู
4 ช่อได้ ทุกสายพันธุ์มีความยาวใกล้เคียงกับช่วง 24.22
24.45cm .