According to reports, Boeing has fi

According to reports, Boeing has filed a patent application for manufacturing aircraft parts with a 3d printer. The application outlines a detailed process of turning a 3d design file into a 3d printed object through a central database management system that Boeing and its customers can use to fulfil spare part orders.

A Boeing spokesperson revealed that the aviation giant has been using 3d printing since 1997, and it currently 3d prints approximately 300 non-metallic parts across 10 different aircraft platforms. In total, this equates to more than 20,000 3d printed parts flying in the skies today - components that can essentially be replaced with a push of a button and a high-end 3d printer located anywhere in the world.

Boeing wants to continue replacing conventionally manufactured parts with 3d printed components, meaning its aircraft will become increasingly reliant on 3d printing technology. In many ways, this patent application embodies the disruptive power of 3d printing to fundamentally change the way things are made - future aircraft included.

To understand the value 3d printing offers to Boeing and its customers, the patent application cited a major challenge facing aircraft operators today.

During the lifetime of an aircraft, parts may be replaced. In order to meet demand for replacement parts, aircraft manufacturers may keep an inventory of parts on hand. A client may request parts from the aircraft manufacturer when a replacement part is desired.

However, receiving requested parts from the aircraft manufacturer may take an undesirable amount of time for a client. Some clients may keep an inventory of parts on hand to avoid waiting an undesirable amount of time.

However, storing an inventory of extra parts either at an aircraft manufacturer or at a client may use an undesirable amount of resources.

On a high level, 3d printing is an additive manufacturing process that creates 3d objects one layer at time, essentially ‘growing’ parts out of hundreds or thousands of layers, depending on the object's size. Compared to conventional subtractive manufacturing processes, 3d printing doesn't require tooling, which invites design complexity; can reduce lead times and costs; and changes the way inventory could be managed.

In other words, Boeing wants to 3d print more aircraft parts because it offers the potential to significantly improve cost structures and waiting times for itself and customers. With only a few hundred aircraft parts currently being 3d printed across Boeing's aircraft platforms, there's tremendous opportunity to improve that figure, even if 3d printing only grew to represent 1 percent of total parts in a given a commercial aircraft.

Thus far, only non-metallic 3d-printed parts have made it inside Boeing's aircraft, suggesting the company is primarily focused on replacing conventionally manufactured components that won't affect a plane's structural integrity. In the future, Boeing might use 3d printing for more mission-critical applications, considering the patent application makes direct mention of a 3d printing data management system that works with metals and metal alloys.

As an early adopter of 3d printing, Boeing clearly understands how the technology offers the potential to change the aviation industry for the better. Ultimately, 3d printing gives Boeing the ability to improve how spare parts are made by reducing lead times and costs, a savings that can be passed along to operators, which also stand to benefit from shorter maintenance times.

Although we're a long way from Boeing's next aircraft being entirely 3d printed, the company's embrace of the technology and all the potential efficiency gains that come with it could provide an unexpected tailwind to earnings over the long haul.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตามรายงาน โบอิ้งได้ยื่นสิทธิสำหรับการผลิตชิ้นส่วนเครื่องบินด้วยเครื่องพิมพ์ 3d รายละเอียดกระบวนการเปลี่ยนไฟล์ออกแบบ 3 มิติใน 3d พิมพ์เค้าร่างแอพลิเคชันวัตถุผ่านระบบการจัดการฐานข้อมูลกลางที่ โบอิ้งและลูกค้าสามารถใช้การตอบสนองใบสั่งอะไหล่โฆษกกล่าวโบอิ้งเปิดเผยว่า ได้ใช้ยักษ์บิน 3d พิมพ์ตั้งแต่ปี 1997 และ 3d ในขณะพิมพ์ประมาณ 300 อโลหะส่วนข้ามแพลตฟอร์มเครื่องบินแตกต่างกัน 10 รวม นี้เท่ากับ 20,000 กว่า 3d ส่วนบินในท้องฟ้าวันนี้ - คอมโพเนนต์ที่สามารถถูกแทนที่ด้วยหลักกดปุ่มและเครื่องพิมพ์ 3d ระดับไฮเอนด์อยู่ที่ใดก็ได้ในโลกโบอิ้งต้องไปเปลี่ยนตามอัตภาพผลิตชิ้นส่วนที่ มีส่วนประกอบในการพิมพ์ 3 มิติ ความหมาย ของเครื่องบินจะพึ่งเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติมากขึ้น ในหลาย ๆ สิทธิบัตรนี้มอบอำนาจก่อกวนการพิมพ์ 3 มิติการเปลี่ยนวิธีการสิ่งที่ทำ - เครื่องบินในอนาคตรวมพื้นฐานเข้าใจค่าพิมพ์เสนอ 3d กับโบอิ้งและลูกค้า สิทธิบัตรที่อ้างถึงความท้าทายสำคัญหันหน้าไปทางเครื่องบินผู้ประกอบการวันนี้ในระหว่างอายุการใช้งานของเครื่องบิน ชิ้นส่วนอาจถูกแทน เพื่อตอบสนองความต้องการอะไหล่ ผู้ผลิตเครื่องบินอาจเก็บสินค้าคงคลังของชิ้นส่วนในมือ ไคลเอนต์อาจขอชิ้นส่วนจากผู้ผลิตเครื่องบินส่วนหนึ่งแทนได้ตามต้องการอย่างไรก็ตาม ได้รับชิ้นส่วนที่ร้องขอจากผู้ผลิตเครื่องบินอาจใช้จำนวนเวลาไม่พึงปรารถนาสำหรับไคลเอนต์ ลูกค้าบางอย่างอาจเก็บสินค้าคงคลังของชิ้นส่วนในมือเพื่อหลีกเลี่ยงการรอจำนวนเวลาไม่พึงปรารถนาอย่างไรก็ตาม การเก็บสินค้าคงคลังเพิ่มเติมส่วน ที่ผู้ผลิตเครื่องบิน หรือ ที่ไคลเอนต์อาจใช้จำนวนทรัพยากรไม่พึงปรารถนาในระดับสูง พิมพ์ 3 มิติคือ สารการผลิตกระบวนการที่สร้างวัตถุ 3 มิติชั้นหนึ่งในเวลา หลัก 'เติบโต' ชิ้นส่วนจากหลายร้อยหรือหลายพันชั้น ขึ้นอยู่กับขนาดของวัตถุ เมื่อเทียบกับกระบวนการผลิตทั่วไปแบบลดทอน พิมพ์ 3 มิติไม่ต้องใช้เครื่องมือ ที่เชิญออกแบบซับซ้อน สามารถลดระยะเวลาและค่าใช้จ่าย และการเปลี่ยนแปลงที่สามารถจัดการสินค้าคงคลังทางในคำอื่น ๆ โบอิ้งต้องการ 3d พิมพ์เพิ่มเติมชิ้นส่วนเครื่องบินเนื่องจากมีศักยภาพในการปรับปรุงโครงสร้างต้นทุนและรอคอยเวลาสำหรับตัวเองและลูกค้า เพียงไม่กี่ร้อยลำส่วนปัจจุบันเป็น 3d พิมพ์ข้ามแพลตฟอร์มเครื่องบินของโบอิ้ง มีโอกาสอย่างมากในการปรับปรุงรูปที่ แม้ว่าพิมพ์ 3d เท่านั้นเติบโตถึงร้อยละ 1 ส่วนรวมในการรับเครื่องบินพาณิชย์ป่านนี้ ชิ้นส่วน 3d พิมพ์เท่านั้นไม่ใช่โลหะได้ทำภายในเครื่องบินของโบอิ้ง แนะนำบริษัทฯ จะเน้นหลักในการแทนที่ส่วนประกอบที่ผลิตตามอัตภาพที่จะไม่ส่งผลต่อความสมบูรณ์ของโครงสร้างเครื่องบิน ในอนาคต โบอิ้งอาจใช้พิมพ์ 3 มิติสำหรับการใช้งานที่สำคัญมากขึ้น พิจารณาสิทธิบัตรการทำ 3d การพิมพ์ระบบจัดการข้อมูลที่ใช้ได้กับโลหะและโลหะผสมที่กล่าวถึงโดยตรงเป็นการช่วงตั้งแต่ยุคแรกเริ่มการพิมพ์ 3 มิติ โบอิ้งชัดเจนเข้าใจวิธีเทคโนโลยีมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการบินให้ดี ในที่สุด พิมพ์ 3 มิติให้โบอิ้งทำความสามารถในการปรับปรุงวิธีอะไหล่ โดยลดระยะเวลาและค่าใช้จ่าย เงินฝากออมทรัพย์ที่สามารถผ่านไปถึงผู้ประกอบการ ซึ่งยืนได้รับประโยชน์จากการลดเวลาการบำรุงรักษาแม้ว่าเรากำลังเที่ยวบินถัดไปของโบอิ้งทั้งหมดถูกพิมพ์ 3d อ้อมกอดของบริษัทเทคโนโลยีและทั้งหมดมีศักยภาพรับประสิทธิภาพที่มากับมันอาจให้ tailwind ไม่คาดคิดกำไรผ่านระยะไกล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตามรายงานของโบอิ้งได้ยื่นคำขอรับสิทธิบัตรสำหรับการผลิตชิ้นส่วนเครื่องบินด้วยเครื่องพิมพ์ 3D แอพลิเคชันสรุปรายละเอียดกระบวนการของการเปลี่ยนไฟล์การออกแบบ 3 มิติเป็น 3 มิติพิมพ์วัตถุผ่านระบบกลางการจัดการฐานข้อมูลที่โบอิ้งและลูกค้าสามารถใช้ในการปฏิบัติตามคำสั่งอะไหล่. โฆษกโบอิ้งเปิดเผยว่ายักษ์บินได้รับการใช้การพิมพ์ 3 มิติตั้งแต่ ปี 1997 และมัน 3D ขณะพิมพ์ประมาณ 300 ส่วนที่ไม่ใช่โลหะใน 10 แพลตฟอร์มเครื่องบินที่แตกต่างกัน ทั้งหมดนี้เท่ากับมากกว่า 20,000 3d พิมพ์ชิ้นส่วนที่บินอยู่บนท้องฟ้าวันนี้ -. ส่วนประกอบที่สามารถเป็นหลักจะถูกแทนที่ด้วยการกดปุ่มและระดับ high-end เครื่องพิมพ์ 3D อยู่ที่ใดก็ได้ในโลกโบอิ้งต้องการที่จะดำเนินการเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ผลิตตามอัตภาพ ชิ้นส่วนที่มีส่วนประกอบพิมพ์ 3 มิติ, ความหมายเครื่องบินจะกลายเป็นมากขึ้นพึ่งพาเทคโนโลยีการพิมพ์ 3D ในหลาย ๆ วิธีการยื่นขอรับสิทธิบัตรนี้ embodies อำนาจก่อกวนของการพิมพ์ 3 มิติเพื่อพื้นฐานเปลี่ยนวิธีการสิ่งที่จะทำ. - เครื่องบินในอนาคตรวมถึงเพื่อให้เข้าใจถึงค่าการพิมพ์ 3 มิตินำเสนอให้กับโบอิ้งและลูกค้า, การยื่นขอรับสิทธิบัตรที่อ้างถึงความท้าทายที่สำคัญหันหน้าไปทางผู้ประกอบการอากาศยาน วันนี้. ในช่วงอายุการใช้งานของเครื่องบินชิ้นส่วนอาจถูกแทนที่ เพื่อตอบสนองความต้องการสำหรับชิ้นส่วนอะไหล่ผู้ผลิตเครื่องบินอาจเก็บสินค้าคงคลังของชิ้นส่วนในมือ ลูกค้าอาจขอชิ้นส่วนจากผู้ผลิตเครื่องบินเมื่อส่วนทดแทนเป็นที่ต้องการ. แต่ได้รับชิ้นส่วนที่ได้รับการร้องขอจากผู้ผลิตเครื่องบินที่อาจใช้ในปริมาณที่ไม่พึงประสงค์ของเวลาสำหรับลูกค้า ลูกค้าบางคนอาจเก็บสินค้าคงคลังของชิ้นส่วนในมือที่จะหลีกเลี่ยงการรอคอยในปริมาณที่ไม่พึงประสงค์ของเวลา. อย่างไรก็ตามการจัดเก็บสินค้าคงคลังของชิ้นส่วนพิเศษอย่างใดอย่างหนึ่งที่ผู้ผลิตเครื่องบินหรือลูกค้าอาจจะใช้ในปริมาณที่ไม่พึงประสงค์ของทรัพยากร. ในระดับสูง 3D พิมพ์เป็นกระบวนการผลิตสารเติมแต่งที่สร้างวัตถุ 3 มิติชั้นหนึ่งตลอดเวลาเป็นหลักเติบโต 'ชิ้นส่วนออกจากร้อยหรือหลายพันชั้นขึ้นอยู่กับขนาดของวัตถุ เมื่อเทียบกับกระบวนการผลิตลดธรรมดาพิมพ์ 3 มิติที่ไม่ต้องใช้เครื่องมือที่เชิญชวนให้ยุ่งยากในการออกแบบ; สามารถลดเวลาและค่าใช้จ่ายนำ; สินค้าคงคลังและการเปลี่ยนแปลงวิธีการที่จะได้รับการจัดการ. ในคำอื่น ๆ โบอิ้งต้องการให้เป็น 3 มิติส่วนการพิมพ์มากขึ้นเครื่องบินเพราะมันมีศักยภาพที่จะมีนัยสำคัญปรับปรุงโครงสร้างค่าใช้จ่ายและเวลาในการรอสำหรับตัวเองและลูกค้า มีเพียงไม่กี่ร้อยชิ้นส่วนเครื่องบินในปัจจุบันมีการพิมพ์ 3D ทั่วโบอิ้งของแพลตฟอร์มเครื่องบินมีโอกาสอันยิ่งใหญ่ในการปรับปรุงตัวเลขที่แม้ว่าการพิมพ์ 3 มิติเท่านั้นขึ้นไปคิดเป็นร้อยละ 1 ของชิ้นส่วนทั้งหมดในได้รับเครื่องบินเชิงพาณิชย์. ป่านนี้ไม่เพียง โลหะ 3D พิมพ์ชิ้นส่วนได้ทำให้มันภายในเครื่องบินโบอิ้งบอก บริษัท จะเน้นหลักในการเปลี่ยนชิ้นส่วนที่ผลิตตามอัตภาพที่จะไม่ส่งผลต่อความสมบูรณ์ของโครงสร้างของเครื่องบิน ในอนาคตโบอิ้งอาจใช้การพิมพ์ 3 มิติสำหรับการใช้งานภารกิจที่สำคัญมากขึ้นการพิจารณาคำขอสิทธิบัตรทำให้การพูดถึงโดยตรงของระบบการจัดการ 3d พิมพ์ข้อมูลที่ทำงานร่วมกับโลหะและโลหะผสม. ในฐานะที่เป็นยอมรับต้นของการพิมพ์ 3D, โบอิ้งได้อย่างชัดเจนเข้าใจวิธีการ เทคโนโลยีมีศักยภาพที่จะเปลี่ยนอุตสาหกรรมการบินให้ดีขึ้น ในท้ายที่สุดการพิมพ์ 3 มิติช่วยให้โบอิ้งความสามารถในการปรับปรุงวิธีการชิ้นส่วนอะไหล่จะทำโดยการลดเวลาและค่าใช้จ่ายนำเงินฝากออมทรัพย์ที่สามารถผ่านไปพร้อมกับผู้ประกอบการที่ยังยืนที่จะได้รับประโยชน์จากสั้นครั้งการบำรุงรักษา. แม้ว่าเราจะเป็นทางยาวจาก เครื่องบินโบอิ้งต่อไปถูก 3D ทั้งหมดพิมพ์อ้อมกอดของ บริษัท ของเทคโนโลยีและทั้งหมดที่มีศักยภาพการเพิ่มประสิทธิภาพที่มาพร้อมกับมันสามารถให้องศาเซลเซียสที่ไม่คาดคิดกับรายได้มากกว่าลากยาว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตามรายงาน , โบอิ้งได้ยื่นขอรับสิทธิบัตรสำหรับการผลิตชิ้นส่วนอากาศยานด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ การสรุปกระบวนการรายละเอียดของเปิดแฟ้มออกแบบ 3D เป็น 3D พิมพ์วัตถุผ่านฐานข้อมูลกลางของระบบการจัดการที่โบอิ้ง และลูกค้าสามารถใช้เพื่อเติมเต็มการสั่งซื้ออะไหล่โฆษกของโบอิ้งเปิดเผยว่า การบินยักษ์ได้โดยใช้การพิมพ์ 3 มิติตั้งแต่ปี 1997 และปัจจุบัน 3D พิมพ์ประมาณ 300 อโลหะส่วนข้าม 10 แพลตฟอร์มอากาศยานที่แตกต่างกัน ทั้งหมดนี้เป็นมากกว่า 20 , 000 ส่วนที่พิมพ์ 3D ที่บินอยู่บนท้องฟ้าวันนี้ - ส่วนประกอบที่เป็นหลักสามารถถูกแทนที่ด้วยการกดปุ่มและคุณภาพสูงเครื่องพิมพ์ 3D อยู่ที่ใดก็ได้ในโลกโบอิ้งต้องการที่จะยังคงผลิตชิ้นส่วนแทนซึ่งด้วยองค์ประกอบที่พิมพ์ 3D , ความหมายของอากาศยานจะเป็นมากขึ้นพึ่งพาเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ ในหลายวิธี การใช้สิทธิบัตรนี้รวบรวมพลังทำลายของการพิมพ์ 3D ที่ทำให้สิ่งที่เกิดขึ้น - เครื่องบินในอนาคตรวมเข้าใจค่าการพิมพ์ 3 มิติให้กับโบอิ้งและลูกค้า , สิทธิบัตรอ้างหลักความท้าทายหันหน้าไปทางผู้ประกอบการเครื่องบินวันนี้ในช่วงชีวิตของอากาศยาน ชิ้นส่วนอาจถูกแทนที่ เพื่อตอบสนองความต้องการสำหรับอะไหล่ , ผู้ผลิตอากาศยานอาจเก็บสินค้าคงคลังของชิ้นส่วนบนมือ ลูกค้าอาจขอจากผู้ผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน เมื่อเปลี่ยนเป็นส่วนหนึ่งที่ต้องการอย่างไรก็ตาม การได้รับการร้องขอจากผู้ผลิตชิ้นส่วนอากาศยานอาจใช้เวลาจำนวนมากของเวลาที่ไม่พึงประสงค์สำหรับลูกค้า ลูกค้าบางคนอาจเก็บสินค้าคงคลังของชิ้นส่วนในมือเพื่อหลีกเลี่ยงการรอยอดเงินที่ไม่พึงประสงค์ของเวลาอย่างไรก็ตาม การจัดเก็บสินค้าคงคลังของชิ้นส่วนเสริมทั้งที่เป็นผู้ผลิตอากาศยาน หรือลูกค้าอาจใช้ปริมาณที่ไม่พึงประสงค์ของทรัพยากรในระดับสูง การพิมพ์ 3D เพิ่มกระบวนการผลิตที่สร้างวัตถุ 3 มิติหนึ่งเลเยอร์ในเวลาเป็นหลัก " เติบโต " ชิ้นส่วนออกมาจากหลายร้อยหรือหลายพันของชั้นขึ้นอยู่กับขนาดของวัตถุ เมื่อเทียบกับกระบวนการเดิมใช้การผลิต การพิมพ์ 3D ไม่ต้องใช้เครื่องมือ ซึ่งขอเชิญชวนออกแบบความซับซ้อน ; สามารถลดเวลารอคอยและต้นทุน และการเปลี่ยนแปลงทางพัสดุจะต้องมีการจัดการในคำอื่น ๆ , โบอิ้งต้องการการพิมพ์ 3 มิติชิ้นส่วนเครื่องบินมากกว่า เพราะมันมีศักยภาพที่จะปรับปรุงโครงสร้างค่าใช้จ่ายและเวลารอสำหรับตัวเองและลูกค้า เพียงไม่กี่ร้อย อากาศยาน ชิ้นส่วนที่กำลังพิมพ์ 3D โบอิ้งเครื่องบินข้ามแพลตฟอร์ม มีมหาศาลโอกาสที่จะปรับปรุงตัวเลข แม้ว่าการพิมพ์ 3D เท่านั้นก็เป็นตัวแทนของ 1 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด ส่วนที่ระบุในเครื่องบินเชิงพาณิชย์ดังนั้นไกลเท่านั้นที่ไม่ใช่โลหะพิมพ์ 3D ส่วนได้ภายในเครื่องบินโบอิ้งเครื่องบิน แนะนำให้ บริษัท เป็นหลัก โดยเน้นการผลิตส่วนประกอบที่ไม่ส่งผลกระทบต่อความสมบูรณ์ของโครงสร้างของเครื่องบิน . ในอนาคต , โบอิ้งอาจจะใช้พิมพ์ 3D สำหรับภารกิจที่สำคัญการพิจารณาสิทธิบัตรทำให้กล่าวถึงโดยตรงของ 3D การพิมพ์ข้อมูลการจัดการระบบที่ใช้ได้กับโลหะและโลหะผสมโลหะเป็นผู้รับแรกของการพิมพ์ 3 มิติ , โบอิ้ง ชัดเจน เข้าใจวิธีการ เทคโนโลยีมีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการบินให้ดีขึ้น ในที่สุด , การพิมพ์ 3D ให้โบอิ้งสามารถปรับปรุงวิธีการทำโดยนำอะไหล่ลดเวลาและต้นทุนเงินฝากออมทรัพย์ที่สามารถส่งต่อไปยังผู้ประกอบการซึ่งยังยืนที่จะได้รับประโยชน์จากการรักษาสั้นครั้งแม้ว่าเราอยู่ไกลจากโบอิ้งเครื่องบินต่อไปได้ทั้งหมด 3 พิมพ์ บริษัท อ้อมกอดของเทคโนโลยีและศักยภาพกำไรประสิทธิภาพที่มาพร้อมกับมันอาจให้เทลวินด์ไม่คาดคิดจะกำไรมากกว่าลากยาว