Self-determination theory is a meta

Self-determination theory is a meta -theory that describes the rela- tionships between internal and external factors on intrinsic and extrin- sic motivation (Deci & Ryan, 2011). Causality Orientations Theory, a component of self-determination theory, describes an individual's pat- tern of motivation and behavior. General causality orientations are rel- atively enduring, trait-like characteristics reflective of an individual's belief about their ability to promote or cause change (Deci & Ryan, 1985). These beliefs regarding locus of causality correspond with an individual's motivational pattern. Three distinct orientations have been evaluated: Autonomy, associated with an internal locus of causality and intrinsic motivation; Controlled, related with an external locus of causality and extrinsic motivation; and Impersonal, associated with a lack of control over causality leading to a lack of motivation.
Previous studies report that causality orientations are related to treatment outcomes. For example, Autonomy orientations were associ- ated with lower rates of depression among individuals in a brief depres- sion treatment (Zuroff et al., 2007) and higher attendance rates and more sustained weight loss among individuals enrolled in a long-term weight loss program (Williams, Grow, Freedman, Ryan, & Deci, 1996). The majority of research has focused on the superiority of Autonomy orientations in the promotion of behavior change. However, individuals with Controlled orientations may increasingly benefit from some types of treatment modalities (Neighbors, Lewis, Bergstrom, & Larimer, 2006). Indeed, individuals with Controlled orientations are concerned with rules, perceptions of social norms, and other external factors. Thus, treatments that incorporate these principles may be especially benefi- cial to such individuals.
The substance-using population may provide a valuable population from which to study causality orientations (Smith, 2011). Recent Sub- stance Abuse and Mental Health Services Administration (SAMHSA) data indicates that the most prevalent illicit drug of use is marijuana,

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทฤษฎีเจตจำนงเป็น meta -ทฤษฎีที่อธิบาย tionships จริงระหว่างปัจจัยภายใน และภายนอกในลักษณะ extrin - เล่นแรงจูงใจ (Deci & Ryan, 2011) แนวทฤษฎีอำนาจ ส่วนประกอบของทฤษฎีเจตจำนง อธิบายพัฒน์นกของแต่ละบุคคลนางนวลแกลบของแรงจูงใจและพฤติกรรม แนวทั่วไปอำนาจจะไปปล่อยลงให้ atively ยืนยง ลักษณะลักษณะสะท้อนความเชื่อของบุคคลเกี่ยวกับความสามารถในการส่งเสริม หรือทำให้เปลี่ยนแปลง (Deci & Ryan, 1985) ความเชื่อเหล่านี้เกี่ยวกับโลกัสโพลของอำนาจสอดคล้องกับรูปแบบการสร้างแรงบันดาลใจของแต่ละบุคคล แนวแตกที่สามได้ถูกประเมิน: อิสระ เกี่ยวข้องกับโลกัสโพลการภายในของอำนาจและแรงจูงใจที่แท้จริง ควบคุม ที่เกี่ยวข้องกับโลกัสโพลการภายนอกของอำนาจและแรงจูงใจละเลย และ Impersonal เกี่ยวข้องกับการขาดการควบคุมอำนาจนำไปสู่การขาดแรงจูงใจการศึกษาก่อนหน้านี้รายงานอำนาจที่เกี่ยวข้องกับผลการรักษาแนว เช่น แนวอิสระถูก ated associ กับลดภาวะซึมเศร้าของบุคคลในการรักษาโดยย่อ depres-sion (Zuroff et al. 2007) และอัตราเข้าร่วมสูงและมากขึ้นอย่างต่อเนื่องน้ำหนักในหมู่บุคคลที่ลงทะเบียนในโปรแกรมการลดน้ำหนักในระยะยาว (วิลเลียมส์ เติบโต อิสระ Ryan และ Deci, 1996) ส่วนใหญ่ของงานวิจัยได้เน้นที่เหนือกว่าของแนวอิสระส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงลักษณะการทำงาน อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ควบคุมแนวอาจมากขึ้นได้รับประโยชน์จากบางชนิดของรังสีรักษา (เพื่อนบ้าน ลูอิส ออสติน และ Larimer, 2006) แน่นอน บุคคลที่ มีแนวควบคุมมีความกังวลกับกฎ การรับรู้บรรทัดฐานทางสังคม และปัจจัยอื่น ๆ ภายนอก ดังนั้น รักษาที่รวมหลักการเหล่านี้ได้โดยเฉพาะ benefi-กับบุคคลดังกล่าวประชากรใช้สารอาจให้ประชากรมีการศึกษาแนวอำนาจ (Smith, 2011) ข้อมูลล่าสุดย่อยท่าทางละเมิดและทางจิตสุขภาพบริการจัดการ (SAMHSA) บ่งชี้ว่า ยาเสพติดผิดกฎหมายสุดใช้ กัญชา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทฤษฎีการตัดสินใจเองเป็น -theory เมตาดาต้าที่อธิบาย tionships สัมพันธ์ระหว่างปัจจัยภายในและภายนอกภายในและแรงจูงใจ extrin- sic (Deci แอนด์ไรอัน 2011) เวรกรรมปฐมนิเทศทฤษฎีองค์ประกอบของทฤษฎีความมุ่งมั่นในตนเองอธิบายรูปแบบที่แต่ละคนของแรงจูงใจและพฤติกรรม แนวเวรกรรมทั่วไป rel- atively ยั่งยืนลักษณะลักษณะเหมือนสะท้อนของความเชื่อของแต่ละบุคคลเกี่ยวกับความสามารถของพวกเขาในการส่งเสริมหรือก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง (Deci แอนด์ไรอัน, 1985) ความเชื่อเหล่านี้เกี่ยวกับสถานทีของเวรกรรมสอดคล้องกับรูปแบบการสร้างแรงบันดาลใจของแต่ละบุคคล สามทิศทางที่แตกต่างกันได้รับการประเมิน: เอกราชเกี่ยวข้องกับความเชื่ออำนาจภายในตนเวรกรรมและแรงจูงใจภายใน; การควบคุมที่เกี่ยวข้องกับความเชื่ออำนาจภายนอกของเวรกรรมและแรงจูงใจภายนอก; และไม่มีตัวตนที่เกี่ยวข้องกับการขาดการควบคุมเวรกรรมที่นำไปสู่การขาดแรงจูงใจ.
ศึกษาก่อนหน้านี้รายงานว่าแนวเวรกรรมที่เกี่ยวข้องกับผลการรักษา ยกตัวอย่างเช่นการหมุนเอกราชถูก associ- ated กับอัตราการลดลงของภาวะซึมเศร้าในหมู่ประชาชนในการรักษาซึม Sion สั้น ๆ (Zuroff et al., 2007) และการเข้าร่วมที่สูงขึ้นและอัตราการสูญเสียน้ำหนักอย่างยั่งยืนมากขึ้นในหมู่ประชาชนที่ลงทะเบียนในการสูญเสียน้ำหนักในระยะยาว Program (วิลเลียมส์, Grow, อิสระ, ไรอันและ Deci, 1996) ส่วนใหญ่ของการวิจัยได้มุ่งเน้นไปที่เหนือกว่าของการหมุนอิสระในโปรโมชั่นของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม อย่างไรก็ตามบุคคลที่มีทิศทางที่ควบคุมมากขึ้นอาจได้รับประโยชน์จากบางชนิดของรังสีรักษา (เพื่อนบ้านลูอิสเบิร์กสตรอมและ Larimer 2006) อันที่จริงบุคคลที่มีทิศทางที่ควบคุมมีความกังวลกับกฎการรับรู้ของบรรทัดฐานทางสังคมและปัจจัยภายนอกอื่น ๆ ดังนั้นการรักษาที่นำหลักการเหล่านี้อาจจะเป็นทางการ benefi- เฉพาะอย่างยิ่งกับบุคคลดังกล่าว.
สารโดยใช้ประชากรอาจจัดให้มีประชากรที่มีคุณค่าที่จะศึกษาแนวเวรกรรม (สมิ ธ 2011) ล่าสุดการละเมิดท่าทางอนุกรรมการและบริการสุขภาพจิตการบริหาร (SAMHSA) ข้อมูลที่บ่งชี้ว่ายาที่ผิดกฎหมายที่แพร่หลายมากที่สุดคือการใช้กัญชา