Contingency theory has been the dom

Contingency theory has been the dominant theoretical framework
adopted by researchers analysing the relationship between strategy
and MCS and how this influences firm performance (Chenhall,
2003; Langfield-Smith, 1997). These studies suggest that adoption of
a particular strategic orientation can promote business enterprise
performance when supported by a particular MCS type (Collins et al.,
1997; Cooper, 1996; Govindarajan, 1988; Govindarajan & Gupta, 1985;
Kald et al., 2000; Simons, 1987, 1990).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทฤษฎีฉุกเฉินได้รับกรอบทฤษฎีหลักการโดยนักวิจัยวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างกลยุทธ์และ MCS และวิธีนี้มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน (Chenhall ยืนยัน2003 Langfield-Smith, 1997) การศึกษาเหล่านี้แนะนำที่ยอมรับของยุทธศาสตร์เฉพาะที่สามารถส่งเสริมธุรกิจองค์กรประสิทธิภาพเมื่อโดย MCS บางชนิด (คอลลินส์ et al.,1997 คูเปอร์ 1996 Govindarajan, 1988 Govindarajan และคุปตะ 1985Kald et al. 2000 ไซมอน 1987, 1990)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทฤษฎีฉุกเฉินได้รับกรอบทฤษฎีที่โดดเด่น
นำโดยนักวิจัยการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างกลยุทธ์
และ MCS และวิธีการนี้มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของ บริษัท (Chenhall,
2003 Langfield-Smith, 1997) การศึกษานี้ชี้ให้เห็นการยอมรับว่า
การวางยุทธศาสตร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามารถส่งเสริมองค์กรธุรกิจ
ประสิทธิภาพการทำงานเมื่อได้รับการสนับสนุนโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเภท MCS (คอลลิน, et al.,
1997; คูเปอร์ 1996; Govindarajan 1988; Govindarajan และ Gupta 1985;
. Kald et al, 2000 ; Simons 1987, 1990)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทฤษฎีการวางเงื่อนไขมีกรอบทฤษฎีเด่นนำโดยนักวิจัยวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างกลยุทธ์และ พิธีกร และวิธีการนี้มีผลต่อสมรรถนะ ( chenhall บริษัท ,2003 ; langfield สมิธ , 1997 ) การศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าการโดยเฉพาะยุทธศาสตร์การส่งเสริมองค์กรธุรกิจสามารถการปฏิบัติเมื่อได้รับการสนับสนุนโดยเฉพาะประเภทพิธีกร ( คอลลินส์ et al . ,1997 ; Cooper , 1996 ; govindarajan , 1988 ; govindarajan & Gupta , 1985 ;kald et al . , 2000 ; Simons , 1987 , 1990 )