In the last half of the 20th centur

In the last half of the 20th century, the use of chemical fertilizers (as opposed to the historical use of animal manure) has risen dramatically. The high rate of application of nitrogen-rich fertilizers has effects on the heat storage of cropland (nitrogen oxides have 300 times more heat-trapping capacity per unit of volume than carbon dioxide) and the run-off of excess fertilizers creates ‘dead-zones’ in our oceans. In addition to these effects, high nitrate levels in groundwater due to over-fertilization are cause for concern for human health.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในครึ่งหลังของศตวรรษที่ 20 การใช้ปุ๋ยเคมี (เมื่อเทียบกับการใช้ประวัติศาสตร์มูลสัตว์) ได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก แอพลิเคชันของไนโตรเจนที่อุดมด้วยปุ๋ยอัตราสูงมีผลกระทบในการจัดเก็บความร้อน cropland (ไนโตรเจนออกไซด์มี 300 ครั้งความร้อนดักความจุต่อหน่วยปริมาตรมากกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์) และทิ้งของปุ๋ยส่วนเกินสร้างโซนตายในมหาสมุทรของเรา นอกจากผลกระทบเหล่านี้ ระดับไนเตรทสูงในน้ำบาดาลเนื่องจากการปฏิสนธิมากเกินเป็นสาเหตุสำหรับกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของมนุษย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 20 การใช้ปุ๋ยเคมี (เมื่อเทียบกับการใช้งานทางประวัติศาสตร์ของมูลสัตว์) ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อัตราที่สูงของการใช้ปุ๋ยไนโตรเจนที่อุดมไปด้วยมีผลกระทบต่อการจัดเก็บความร้อนของ cropland (ไนโตรเจนออกไซด์มี 300 ครั้งที่ดักความร้อนกำลังการผลิตต่อหน่วยของปริมาณกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์) และวิ่งออกปุ๋ยส่วนเกินสร้าง 'โซนตาย ในมหาสมุทรของเรา นอกเหนือไปจากผลกระทบเหล่านี้ปริมาณไนเตรทสูงในน้ำใต้ดินเนื่องจากเกินปฏิสนธิเป็นสาเหตุของความห่วงใยต่อสุขภาพของมนุษย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในครึ่งหลังของศตวรรษที่ 20 การใช้ปุ๋ยเคมี ( ตรงข้ามกับประวัติศาสตร์การใช้มูลสัตว์ ) ได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก อัตราสูงของการใช้ปุ๋ยที่อุดมไปด้วยไนโตรเจนมีผลต่อความร้อนกระเป๋าของ cropland ( ไนโตรเจนออกไซด์ได้ 300 เท่า กับดักความจุความร้อนต่อหน่วยของปริมาณกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ ) และแหล่งของปุ๋ยส่วนเกินสร้าง " โซน " ตายในมหาสมุทรของเรา นอกจากผลกระทบเหล่านี้สูง , ไนเตรตในน้ำระดับขึ้นไปเนื่องจากการปฏิสนธิจะเป็นสาเหตุสำหรับกังวลสำหรับสุขภาพของมนุษย์