A mass of mineral particles alone d

A mass of mineral particles alone do not constitute a true soil. True soils are influenced, modified, and supplemented by living organisms. Plants and animals aid in the development of a soil through the addition of organic matter. Fungi and bacteria decompose this organic matter into a semi-soluble chemical substance known as humus. Larger soil organisms, like earthworms, beetles, and termites, vertically redistribute this humus within the mineral matter found beneath the surface of a soil.

Humus is the biochemical substance that makes the upper layers of the soil become dark. It is colored dark brown to black. Humus is difficult to see in isolation because it binds with larger mineral and organic particles. Humus provides soil with a number of very important benefits:



It enhances a soil's ability to hold and store moisture.
It reduces the eluviation of soluble nutrients from the soil profile.
It is the primary source of carbon and nitrogen required by plants for their nutrition.
It improves soil structure which is necessary for plant growth.

Organic activity is usually profuse in the near surface layers of a soil. For instance, one cubic centimeter of soil can be the home to more than 1,000,000 bacteria. A hectare of pasture land in a humid mid-latitude climate can contain more than a million earthworms and several million insects. Earthworms and insects are extremely important because of their ability mix and aerate soil. Higher porosity, because of mixing and aeration, increases the movement of air and water from the soil surface to deeper layers where roots reside. Increasing air and water availablity to roots has a significant positive effect on plant productivity. Earthworms and insects also produce most of the humus found in a soil through the incomplete digestion of organic matter.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มวลของอนุภาคแร่เพียงอย่างเดียวเป็นดินจริง ดินเนื้อปูนจริงมีอิทธิพลต่อ แก้ไข และเสริม โดยสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ พืชและสัตว์ช่วยในการพัฒนาของดินโดยเพิ่มอินทรีย์ เชื้อราและแบคทีเรียอินทรียนี้เป็นสารเคมีกึ่งละลายน้ำเรียกว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงกลาย ใหญ่ดินสิ่งมีชีวิต เช่นไส้เดือน ด้วง ปลวก พอเกิดการเปลี่ยนแปลงกลายภายในเรื่องแร่ที่พบใต้ผิวดินเป็นแนวตั้งเกิดการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นสารชีวเคมีที่ทำให้ชั้นบนของดินเป็นสีดำ มันเป็นสีน้ำตาลเข้มถึงดำ เกิดการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นยากที่จะเห็นแยก เพราะมัน binds กับอนุภาคแร่ และอินทรีย์ขนาดใหญ่ เกิดการเปลี่ยนแปลงกลายช่วยให้ดิน มีประโยชน์สำคัญมาก: ช่วยสามารถกดค้างไว้ และเก็บความชื้นของดิน มันลด eluviation ของสารอาหารที่ละลายน้ำจากดินโพรไฟล์ แหล่งที่มาหลักของคาร์บอนและไนโตรเจนตามพืชโภชนาการของตนได้ เป็นการปรับปรุงโครงสร้างดินซึ่งจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของพืชกิจกรรมเกษตรอินทรีย์จะสะพรั่งในชั้นใกล้ผิวของดินอยู่ ตัวอย่าง ดินหนึ่งลูกบาศก์เซนติเมตรได้บ้านกับแบคทีเรียมากกว่า 1000000 Hectare พาสเจอร์ที่ดินในชื้นละติจูดกลางอากาศสามารถประกอบด้วยมากกว่าล้านไส้เดือนและแมลงหลายล้าน ไส้เดือนและแมลงมีความสำคัญมากเนื่องจาก มีการคละความสามารถ และผึ่งลมดิน สูง porosity ผสมและ aeration เพิ่มการเคลื่อนที่ของอากาศและน้ำจากผิวดินชั้นลึกที่รากอยู่ เพิ่มสอบชื่ออากาศและน้ำให้รากมีความสำคัญส่งผลบวกต่อผลผลิตพืช ไส้เดือนและแมลงยังผลิตส่วนใหญ่เกิดการเปลี่ยนแปลงกลายที่พบในดินที่ผ่านการย่อยอาหารไม่สมบูรณ์ของอินทรีย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มวลของอนุภาคแร่เพียงอย่างเดียวไม่ได้เป็นการดินจริง ดินที่ทรูได้รับอิทธิพลแก้ไขและเสริมด้วยสิ่งมีชีวิต พืชและสัตว์ที่ช่วยในการพัฒนาของดินที่ผ่านการเพิ่มอินทรียวัตถุ เชื้อราและแบคทีเรียย่อยสลายสารอินทรีย์นี้ลงในสารกึ่งละลายที่รู้จักกันเป็นปุ๋ยอินทรีย์ ขนาดใหญ่มีชีวิตในดินเช่นไส้เดือนแมลงและปลวกแนวตั้งแจกจ่ายปุ๋ยอินทรีย์นี้ภายในไม่กี่แร่ธาตุที่พบใต้พื้นผิวของดิน. ฮิวมัสเป็นสารชีวเคมีที่ทำให้ชั้นบนของดินกลายเป็นสีดำ มันเป็นสีน้ำตาลเข้มสีดำ ปุ๋ยอินทรีย์เป็นเรื่องยากที่จะเห็นในการแยกเพราะมันผูกกับแร่ธาตุที่มีขนาดใหญ่และอนุภาคอินทรีย์ ฮิวมัสให้ดินที่มีจำนวนของผลประโยชน์ที่สำคัญมาก: จะช่วยเพิ่มความสามารถของดินในการถือและเก็บความชื้น. จะช่วยลด eluviation ของสารอาหารที่ละลายน้ำได้จากโปรไฟล์ของดิน. มันเป็นแหล่งที่มาหลักของคาร์บอนและไนโตรเจนที่จำเป็นโดยพืชสำหรับคุณค่าทางโภชนาการของพวกเขาจะช่วยเพิ่มโครงสร้างของดินซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของพืช. กิจกรรมอินทรีย์มักจะมากมายในชั้นผิวที่อยู่ใกล้ดิน ตัวอย่างหนึ่งลูกบาศก์เซนติเมตรของดินสามารถที่บ้านให้มากขึ้นกว่า 1,000,000 แบคทีเรีย เฮกตาร์ของทุ่งหญ้าในสภาพภูมิอากาศละติจูดกลางชื้นสามารถมีมากกว่าหนึ่งล้านไส้เดือนและแมลงหลายล้าน ไส้เดือนดินและแมลงมีความสำคัญมากเพราะการผสมผสานความสามารถของพวกเขาและดินผึ่งลม ความพรุนสูงขึ้นเนื่องจากการผสมและการเติมอากาศเพิ่มการเคลื่อนไหวของอากาศและน้ำจากพื้นผิวดินชั้นลึกที่รากอาศัยอยู่ อากาศที่เพิ่มขึ้นและน้ำ availablity ไปที่รากมีผลบวกอย่างมีนัยสำคัญในการผลิตพืช ไส้เดือนดินและแมลงยังผลิตส่วนใหญ่ของซากพืชที่พบในดินที่ผ่านการย่อยที่ไม่สมบูรณ์ของสารอินทรีย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มวลของอนุภาคแร่เพียงอย่างเดียวไม่ได้เป็นดินที่แท้จริง ดินที่แท้จริงได้รับอิทธิพล , แก้ไข และเสริมด้วยสิ่งมีชีวิต พืชและสัตว์ที่ช่วยในการพัฒนาของดินโดยการเพิ่มอินทรีย์วัตถุ เชื้อราและแบคทีเรียย่อยสลายอินทรียวัตถุให้เป็นกึ่งละลายสารเคมีที่เรียกว่าฮามัส สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ ดิน เช่น ไส้เดือน แมลงและปลวกแนวตั้งแจกจ่ายปุ๋ยอินทรีย์ภายในแร่สำคัญที่พบอยู่ใต้พื้นผิวของดิน

ฮิวเป็นสารชีวเคมีที่ทำให้ชั้นบนของดินจะมืด มันเป็นสีน้ำตาลเข้มถึงดำ ปุ๋ยอินทรีย์ คือ ยากที่จะเห็นในการแยกเพราะมันผูกกับแร่ขนาดใหญ่และอนุภาคอินทรีย์ ฮิวให้ดินมีจำนวนของผลประโยชน์ที่สำคัญมาก :



มันช่วยเพิ่มความสามารถของดินที่จะถือและเก็บความชื้น
มันช่วยลดการซึมชะของละลายสารอาหารจากดิน .
มันเป็นแหล่งที่มาหลักของคาร์บอนและไนโตรเจนที่จำเป็นโดยพืชสำหรับอาหารของพวกเขา .
มันปรับปรุงโครงสร้างดินที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของพืช .

กิจกรรมอินทรีย์มักจะสะพรั่งในใกล้ ผิวชั้นของดิน สำหรับอินสแตนซ์หนึ่งลูกบาศก์เซนติเมตรของดินสามารถบ้านมากกว่า 1000000 แบคทีเรีย เป็นเฮคเตอร์ของที่ดินทุ่งหญ้าในละติจูดกลางอากาศชื้นสามารถมีมากกว่าหนึ่งล้านไส้เดือนและแมลงหลายล้าน ไส้เดือนและแมลง ที่สำคัญมาก เพราะการผสมความสามารถของพวกเขาและผึ่งลมดิน มีความพรุนสูง เพราะการผสมอากาศเพิ่มการเคลื่อนไหวของอากาศและน้ำจากผิวดินถึงชั้นลึกที่รากอยู่ การเพิ่มอากาศและน้ำ availablity รากมีผลกระทบในเชิงบวกต่อผลผลิตพืช ไส้เดือนและแมลง ผลิตมากที่สุดของซากพืชที่พบในดินที่ผ่านการย่อยที่ไม่สมบูรณ์ของสารอินทรีย์