One theoretical extension of Optima

One theoretical extension of Optimal Distinctiveness Theory (ODT; Brewer, 1991; Leonardelli, Pickett, & Brewer, 2010) is that individuals will work toward the satisfaction of their own social identity needs for differentiation (standing out) and assimilation (fitting in). Because these needs serve as driving forces behind the attitudes people adopt, and the behaviors they enact, the motivational properties of these needs are likely to be manifest in achievement contexts. Bridging ODT and Expectancy-Value Theory, this article examines the prediction that academic tasks are seen by students as more important when they contribute to students’ ability to stand out (task differentiation) from and fit in (task assimilation) with their classmates. This prediction was supported among an ethnically diverse sample of STEM-focused high school students who rated the importance of 18 mathematics-related academic tasks. Additional analyses demonstrated that the association between task assimilation and task importance was stronger for students who perceived their academic learning environment to be performance-focused (performance goal structure). There also was a significant interaction between task differentiation and task assimilation, such that the association between task assimilation and task importance attenuated at higher levels of task differentiation. The present study is one of the few investigations to assess how students’ valuing within a single academic domain might fluctuate from one academic task to the next (e.g., taking notes versus working out problems on the board). The Discussion addresses the theoretical and practical significance of acknowledging differentiation and assimilation as vehicles for motivating students in the classroom.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขยายทฤษฎีหนึ่งทฤษฎีงามสม (ODT เบียร์ 1991 Leonardelli, Pickett และ เบียร์ 2010) ว่า บุคคลจะทำงานต่อความพึงพอใจความต้องการของตัวเองตัวตนทางสังคม (ยืนออก) ความแตกต่างและผสม (ตัวใน) ต้องขับรถเป็นใช้แรงคนทัศนคติ และพฤติกรรมแสดงออกของพวกเขา คุณสมบัติสร้างแรงบันดาลใจของความต้องการเหล่านี้น่าจะเป็นรายการในบริบทความสำเร็จ ระหว่างกาล ODT และทฤษฎีค่างาน บทความนี้ตรวจสอบทำนายว่า งานทางวิชาการเห็นนักเรียนเป็นสำคัญมากขึ้นเมื่อพวกเขามีส่วนร่วมจากความสามารถนักโดด (ความแตกต่างของงาน) และใน (งานผสม) บริบท คาดเดานี้ได้รับการสนับสนุนในหมู่นักเรียนเน้นต้นกำเนิดที่ได้คะแนนความสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์ 18 งานทางวิชาการ อย่างหลากหลายชนชาติ วิเคราะห์เพิ่มเติมแสดงให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างงานผสมกลมกลืนและความสำคัญของงานคือแข็งแกร่งนักเรียนรู้สภาพแวดล้อมการเรียนรู้วิชาการจะเน้นประสิทธิภาพ (โครงสร้างเป้าหมายประสิทธิภาพ) มียังมีการโต้ตอบที่สำคัญระหว่างความแตกต่างของงานและงานผสม ที่ attenuated สัมพันธ์ระหว่างงานผสมกลมกลืนและความสำคัญของงานในระดับสูงขึ้นของความแตกต่างของงาน ศึกษาเป็นหนึ่งของการสืบสวนไม่กี่เพื่อประเมินว่านักศึกษาคุณค่าภายในโดเมนเดียววิชาการอาจผันผวนจากงานวิชาการหนึ่งถัดไป (เช่น การบันทึกและการทำงานออกปัญหาบนกระดาน) สนทนาที่เน้นความสำคัญทางทฤษฎี และทางปฏิบัติของความแตกต่างและผสมกลมกลืนเป็นยานพาหนะสำหรับการสร้างแรงจูงใจนักเรียนในห้องเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หนึ่งขยายทฤษฎีที่เหมาะสมเด่นทฤษฎี (ODT; บรูเออร์ 1991; Leonardelli, พิกเกตและเหล้า 2010) คือบุคคลที่จะทำงานต่อความพึงพอใจของตัวตนของตัวเองสังคมต้องการสำหรับความแตกต่าง (ยืนออก) และการดูดซึม (กระชับใน) เพราะความต้องการเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นแรงผลักดันที่อยู่เบื้องหลังทัศนคติคนนำมาใช้และพฤติกรรมที่พวกเขาออกพระราชกำหนด, คุณสมบัติที่สร้างแรงบันดาลใจของความต้องการเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเป็นที่ประจักษ์ในบริบทความสำเร็จ Bridging ODT และความคาดหวัง-Value ทฤษฎีบทความนี้จะตรวจสอบการคาดการณ์ที่ว่างานวิชาการจะเห็นนักเรียนเป็นสิ่งที่สำคัญมากขึ้นเมื่อพวกเขามีส่วนร่วมในความสามารถของนักเรียนที่จะยืนออก (ความแตกต่างของงาน) จากและพอดี (งานการดูดซึม) กับเพื่อนร่วมชั้นของพวกเขา คำทำนายนี้ได้รับการสนับสนุนในหมู่ตัวอย่างหลากหลายเชื้อชาติของลำต้นที่มุ่งเน้นนักเรียนมัธยมที่จัดอันดับความสำคัญของ 18 คณิตศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับงานทางวิชาการ การวิเคราะห์เพิ่มเติมแสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างการดูดซึมงานและความสำคัญของงานได้ดีสำหรับนักเรียนที่รับรู้สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ทางวิชาการของพวกเขาที่จะได้รับผลการดำเนินงานที่มุ่งเน้น (โครงสร้างเป้าหมายประสิทธิภาพ) นอกจากนี้ยังเป็นปฏิสัมพันธ์ที่สำคัญระหว่างความแตกต่างของงานและงานของการดูดซึมเช่นว่าความสัมพันธ์ระหว่างการดูดซึมงานและความสำคัญของงานจางในระดับที่สูงขึ้นของความแตกต่างของงาน การศึกษาครั้งนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่สืบสวนเพื่อประเมินว่านักเรียนคุณค่าภายในโดเมนวิชาการเดียวอาจมีความผันผวนจากงานวิชาการที่ถัดไป (เช่นการจดบันทึกเมื่อเทียบกับการทำงานออกปัญหาบนกระดาน) การอภิปรายอยู่อย่างมีนัยสำคัญในทางทฤษฎีและทางปฏิบัติของการยอมรับความแตกต่างและการดูดซึมเป็นยานพาหนะสำหรับการสร้างแรงจูงใจให้นักเรียนในห้องเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หนึ่งการขยายทฤษฎีทฤษฎีความพิเศษที่เหมาะสม ( odt ; ผล , 1991 ; leonardelli พิคเก็ต , และ , เบียร์ , 2010 ) คือการที่บุคคลจะทำงานต่อความพึงพอใจของอัตลักษณ์ทางสังคมของตนเองความต้องการความแตกต่าง ( ยืน ) และการผสมผสาน ( รึเปล่า ) เพราะความต้องการเหล่านี้เป็นแรงผลักดันที่อยู่เบื้องหลังคน adopt ทัศนคติและพฤติกรรมที่พวกเขาแสดงออก การสร้างแรงจูงใจ คุณสมบัติของความต้องการเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะปรากฏในบริบททางวิชาการ การเชื่อมโยงทฤษฎีความคาดหวัง odt มูลค่าและบทความนี้ตรวจสอบการทำนายที่งานวิชาการ จะเห็นนักเรียนเป็นสำคัญมากขึ้นเมื่อพวกเขาช่วยให้นักเรียนสามารถที่จะยืนออก ( นอกงาน ) และพอดี ( การงาน ) กับเพื่อนร่วมห้อง การทำนายนี้ได้รับการสนับสนุนในตัวอย่างที่มีความหลากหลายเชื้อชาติของก้านที่เน้นนักเรียนมัธยมที่จัดอันดับความสำคัญของคณิตศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับวิชาการ 18 งาน การวิเคราะห์เพิ่มเติม พบว่า ความสัมพันธ์ระหว่างการ งาน และ งานสำคัญคือการรับรู้สภาพแวดล้อมในการเรียนที่แข็งแกร่งสำหรับนักเรียนของโรงเรียนจะเน้นงานโครงสร้างเป้าหมายประสิทธิภาพ ) นอกจากนี้มีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันระหว่างการงานและงานดูดซึม เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างงานและงานสำคัญในการลดระดับของความแตกต่างของงาน การศึกษาครั้งนี้เป็นหนึ่งในการตรวจสอบไม่กี่เพื่อประเมินวิธีการที่นักเรียนนิยมภายในโดเมนเดียว วิชาการอาจจะผันผวนจากงานวิชาการเพื่อต่อไป ( เช่น การจดบันทึก และทำงานออกปัญหาในบอร์ด ) การอภิปรายเน้นทฤษฎี และปฏิบัติ ความสำคัญของการยอมรับการเป็นยานพาหนะสำหรับเด็กนักเรียนในชั้นเรียน