Agriculture, forestry and fishing[e

Agriculture, forestry and fishing[edit]
Main article: Agriculture in Thailand
Developments in agriculture since the 1960s have supported Thailand's transition to an industrialised economy.[60] As recently as 1980, agriculture supplied 70 percent of employment.[60] In 2008, agriculture, forestry and fishing contributed 8.4 percent to GDP; in rural areas, farm jobs supply half of employment.[60] Rice is the most important crop in the country and Thailand had long been the world's no.1 exporter of rice, until recently falling behind both India and Vietnam.[61] It is a major exporter of shrimp. Other crops include coconuts, corn, rubber, soybeans, sugarcane and tapioca.[62]

In 1985, Thailand designated 25 percent of its land area for forest protection and 15 percent for timber production. Forests have been set aside for conservation and recreation, and timber forests are available for the forestry industry. Between 1992 and 2001, exports of logs and sawn timber increased from 50,000 to 2,000,000 cubic meters per year.

The regional avian-flu outbreak contracted Thailand's agricultural sector in 2004, and the tsunami of 26 December devastated the west-coast fishing industry. In 2005 and 2006, agricultural GDP was reported to have contracted by 10 percent.[63]

Thailand is the world's second-largest exporter of gypsum (after Canada), although government policy limits gypsum exports to support prices. In 2003 Thailand produced more than 40 different minerals, with an annual value of about USD740 million. More than 80 percent of these minerals were used domestically. In September 2003, to encourage foreign investment in mining the government relaxed its restrictions on mining by foreign companies and reduced mineral royalties owed to the state.[63]

Industry and manufacturing[edit]
Women wearing gloves and masks on an assembly line
Production-line workers at a factory in Chachoengsao
In 2007 industry contributed 43.9 percent of GDP, employing 14 percent of the workforce. Industry expanded at an average annual rate of 3.4 percent from 1995 to 2005. The most important sub-sector of industry is manufacturing, which accounted for 34.5 percent of GDP in 2004.

Thailand is becoming a center for automobile manufacturing for the Association of Southeast Asian Nations (ASEAN) market. By 2004 automobile production reached 930,000 units, more than twice as much as in 2001. Toyota and Ford are active in Thailand, and the expansion of the automotive industry has increased domestic steel production. Thailand's electronics industry faces competition from Malaysia and Singapore, and its textile industry faces competition from China and Vietnam.[63]

Energy[edit]
Further information: Energy in Thailand
Thailand's 2004 energy consumption was estimated at 3.4 quadrillion British thermal units, representing about 0.7 percent of total world energy consumption. Thailand is a net importer of oil and natural gas; however, the government is promoting ethanol to reduce imports of petroleum and the gasoline additive methyl tertiary butyl ether.

In 2005, the country's daily oil consumption of 838,000 barrels per day (133,200 m3/d) exceeded its production of 306,000 barrels per day (48,700 m3/d). Thailand's four oil refineries have a combined capacity of 703,100 barrels per day (111,780 m3/d). The government is considering a regional oil-processing and transportation hub serving south-central China. In 2004, Thailand's natural-gas consumption of 1,055 billion cubic feet (2.99×1010 m3) exceeded its production of 790 billion cubic feet (2.2×1010 m3).

The country's 2004 estimated coal consumption of 30.4 million short tons exceeded its production of 22.1 million. As of January 2007, proven oil reserves totaled 290 million barrels (46,000,000 m3) and proven natural-gas reserves were 14.8 trillion cubic feet (420 km3). In 2003, recoverable coal reserves totaled 1,492.5 million short tons.[63]

In 2005, Thailand used about 117.7 billion kilowatt hours of electricity. Consumption rose by 4.7 percent in 2006, to 133 billion kWh. According to the Electricity Generating Authority of Thailand (the national electricity utility), power consumption by residential users is increasing due to more favorable rates for residential customers than for the industry and business sectors. Thailand's electric utility and petroleum companies (also state-controlled) are being restructured.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เกษตร ป่าไม้ และประมง [แก้ไข]บทความหลัก: เกษตรกรรมในประเทศไทยพัฒนาเกษตรกรรมตั้งแต่ปี 1960 ได้สนับสนุนของไทยเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจ industrialised[60] เป็นล่าสุดที่ 1980 เกษตรให้ร้อยละ 70 ของการจ้างงาน[60] ในปี 2008 เกษตร ป่าไม้ และประมงส่วนร้อยละ 8.4 การ GDP ในพื้นที่ชนบท งานฟาร์มจัดหาครึ่งหนึ่งของการจ้างงาน[60] ข้าวเป็นพืชสำคัญที่สุดในประเทศ และประเทศไทยมีมานานในโลกที่ 1 ผู้ส่งออกข้าว จนล่าสุด ตกอยู่ข้างหลังทั้งอินเดียและเวียดนาม[61] เป็นผู้ส่งออกที่สำคัญของกุ้ง พืชอื่น ๆ ได้แก่มะพร้าว ข้าวโพด ยาง ถั่วเหลือง อ้อย และมันสำปะหลัง[62]ในปี 1985 ไทยกำหนดร้อยละ 25 ของพื้นที่คุ้มครองป่าไม้และร้อยละ 15 สำหรับการผลิตไม้ ป่าไม้ได้ถูกตั้งไว้อนุรักษ์และพักผ่อนหย่อนใจ และไม้ป่ามีป่าไม้ ระหว่างปี 1992 และ 2001 บันทึกและไม้ที่ส่งออกเพิ่มขึ้นจาก 50000 2000000 ลูกบาศก์เมตรต่อปีระบาดของโรคไข้หวัดนกระดับภูมิภาคสัญญาภาคเกษตรของไทยในปี 2004 และสึนามิ 26 ธันวาคมทำลายอุตสาหกรรมประมงชายฝั่งตะวันตก ในปี 2005 และ 2006, GDP เกษตรเป็นรายงานที่มีตีบ 10 เปอร์เซ็นต์[63]ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกที่สองที่ใหญ่ที่สุดในโลกของยิปซัม (หลังจากแคนาดา), ถึงแม้ว่ารัฐบาลจำกัดการส่งออกยิปซัมเพื่อสนับสนุนราคา ใน 2003 ไทยผลิตมากกว่า 40 แร่ต่าง ๆ มีการค่ารายปีของเกี่ยวกับ USD740 ล้าน กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของแร่ธาตุเหล่านี้ถูกใช้ในประเทศ ในเดือน 2003 กันยายน ส่งเสริมการลงทุนต่างประเทศในรัฐบาลการทำเหมืองแร่ผ่อนคลายการจำกัดทำเหมืองแร่โดยบริษัทต่างประเทศและค่าภาคหลวงแร่ที่ลดลงที่เป็นหนี้รัฐ[63]อุตสาหกรรมและการผลิต [แก้ไข]ผู้หญิงที่สวมถุงมือและหน้ากากบนบรรทัดส่วนประกอบผู้ปฏิบัติงานสายการผลิตที่โรงงานในฉะเชิงเทราในปี 2007 อุตสาหกรรมส่วนร้อยละ 43.9 ของ GDP ใช้ 14 ร้อยละของบุคลากร อุตสาหกรรมขยายที่มีอัตราเฉลี่ยปีร้อยละ 3.4 จาก 1995 ถึงปี 2005 ภาคย่อยที่สำคัญที่สุดของอุตสาหกรรมคือการผลิต ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 34.5 ของ GDP ในปี 2004ประเทศไทยเป็น ศูนย์กลางผลิตรถยนต์สำหรับตลาดสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) โดยปี 2004 รถยนต์ผลิตถึง 930,000 หน่วย มากกว่าสองเท่ากว่าในปี 2001 โตโยต้าและฟอร์ดจะทำงานในประเทศไทย และการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ได้เพิ่มการผลิตเหล็กในประเทศ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของไทยเผชิญการแข่งขันจากประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย และการแข่งขันหน้าอุตสาหกรรมสิ่งทอจากจีนและเวียดนาม[63]พลังงาน [แก้ไข]ข้อมูลเพิ่มเติม: พลังงานในประเทศไทยปริมาณการใช้พลังงานของประเทศไทยปี 2004 มีประมาณที่ 3.4 quadrillion อังกฤษร้อนหน่วย แสดงประมาณ 0.7 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณการใช้พลังงานของโลกทั้งหมด ประเทศไทยเป็นประเทศผู้นำเข้าสุทธิของน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะส่งเสริมเอทานอลเพื่อลดการนำเข้าปิโตรเลียมและน้ำมันสามารถ methyl ด...ต่ออีเทอร์ในปี 2005 ประเทศบริโภคต่อวันน้ำมันของ 838,000 บาร์เรลต่อวัน (133,200 m3/d) เกินกว่าการผลิต 306,000 บาร์เรลต่อวัน (48,700 m3/d) ผนังกันดินสี่ของประเทศไทยมีกำลังการผลิตรวมของ 703,100 บาร์เรลต่อวัน (111,780 m3/d) รัฐบาลกำลังพิจารณาภูมิภาคแปรรูปน้ำมันและการขนส่งฮับอาหารจีนใต้กลาง ในปี 2004 ประเทศการใช้ก๊าซธรรมชาติ 1,055 ล้านลูกบาศก์ฟุต (2.99 × 1010 m3) เกินผลิต 790 ล้านลูกบาศก์ฟุต (2.2 × 1010 m3)ของประเทศ 2004 ประเมินการใช้ถ่านหินของ 30.4 ล้านตันสั้นเกินผลิต 22.1 ล้านคน มกราคม 2550 พิสูจน์น้ำมันสำรองรวม 290 ล้านบาร์เรล (46,000,000 m3) และสำรองก๊าซธรรมชาติพิสูจน์ได้ 14.8 ล้านลูกบาศก์ฟุต (420 km3) ใน 2003 สำรองถ่านหินที่ได้รับคืนรวม 1,492.5 ล้านตันสั้น[63]ในปี 2005 ไทยใช้เกี่ยวกับ 117.7 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงไฟฟ้า ปริมาณการใช้กุหลาบร้อยละ 4.7 ในปี 2006 ไป 133 ล้านไม่ ตามการไฟฟ้าสร้างประเทศไทยการไฟฟ้าแห่งชาติอเนกประสงค์), พลังงานผู้อยู่อาศัยจะจัดเพิ่มเนื่องจากราคาที่ดีสำหรับลูกค้าที่อยู่อาศัยกว่าสำหรับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ของประเทศไทยไฟฟ้าสาธารณูปโภคและปิโตรเลียมบริษัท (สถานะถูกควบคุม) จะถูก restructured

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเกษตร ป่าไม้ และประมง [ แก้ไข ]
บทความหลัก : เกษตรในการพัฒนาประเทศไทย
ในการเกษตรตั้งแต่ปี 1960 ได้มีการสนับสนุนการเปลี่ยนไทยเป็นประเทศอุตสาหกรรมเศรษฐกิจ [ 60 ] เมื่อเร็ว ๆ นี้ ปี 1980 , เกษตรให้ร้อยละ 70 ของการจ้างงาน [ 60 ] ในปี 2008 , การเกษตร , ป่าไม้และการประมง ( 8.4 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ; ในชนบทฟาร์ม , จัดหางานครึ่งหนึ่งของการจ้างงานข้าว [ 60 ] คือสิ่งสำคัญที่สุดของพืชในประเทศ และประเทศไทยได้นานถูกส่งออกข้าวอันดับหนึ่งของโลก จนกระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ล้าหลังทั้งอินเดียและเวียดนาม [ 61 ] มันเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของกุ้ง พืชอื่น ๆได้แก่ มะพร้าว ข้าวโพด ยางพารา มันสำปะหลัง ถั่วเหลือง อ้อย [ 62 ]

ในปี 1985ประเทศไทยเขต 25 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่สำหรับการปกป้องป่าและ 15 เปอร์เซ็นต์สำหรับการผลิตยางพารา ป่าที่ได้ถูกตั้งไว้เพื่อการอนุรักษ์ และ นันทนาการ และไม้ป่าที่มีอยู่สำหรับอุตสาหกรรมป่าไม้ 2535 และ 2544 การส่งออกไม้ท่อนและไม้แปรรูปเพิ่มขึ้นจาก 50 , 000 ถึง 2000000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี .

การระบาดของไข้หวัดนกในภูมิภาคหดตัว ภาคการเกษตรของไทยในปี 2004 และสึนามิ 26 ธันวาคมทำลายชายฝั่งตะวันตกประมงอุตสาหกรรม ในปี 2005 และ 2006 GDP ภาคเกษตรรายงานว่ามีการหดตัวร้อยละ 10 [ 63 ]

ประเทศไทยเป็นโลกที่ใหญ่เป็นอันดับสองของผู้ส่งออกยิปซัม ( แคนาดา ) แม้ว่านโยบายของรัฐบาลจำกัดการส่งออกยิปซัมเพื่อสนับสนุนราคาในปี 2003 ประเทศไทยผลิตมากกว่า 40 แร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีมูลค่าปีละประมาณ usd740 ล้านบาท มากกว่า 80% ของแร่ธาตุเหล่านี้ถูกใช้ในประเทศ ในเดือนกันยายน 2003 เพื่อส่งเสริมการลงทุนในเหมืองแร่ผ่อนคลายข้อ จำกัด ของรัฐบาลในเหมืองแร่ โดย บริษัท ต่างประเทศและลดค่าภาคหลวงแร่ติดสถานะ [ 63 ]

[ แก้ไข ]
อุตสาหกรรมและการผลิตผู้หญิงที่สวมถุงมือและหน้ากากในสายการประกอบ
สายการผลิตคนงานที่โรงงานในจังหวัดฉะเชิงเทราในปี 2007 อุตสาหกรรมสนับสนุน
รายได้ร้อยละของ GDP , พนักงาน 14 เปอร์เซ็นต์ของพนักงาน อุตสาหกรรมขยายตัวในอัตราเฉลี่ยต่อปีร้อยละ 3.4 จาก 2538 ถึง 2548 ที่สำคัญย่อยอุตสาหกรรมมีการผลิตซึ่งคิดเป็นร้อยละ 34.5 ของ GDP ในปี 2004 .

ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์สำหรับสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( อาเซียน ) ตลาด โดยปี 2004 รถยนต์การผลิตถึง 930000 หน่วย มากกว่าสองเท่าในปี 2001 โตโยต้าและฟอร์ดจะใช้งานในประเทศ และการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ได้เพิ่มการผลิตเหล็กภายในประเทศอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ไทยเผชิญกับการแข่งขันจากมาเลเซียและสิงคโปร์ และอุตสาหกรรมสิ่งทอ การเผชิญกับการแข่งขันจากจีนและเวียดนาม [ 63 ]

พลังงาน [ แก้ไข ]
ข้อมูลเพิ่มเติม : พลังงานในประเทศไทย
ของประเทศไทยการใช้พลังงานอยู่ที่ประมาณ 3.4 คว็อดรีลอังกฤษร้อนคันคิดเป็นประมาณร้อยละ 0.7 ของการบริโภคพลังงานของโลกทั้งหมดประเทศไทยเป็นประเทศผู้นำเข้าสุทธิจากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีการส่งเสริมเอทานอล เพื่อลดการนำเข้าน้ำมัน และสารเมทิลเทอร์บิวทิลอีเทอร์เบนซิน

ในปี 2005 ของประเทศทุกวัน น้ำมัน การบริโภค 838000 บาร์เรลต่อวัน ( 133200 m3 / D ) , การผลิตของ 306000 บาร์เรลต่อวัน ( 48700 ลบ . ม. / วัน )ไทยสี่น้ำมันมีความจุรวมของ 703100 บาร์เรลต่อวัน ( 111780 m3 / D ) รัฐบาลจะพิจารณาการประมวลผลน้ำมันในภูมิภาคและการขนส่งบริการในประเทศจีนตอนใต้กลาง ในปี 2004 การใช้ก๊าซธรรมชาติของประเทศไทย 682 พันล้านลูกบาศก์ฟุต ( 2.99 × 1010 ลูกบาศก์เมตรผลการผลิตของ 790 ล้านลูกบาศก์ฟุต ( 2.2 × 1010 ลูกบาศก์เมตร ) .

ของประเทศปี 2547 ประมาณ 30.4 ล้านตันสั้นจากการบริโภคเกินของการผลิตของ 22.1 ล้านบาท ในเดือนมกราคม 2007 , น้ำมันสำรองพิสูจน์แล้วรวม 290 ล้านบาร์เรล ( 46000000 M3 ) และปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติที่พิสูจน์แล้วเป็น 14.8 ล้านลูกบาศก์ฟุต ( 420 km3 ) ใน 2003 , ถ่านหินสำรองกู้คืนมี 1492.5 ล้านตันสั้น [ 63 ]

ในปี 2548 ประเทศไทยใช้ประมาณ 1177 พันล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงไฟฟ้า การบริโภคเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 ในปี 2006 ถึง 133 พันล้านกิโลวัตต์ . ตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ( สาธารณูปโภคไฟฟ้าแห่งชาติ ) , การใช้พลังงานโดยผู้ใช้ที่อยู่อาศัยจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีอัตราที่ดีกว่าสำหรับลูกค้าที่อยู่อาศัยมากกว่าสำหรับภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจบริษัท ไทย ไฟฟ้า สาธารณูปโภค และปิโตรเลียม ( รัฐ ) ที่ถูกไล่ออก